เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.64 เวลา 11.40 น. หน่วยกู้ภัยจังหวัดลพบุรี รับแจ้งเหตุเครื่องบินตกในพื้นที่ ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เบื้องต้นนักบินดีดตัวออกมาจากเครื่อง 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชัยบาดาล
ต่อมาเวลา 12.00 น. พลอากาศตรี ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 11.00 น. มีรายงานเครื่องบินขับไล่แบบที่ 18 (F5) สังกัดฝูงบิน 211 กองบิน 21 ประสบอุบัติเหตุขณะปฏิบัติภารกิจการบินยุทธวิธีประยุกต์ ณ บริเวณสนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี
จากการตรวจสอบพบว่า เครื่องบินดังกล่าว เป็นหมายเลข 1 ของหมู่บิน 4 ประสบอุบัติเหตุขณะทำการบินเดินทางต่ำด้วยหมู่บินยุทธวิธี มีนักบินทำการบิน จำนวน 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นาวาอากาศโท สุทธิเมธ อ่วมมา ฝูงบิน 211 บน.21 จ.อุบลราชธานี สามารถดีดตัวออกจากเครื่องบินได้รับบาดเจ็บ อยู่ระหว่างนำส่งโรงพยาบาลชัยบาดาล ขณะนี้ผู้บัญชาการทหารอากาศได้รับรายงานแล้ว และมีความห่วงใยนักบินที่ได้รับบาดเจ็บ และได้สั่งการให้คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุกองทัพอากาศ เดินทางลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบความเสียหายและสาเหตุ
สำหรับเครื่องบิน F5 เป็นเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ที่อายุใช้งานเก่าที่สุดในภูมิภาคนี้ เหลือแค่ไทยเพียงประเทศเดียวที่ยังประจำการอยู่ และได้มีการพัฒนาปรับปรุงให้ทันสมัยเพื่อยืดอายุใช้งานได้ต่อไปอีก 15 ปี
ในวันที่ 14 พ.ย.62 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง มีพิธีบรรจุประจำการเครื่องบินขับไล่ F5 TH จำนวน 14 ลำ และอากาศยานไร้คนขับแบบ RTAF U1 โดยเครื่องบินขับไล่ F5 ได้มีการปรับปรุงติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบ Avionics ที่ทันสมัย ระบบป้องกันตนเอง ระบบเรดาร์ใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับเป้าหมาย รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการใช้อาวุธสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำสูงและระยะยิงไกล อีกทั้งยังมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operation) ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (Tactical Data Link) เพื่อรองรับการใช้งานระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (Link-T) เทียบเท่าเครื่องบินขับไล่ GRIPEN 39 C/D ในยุค 4.5 โดยโครงการปรับปรุงทั้งหมดจะแล้วเสร็จในปี 2565
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดที่เครื่องบินตก บริเวณบ่อน้ำใกล้กับโรงชำแหละไก่ท้ายหมู่บ้านบัวชุม ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ซึ่งบ่อน้ำดังกล่าวห่างจากตัวโรงชำแหละไก่ 100 เมตร บรรยากาศช่วงทีมข่าวลงพื้นที่มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยของจังหวัดลพบุรี และทหารจากกองบิน 2 มาช่วยกันเคลียร์พื้นที่ เพื่อกู้ซากเครื่องบินที่จมอยู่ในบ่อน้ำ และกั้นพื้นที่ไม่ให้ใครเข้าไปใกล้เศษซากเครื่องบินลำดังกล่าว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางผกาพร เทพที อายุ 51 ปี คนงานโรงชำแหละไก่ ที่ได้ยินเสียงขณะเครื่องบินตก เล่าให้ฟังว่า ช่วงเครื่องบินตกตนกำลังทำงานอยู่ในโรงงาน จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเครื่องบิน บินต่ำในระยะหลังคาโรงงานจนทำให้สั่นไปทั้งโรงงาน เมื่อสิ้นเสียงเครื่องบินผ่านไป ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น แล้วเสียงดังกล่าวก็หายไป
