ทำใจไม่ได้! ผัวร่ำไห้เมียผูกคอตายต่อหน้าลูก ปัดเป็นเพราะหนี้ รพ. คาดน้อยใจโดนชกหน้า (คลิป)

จากกรณี น.ส.น้ำฝน สนรักษา อายุ 29 ปี ผูกคอตายอยู่ภายในบ้านพัก ใน ต.คลองสวน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยชาวบ้านละแวกที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่า ผู้ตายอยู่กินกับสามี มีบุตรด้วยกัน 3 คน คนล่าสุดเพิ่งไปคลอดที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ก่อนจะกลับมาพักฟื้นที่บ้าน โดยระยะหลังผู้ตายมักมีปากเสียงกับสามีบ่อยครั้ง เพราะไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก ซึ่งสามีที่ไปรับจ้างบางครั้งก็ไม่ได้ค่าแรง ต้องไปกู้เงินมาซื้อนม

จากนั้น ผู้ตายเกิดความเครียดยิ่งขึ้น เนื่องจากถูกกล่าวว่าโรงพยาบาลทวงเงินค่าคลอดบุตรถึง 30,000 บาท และไม่ทราบว่าจะไปหาเงินจำนวนนี้ได้จากที่ใด เพื่อนบ้านก็ได้แต่พูดปลอบใจ กระทั่งก่อนเกิดเหตุ ได้ยินเสียงลูกของผู้ตายส่งเสียงร้องดังผิดปกติ จึงพากันไปดูก็พบว่า น.ส.สายฝนใช้เชือกผูกคอ  จึงตัดเชือกรีบนำร่างลงมา แต่ก็ไม่ทันการ เนื่องจากเสียชีวิตแล้ว

วันที่ 30 พ.ย. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ วัดนาคราช อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของ น.ส.น้ำฝน สนรักษา ทำพิธีรดน้ำศพ ซึ่งมีญาติกว่า 10 คนมาจัดงาน ทุกคนยังอยู่ในอาการสงบนิ่ง โดย นายอำพล หนูขาว หรือ ดี๋ สามีของผู้ตาย ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า และร้องไห้ปล่อยโฮ ซึ่งญาติกอดและพูดปลอบใจ ให้สู้ต่อไป และอยู่ต่อเพื่อลูก

นายอำพล ยอมรับทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวเป็นหนี้โรงพยาบาล เนื่องจากค่ารักษาการคลอดลูกคนเล็กของตน จำนวนเงิน 27,000 บาท แต่โรงพยาบาลไม่ได้ตามทวงแต่อย่างใด ซึ่งตอนออกจากโรงพยาบาลประมาณ 2 เดือนก่อน ตนจ่ายเงินไป 500 บาท และหมอก็อนุญาตให้ออกได้ เพราะตนก็ไม่มีเงินจ่าย ส่วนสาเหตุการผูกคอตายของภรรยา เกิดจากช่วงก่อนหน้านี้ ตนและภรรยามีการทะเลาะกันบ่อยครั้ง เพราะตนไม่ค่อยมีเวลาให้ เนื่องจากต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว นายอำพล เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ (29 พ.ย.) ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ตนทะเลาะและมีปากเสียงกับภรรยา เพราะตนจะไปทำงาน แต่ภรรยาอยากให้ช่วยดูลูกก่อน ตนต้องรีบออกไป จึงทำให้มีปากเสียงและชกภรรยาไปด้วยความไม่ตั้งใจ ก่อนจะนำลูกทั้ง 3 คนไปฝากไว้ที่บ้านญาติ เพราะไม่อยากให้เห็นเหตุการณ์ หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที ภรรยาตนก็ล็อกบ้านและไม่ให้ใครเข้า เมื่อเรียกก็ไม่ตอบ ตนได้ไปปีนหน้าต่างดู ก็พบว่าแขวนคอตายแล้ว ในวินาทีนั้นขาตนแทบไม่มีแรงที่จะยืน รู้สึกเสียใจมาก และคิดโทษว่าตัวเองก็มีส่วนในการทำให้ภรรยาตาย เพราะคาดว่าภรรยาน่าจะคิดมาก และมีความเครียดสะสม เนื่องจากตนไม่ค่อยมีเวลาดูแล

นอกจากนี้ ครอบครัวตนจนมาก และตนเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว ภรรยาต้องเลี้ยงลูก โดยตนมีอาชีพตักดินใส่กระสอบ ซึ่งงานไม่ได้มีทุกวัน ได้ค่าแรงวันละ 100-200 บาท ทำให้ครอบครัวต้องกินข้าวกับไข่เจียว และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกวัน บางวันก็ต้องขอข้าววัดมาให้ลูกกิน ซึ่งตนก็สงสารลูก แต่ น.ส.น้ำฝน ก็ไม่เคยพูดบ่นหรือระบายอะไร ทั้งนี้ ช่วงหลังภรรยาของตนมีอาการแปลก ๆ คล้ายคนเป็นโรคซึมเศร้า ชอบเก็บเสื้อผ้า ทำท่าทีเหมือนจะกลับบ้าน ถามอะไรก็ไม่พูดไม่จา บางครั้งจะเข้ามาอ้อนและอยากให้ดูแล แต่ตนก็ไม่ได้ดูแล เพราะเหนื่อยจากการทำงาน ซึ่งตนเสียใจมากที่ภรรยาต้องมาจากไปเร็วขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม ลูกทั้ง 3 คน ผู้ชายคนโต อายุ 5 ขวบ และผู้หญิงคนกลาง 3 ขวบ ก็อยู่ในการดูแลของเพื่อนบ้านที่ช่วยเลี้ยงดูให้ ตอนตนไปทำงาน ส่วนลูกผู้ชายคนเล็กอายุ 1 เดือนกว่า ก็จะให้ญาติเป็นคนดูแล ซึ่งตอนนี้ลูกไม่มีแม่แล้ว ตนก็ต้องทำให้ดีที่สุด เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับลูก และเลี้ยงดูให้พวกเขาเติบโตต่อไป