แห่รับทิดไพรวัลย์อบอุ่น "พระสมปอง" รุดเยี่ยมลั่นสึกแน่ "ปลา" ชวนทุบศาลเข้าก๊วนช่วยคน (คลิป)

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.64 แฟนเพจเฟซบุ๊ก “ไพรวัลย์ วรวัณโณ” โพสต์ภาพลาสิกขาของอดีตพระมหาไพรวัลย์ พร้อมกับบรรยากาศของการสึก ซึ่งจะเห็นว่าพระมหาไพรวัลย์​ได้เปลี่ยนชุดที่สวมใส่เป็นเสื้อขาวและนุ่งโสร่ง ยืนยิ้มแบบอรุ่มเจ๊าะ พร้อมกับภาพเข้าเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล ระบุว่า “แม่เตรียมจะผ่าตัดแล้ว อยากจะกอดก็ยังกอดไม่ได้”

เวลา 14.00 น. ที่อาคารมาลีนนท์ หลังจากจบรายการโหนกระแส "ทิดไพรวัลย์" หรือ นายไพรวัลย์ วรรณบุตร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีที่ลาสิกขาบท เปิดเผยว่า สาเหตุหลัก ๆ นั้นมี 2 เรื่องด้วยกัน โดยแรกคือเรื่องที่ตนมองว่าดูจะไม่เป็นธรรมของคณะสงฆ์ ในการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง และต่อให้ท่านจะได้เป็นเจ้าอาวาสหรือไม่ได้เป็น ตนก็ไม่อยากให้ครูบาอาจารย์จะต้องมาเดือดร้อนเพราะตน ดังนั้นจึงตัดสินใจออกมาจากความเป็นพระสงฆ์ เพราะหากฝืนอยู่ต่อไปอาจจะไปสร้างความลำบากใจให้พระเดชพระคุณท่าน

สำหรับเจ้าคุณอาจารย์ พระราชปัญญาสุธี ท่านทำงานเพื่อคณะสงฆ์มานาน เป็นพระที่ดี ตนไม่อยากให้ท่านต้องมาถูกรังแกและถูกใช้อำนาจจนทำให้ท่านต้องลำบากใจ ตนจึงคิดว่า “เป็นลูก อย่าทำให้พ่อเดือดร้อน” จึงตัดสินใจออกมาจากความเป็นพระทันที

ส่วนอีกเหตุผลหนึ่ง คือ เรื่องของแม่ เพราะขณะนี้ท่านป่วยเป็นโรคมะเร็ง และวันนี้แม่ของตนก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกมะเร็ง ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าหลังการผ่าตัดจะเป็นอย่างไร ตนจึงตัดสินใจลาสิกขาบทในวันนี้เพื่อจะได้อยู่ดูแลแม่อย่างใกล้ชิด หลังจากคุณแม่ออกจากห้องผ่าตัด วันนี้ก็ยังไม่ได้กอดแม่อีกด้วย เนื่องจากแพทย์ให้เว้นระยะห่างในเรื่องมาตรการป้องกันโควิด-19

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าแม่ยิ้มและดีใจที่ได้พบเจอตน แต่ก่อนที่จะสึกนั้นแม่ก็ได้โทรศัพท์มาบอกว่า "ขอให้อยู่เป็นพระต่ออีกหน่อยได้หรือไม่ แม่ยังอยากเห็นภาพมหาฯ ในชุดจีวรเช่นนั้นอยู่" ซึ่งตนก็ได้ตอบว่า ตนตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุที่เร่งร้อนรีบสึกก็กลัวว่าสื่อมวลชนจะแห่เข้ามาสอบถาม จริง ๆ ตนก็อยากจะสึกแบบเงียบ ๆ

ส่วนการวางแผนหลังจากนี้ ตนมองว่าจะใช้พื้นที่และใช้ช่องทางที่พอจะมีอยู่ทำมาหากิน ยังมีแฟนเพจเฟซบุ๊กที่คนติดตามจำนวนมาก บางคนที่เคยทำร่วมกับพระมหาสมปอง ก็ยังเชิญชวนไปทำงานด้วย ถึงแม้สึกแล้วก็อยากให้ร่วมงาน ส่วนประเด็นเรื่องเงิน 300 ล้านบาทนั้น หากใครมีข้อมูลก็นำเสนอมาได้เลย หากไม่เป็นความจริงตนยืนยันว่าจะฟ้องอย่างแน่นอน ส่วนคนดังที่โพสต์แซะตน "ไม่ต้องห่วงชีวิตคนอื่น เอาเวลาไปห่วงชีวิตของตัวเองดีกว่า เป็นพระก็สนุก จึ้งมากครับ"