จากนั้นก็ได้กลิ่นน้ำมันลอยมาตามลม ตนไม่คิดว่าเสียงระเบิดที่ได้ยินจะเป็นเสียงเครื่องบินตก แล้วก็มารู้ภายหลังว่าเครื่องบินที่ตกนั้น ตกลงที่บ่อน้ำซึ่งห่างจากจุดที่ตนทำงานแค่ 100 เมตรเท่านั้น ตนรู้สึกตกใจมาก ๆ แต่ก็ยังโชคดีที่เครื่องบินไม่ตกลงมาที่โรงงาน
เวลา 17.10 น. นักประดาน้ำของกู้ภัยลพบุรี และนักประดาน้ำของกองทัพอากาศ ได้เดินทางมาดำน้ำหาชิ้นส่วนเครื่องบิน หลังจากกองทัพอากาศยืนยันว่าระเบิดที่ติดมากับตัวเครื่องบินเป็นระเบิดลูกซ้อม เพื่อให้มีน้ำหนักเท่ากับตัวระเบิดจริงเท่านั้น
นายสุวิทย์ กล้วยน้อย นักประดาน้ำหน่วยกู้ภัยพ้งไล้ 16 จ.ลพบุรี กล่าวว่า การลงไปดำน้ำในครั้งนี้เป็นการลงไปเพื่อค้นหาชิ้นส่วนของเครื่องบินที่แตกกระจายอยู่ภายในบ่อน้ำ การค้นหาทำได้แค่เดินใช้มือและเท้าหาชิ้นส่วนที่เป็นชิ้นส่วนใหญ่ ๆ ของเครื่องบิน ซึ่งบ่อน้ำแห่งนี้มีความลึกประมาณ 3 เมตร ทำให้ต้องใช้เครื่องสูบน้ำสูบออกให้หมดจึงจะค้นหาชิ้นส่วนอื่น ๆ ได้ ซึ่งการสูบน้ำออกจนหมดบ่อจะต้องใช้เวลาคืนนี้ทั้งคืน และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจกู้ชิ้นส่วนของเครื่องบินในเช้าวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.64)
ส่วนชิ้นส่วนกล่องดำที่จะระบุสาเหตุที่แน่ชัดในเหตุการณ์ครั้งนี้ หน่วย EOD ของกองทัพอากาศได้ลงพื้นที่เก็บไปตั้งแต่ช่วงที่เครื่องบินตกใหม่ ๆ แล้ว ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีชาวบ้านบาดเจ็บและเสียชีวิต และรายงานล่าสุดนักบินได้ถูกนำตัวส่งไปที่โรงพยาบาลของกองทัพอากาศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทีมข่าวยังได้เจอกับ นางสนอง รู้การนา อายุ 61 ปี ชาวบ้านที่เห็นเครื่องบินตก เปิดเผยว่า ก่อนเครื่องบินจะตกตนได้ยินเสียงเครื่องบิน บินวนต่ำ ๆ เสียงดังมาก ๆ ก็เลยเดินออกมาดู เพราะว่ามันผิดปกติ ปรากฎว่าขณะที่เดินออกมาเห็นเครื่องบิน บินข้ามหัวไปต่อหน้าต่อตาแบบใกล้มาก ๆ
จากนั้นก็มองตามเครื่องบิน คิดว่าเครื่องบินจะบินมาวางระเบิด พอมองตามไปเรื่อย ๆ ก็เห็นเเสงไฟพุ่งออกมาจากตัวเครื่องบิน แล้วก็ได้ยินเสียงระเบิดขึ้นถึงรู้ว่าเสียงที่ได้ยินและสิ่งที่เห็นเป็นเหตุการณ์เครื่องบินตก ตนยอมรับว่าตกใจมาก ๆ เกิดมาไม่เคยพบเคยเจออะไรแบบนี้ โชคยังดีที่เครื่องบินไม่ตกลงมาในหมู่บ้าน
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้เดินทางไปยังจุดที่นักบินตกลง ที่บ้านเลขที่ 72/2 หมู่ 2 ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล ห่างจากจุดที่เครื่องบินตกประมาณ 1.2 กิโลเมตร ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายนรินทร์ ใจเย็น อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านคนที่ช่วยเหลือนักบินเป็นคนแรก กล่าวว่า ขณะที่นักบินตกลงมาที่ข้างบ้าน ตนไม่เห็นแต่ได้ยินเสียงระเบิดของเครื่องบิน แล้วก็มีชาวบ้านเดินมาบอกว่า นักบินล่วงลงมาที่บ้านของตน ก็เลยวิ่งไปดูปรากฏว่าร่างของนักบินคนดังกล่าวนอนอยู่ข้างบ้าน ไม่มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
ส่วนร่มที่ติดตัวนักบิน ติดอยู่บนหลังคาบ้านของตน สภาพที่เห็นตอนแรกคิดว่าไม่รอดแน่ ๆ จนกู้ภัยมาช่วยนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ส่วนตัวรู้สึกตกใจมาก ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใกล้ตัวที่สุดในชีวิต โชคยังดีที่นักบินปลอดภัย
ต่อมาทีมข่าวได้ไปตรวจสอบจุดที่เก้าอี้นั่งของนั่งบินตก อยู่ห่างจากบ้านของนาย นรินทร์ ประมาณ 70 เมตร ซึ่งเก้าอี้ของนั่งบินได้ตกลงใส่คอกรถกระบะของชาวบ้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ ของนักบินที่ตกลงมาในหมู่บ้าน จะอยู่ห่างจากจุดนี้ประมาณ 230 เมตร สิ่งที่ทีมข่าวไปพบมีหมวก ที่เขียนชื่อนักบินติดอยู่ในหมวก และอุปกรณ์ คือ ถุงมือ, กระเป๋า, ขอบสลักประตูเครื่องบิน