จากกรณีนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาด.ญ.แอน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี และด.ญ.ตาล (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมภายหลังพบว่าเด็กทั้ง 2 คน ถูกนายณัฐวุฒิ จำเริญ อายุ 29 ปี หรือ ช็อค คนขับรถตู้รับส่งนักเรียนกระทำอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเราบนรถตู้ ระหว่างพาไปส่งที่โรงเรียน และช่วงรับกลับหลังเลิกเรียน
วันที่ 30 พ.ย. 61
แม่ของน้อง ด.ญ.แอน อายุ 14 ปี เล่าว่า ตนทราบเรื่องในวันที่ 22 พ.ย. โดยครูที่โรงเรียนโทรศัพท์ให้ตนเดินทางไปที่โรงเรียน ตอนนั้นตนก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่เมื่อไปถึงตนเห็นลูกนั่งหน้าซีด และครูแจ้งว่าลูกถูกลวนลาม ตนจึงไปกอดและถามลูก กระทั่งลูกยอมเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
จากนั้น ครูบอกกับตนว่า ให้ไปหาหลักฐานมา เพื่อนำมายืนยันว่าคำพูดของเด็กว่า เป็นเรื่องจริง ไม่ได้พูดโกหก ซึ่งหากตนหาหลักฐานไม่ได้ภายใน 1 เดือน จะต้องทำหนังสือขอโทษ และปิดประกาศทั่วโรงเรียนว่าน้องแอนใส่ร้ายคนขับรถตู้ เนื่องจากคนขับรถตู้ได้รับความเสียหาย เพราะเมื่อเกิดเรื่อง โรงเรียนก็ให้หยุดวิ่งรถรับส่งนักเรียน โดยครูบอกว่า น้องแอนมาบอกเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ว่าถูกคนขับรถตู้รับส่งลวนลาม แต่ไม่ได้บอกว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ
จากนั้น เมื่อกลับมาถึงบ้าน ตนจึงเรียกน้องแอนมาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยน้องแอนบอกว่า เหตุการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลา 17.30 น. ซึ่งเป็นเวลาหลังเลิกเรียน น้องแอนกลับบ้านโดยขึ้นรถตู้ตามปกติ โดยนายช็อคมาส่งน้องแอนที่หน้าบ้าน ก็บอกให้น้องแอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวขอไปส่งเด็กคนอื่น แล้วจะออกมารับไปเล่นเกม ROV แข่งกัน จากนั้น นายช็อควนรถโรงเรียนมารับ จึงให้น้องแอนนั่งข้างหน้า และเมื่อถึงริมถนนภายในหมู่บ้าน นายช็อคได้ให้น้องแอนย้ายมานั่งข้างหลังกับตัวเอง จากนั้นก็ปิดม่านรอบคัน
จากนั้น นายช็อคบอกให้น้องแอนเล่นเกมโดยอย่าหันมาหาตัวเอง ซึ่งจังหวะนั้น นายช็อคถอดกางเกงและกางในออก พร้อมจับน้องแอนถอดกางเกง รวมถึงให้น้องแอนมานั่งที่ตัก ใช้มือจับหน้าอก และใช้อวัยวะเพศถูไปมา กระทั่งสำเร็จความใคร่ โดยขู่ไม่ให้เด็กนำเรื่องบอกใคร และพาน้องแอนมาส่งที่บ้าน ซึ่งขณะนั้นน้องแอนก็ตกใจ และไม่รู้ว่าสิ่งที่นายช็อคทำคืออะไร คิดว่าเป็นเรื่องการเล่นกันเฉย ๆ จึงไม่ได้บอกอะไรกับผู้ปกครอง