นอกจากนี้ ตนยืนยันว่าไม่เคยหมดศรัทธาในพระพุทธศาสนา แต่หมดศรัทธาในวงการสงฆ์อย่างมาก หากมีการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม มีกฎหมาย หนังสือจากสำนักงานพุทธ ที่ไม่เป็นธรรม ตนก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการสะท้อน ตนก็พร้อมจะพูดแน่นอน โพสต์เริ่มแล้ว ไม่ใช่เริ่มประกาศศึก แต่เริ่มเป็นฆราวาสเท่านั้น ตนยืนยันว่าไม่ลงสมัครการเมืองอย่างแน่นอน แต่จะพูดในเรื่องของความเป็นธรรม สิ่งไหนที่ออกมา Call out ออกมาเรียกร้อง สะท้อนได้ตนก็จะทำ

"สำนักพุทธฯ ทำหน้าที่เป็นองค์กรทางการเมืองอย่างชัดเจน ซึ่งก่อนที่จะสึกออกมาก็ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ โดยผู้ที่เป็นโจทก์ยื่นสอบคือสำนักพุทธฯ เสมือนหอกข้างแคร่ ตั้งคำถามที่หัวเราะมากไป รีวิวสินค้า ไลฟ์สดไม่สำรวม แต่ตอนนี้สึกแล้วจัดเต็มแน่นอน เพราะมีหลายแบรนด์ทักข้อความมา แต่สิ่งไหนรีวิวได้ไม่ได้ก็ต้องเลือก ส่วนอาหารเย็นวันนี้จะทานปลากระป๋อง (หัวเราะ)" นายไพรวัลย์ กล่าวทิ้งท้าย

ด้านเฟซบุ๊ก “ศรีสุวรรณ จรรยา” ของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกมาโพสต์ข้อความแซะอดีต พส.ไพรวัลย์ ระบุว่า “ขออวยพรให้ ‘ไอ้ทิด’ สนุกสนานกับการใช้ทรัพย์ศฤงคารที่สะสมตลอดเพศบรรพชิต และให้รอดพ้นปลอดภัยจากโอษฐภัยทั้งปวง”

ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านหมอปลา มือปราบสัมภเวสี ในพื้นที่ตำบลโรงเข้ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี หมอปลาได้เตรียมศาล กุมารทอง พร้อมค้อนเหล็กเอาไว้ เพื่อเป็นการรับน้อง "ทิดไพรวัลย์" เข้าร่วมแก๊ง โดนจะต้องให้ทิดไพรวัลย์ ทุบและพังศาล รวมถึงใช้เท้าถีบศาลที่หมอปลาจัดตั้งวางไว้ หลังจากต้อนรับด้วยการสวมกอด และพูดคุยหยอกล้อกัน

นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี เล่าให้ฟังว่า การที่ให้ทิดไพรวัลย์ทุบศาลนั้น จะได้รู้ว่าทิดไพรวัลย์เป็นฆาราวาสแล้ว และมีแรงฮึดแรงกล้าสู้กับพวกสัมภเวสีที่มาเกาะแกะ ตนมองว่าทิดไพรวัลย์ถูกกลั่นแกล้งมาเยอะมาก ๆ ทั้งนักวิชาการ หลายคนก็ยุ่งไปทุกเรื่อง อีกทั้งตนขอฝากไปถึงว่าเรื่องที่ ทิดไพรวัลย์ มีทรัพย์สินเป็น 100 ล้านนั้น “มึงเป็นพวกตอ_ใส่ความ” ถ้าหากทิดไพรวัลย์ มีเงินมากขนาดนั้นจริง ทิดไพรวัลย์ คงไม่มายืนเงินจากตน

ทั้งนี้ ตนคิดว่าหากทิดไพรวัลย์สามารถทำหน้าที่แทนตนได้ ตนจะขอลองไปบวชดู อยากทราบว่าการไปบวชนั้นตนจะอยู่ได้กี่วัน ตนขอเป็นแค่พระเฉย ๆ อยากทราบว่าจะจะโดนกระแสอะไรหรือไม่ ตอนห่มจีวรต้องรูดซิปปิดปากทุกเรื่องเลยหรือไม่ ตนขอคิดทบทวนกับครอบครัวอีกครั้งหลังปีใหม่ 2565

ส่วนในวันนี้ที่จะมีการเลี้ยงหมูกระทะ ตนเห็นพระทางเหนือฉันช่วงเย็น ตนก็อยากจะจัดหมูกระทะเพื่อต้อนรับทิดไพรวัลย์บ้าง ตนเชื่อว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฏหมาย แต่คำพูดที่สัมภาษณ์ออกสื่อไปนั้น อาจจะถูกต้องแต่ไม่ถูกใจพระผู้ใหญ่บางรูปหรือไม่ อีกทั้งตนทราบว่าทิดไพรวัลย์ ไม่ยุ่งการเมือง ตอนนี้ตนรับทิดไพรวัลย์ เข้าร่วมแก๊งของตนแล้ว

ขณะเดียวกันหลังจากได้ทุบศาลแล้วเสร็จ หมอปลาได้ชวนทิดไพรวัลย์ออกงาน โดยทิดไพรวัลย์ ขอไปร่ำลาญาติก่อน แต่วันนี้จะนั่งทานหมูกระทะด้วยกัน ตามที่ตนได้จัดไว้เพื่อสื่อถึงการเริ่มต้นอะไรง่าย ๆ หมู ๆ เรื่องกล้วย ๆ 

เวลาประมาณ 19.00 น. หมอปลา และทิดไพรวัลย์ ตั้งโต๊ะนั่งทานหมูกระทะ โดยมีบรรดาเพื่อน ๆ หมอปลาและภรรยานั่งพื้นตั้งเตาอั้งโล่ พร้อมปิ้งย่างหมูกระทะกันอย่างครื้นเครง สำหรับทิดไพรวัลย์เป็นครั้งแรกที่ได้ทานหมูกระทะ พร้อมกับแซวว่า "รู้อย่างนี้ น่าจะสึกตั้งนานแล้ว (หัวเราะ)" ศรีเข้าใจคำว่าเพื่อนไหมชีวิตมึงเนี่ย" เมื่อทิดไพรวัลย์ถามหมอปลาว่า "สีอะไรครับ" หมอปลา ตอบว่า "สีทนได้ โอเครอดไป"

ขณะเดียวกัน ทิดไพรวัลย์เดินเข้าไปพูดคุยกับพระมหาสมปอง โดยพระมหาสมปอง ระบุว่า ในวันที่ 2 ม.ค.65 ตรงกับวันเกิดของแม่อาตมา หรืออาจจะเร็วกว่านั้นที่จะลาสิกกขาเช่นกัน เนื่องจากน้าแน็ก ติดต่อ ทิดไพรวัลย์ งานเยอะงานแน่น ยอมรับว่าคิดมานานแล้วจะลาสิกขาบท อาตมาก็มองว่าเป็นเรื่องไม่ผิด ไม่ต้องปิดบังที่จะบอกเอาไว้ก่อน ว่าจะเตรียมการจะลาสิกขาบท ในวันที่ 2 ม.ค.65

"วันนี้อาตมาเดินทางมาเยี่ยมหมอปลา ถือว่าการที่ทิดไพรวัลย์สึกนั้น ออกมาอยู่ในเส้นทางของลูกผู้ชาย โดยไม่ได้มีเส้นทางพระแค่เส้นทางเดียว เส้นทางนักวิชาการ เส้นทางของลูกที่จะดูแลแม่ เส้นทางที่เป็นน้องหมอปลา" พระมหาสมปอง กล่าว

อย่างไรก็ตาม อาตมายอมรับและเคารพการตัดสินใจของทิดไพรวัลย์ จากนี้ก็จะได้พูดเต็มที่ ฟาดฟันกันอย่างสนุกสนานแน่นอน เพราะอาตมายังเป็นพระสงฆ์ จัดรายการคู่ทิดสึกใหม่อีก 1 คน ส่วนเรื่อง พส.1 ตำแหน่งนั้นยังคงต้องว่างไว้