แม่น้องแอน กล่าวต่อว่า สัปดาห์ถัดมา นายช็อคก็มารับน้องแอนตามปกติ และเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เกิดขึ้นในช่วงเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาประมาณ 05.30 น. นายช็อคขับรถโรงเรียนมารับน้องแอน และให้เด็กนั่งด้านหน้าข้างคนขับ ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงรุ่งสาง เด็กคนอื่นที่นั่งข้างหลังใส่หูฟังและนอนหลับ นายช็อคจึงฉวยโอกาสจับหน้าอกน้องแอน แต่เป็นการจับด้านนอก ต่อมานายช็อคมารับน้องแอนที่บ้าน ในเวลาประมาณ 05.30 น. เช่นเดิม ก็จับหน้าอกอีก แต่สอดนิ้วเข้าไปข้างในเสื้อ และครั้งนี้นายช็อคจับหน้าอกน้องแอนเสร็จ ก็ส่งเงินให้ และบอกว่าเอาไปเป็นค่าขนม กระทั่งช่วงปลายเดือน ส.ค. ก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ น้องแอนเล่าว่า มีการใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของน้องแอน จนนายช็อคสำเร็จความใคร่อีกด้วย
โดยสาเหตุที่น้องแอนไม่กล้าบอกใคร เนื่องจากรู้สึกกลัว และอาย นอกจากนี้ คนขับรถก็ยังขู่เด็กอีกว่า อย่าไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะต้องโดนไล่ออกจากการขับรถ รวมถึงให้ลบแชตทั้งหมดที่คุยกันด้วย
คุณแม่น้องแอน บอกว่า เมื่อรู้เรื่องก็รู้สึกน้ำตาตกใน จากที่ตนคิดว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ แขนอาจจะโดนก็ได้ แต่เมื่อลูกเล่าให้ฟัง ตนจึงรู้ว่าไม่ใช่อุบัติเหตุแล้ว ตนต้องการเอาเรื่อง แต่จะไปแจ้งความตนเองก็ไม่มีความรู้ จึงเดินทางไปปรึกษากับคุณปวีณา หงส์กุล ที่มูลนิธิปวีณาฯ และได้รับความช่วยเหลือในครั้งนี้ในการแจ้งความเอาผิด
ซึ่งตนไม่คิดเลยว่านายช็อคจะก่อเหตุกับลูกของตน เนื่องจากนายช็อคก็ดูแลน้องแอนดีมาก และมักจะโทรศัพท์มาบอกว่า เด็กจะกลับเองจะให้ไปรับหรือให้น้องกลับ ตนจึงไว้ใจฝากฝังน้องแอนให้นายช็อคเป็นผู้ดูแล แต่ไม่คิดเลยว่านายช็อคจะมาทำแบบนี้กับตนเองและลูกสาว
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ที่เจอหน้านายช็อค ตนอยากที่จะเข้าไปกระทืบทำร้าย แต่ถูกตำรวจห้ามไว้ ตนอยากถามว่า ทำอย่างนี้ก็ลูกของตนได้อย่างไร ตอนนี้ตนไม่อายแล้ว แต่จะขอสู้แทน เพราะตนก็ไม่รู้ว่าหากนายช็อครอดออกไป จะมีเด็กอีกกี่คนที่โดนกระทำ หรืออาจมีมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ไม่แสดงตัวก็ได้
นอกจากนี้
ยายของ ด.ญ.ตาล อายุ 12 ปี ผู้ถูกนายช็อคลวนลาม กล่าวว่า น้องตาลก็เป็นเด็กที่นายช็อครับส่งอยู่ แต่วันนั้นตอนเช้า นายช็อคให้น้องแอนมานั่งข้างหลัง แล้วให้น้องตาลมานั่งข้างหน้าแทน หลังจากนั้นไม่นาน นายช็อคก็ใช้มือมาโดนหน้าอก 4 ครั้ง ขณะนั้นน้องตาลจึงถามนายช็อคว่า “ทำไมพี่โดนหน้าอกหนูบ่อยจัง” ซึ่งนายช็อคอ้างว่ามือเผลอไปโดน และบอกขอโทษกับเด็ก
ยายน้องตาล กล่าวต่อว่า ครั้งแรกที่ทราบเรื่อง ตนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าเรื่องจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ทั้งยังรู้อีกว่า หลังเกิดเหตุหลานไม่กล้าบอกตน แต่ไปบอกให้เพื่อนฟังแทน ตนคิดว่าหลานของตนยังโชคดีที่ไม่ถูกล่วงละเมิดอะไรรุนแรง แต่ตอนนี้ตนก็วิตกกลัวไปหมดทุกอย่าง ไปไหนมาไหนก็ต้องไปด้วยกันทั้งหมด ส่วนเมื่อวาน (29 พ.ย.) ที่ได้เจอตัวนายช็อค ตนรู้สึกเครียดจนร้องไห้ ขณะนั้นแม่ของน้องตาลจะเข้าไปถีบหน้าของนายช็อค แต่ตำรวจห้ามเอาไว้