ทนายเกิดผล ฟันธง "นายเล็ก" ช่วยตั้มขนเงิน 20 ล้านผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง ถึงเเม้จะสารภาพก็ไม่รอด ชี้ทำเป็นขบวนการ
กรณีของนายเล็ก อดีตคนขับรถคนสนิทของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” และตัวนายเล็กยังเคยไปทำงานขับรถอยู่กับ “มาดามอ้อย” หรือ น.ส.จตุพร ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไปอ้างว่าโดนทนายตั้มไล่ออก
และเมื่อมาดามอ้อยเดินหน้าแจ้งความเอาผิดทนายตั้มในคดีฉ้อโกงและฟอกเงิน และกำลังจะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมเรื่องคดีเงิน 39 ล้าน จึงมีการสาวถึงคนใกล้ตัว รวมถึงนายเล็กคนนี้ว่ามีส่วนร่วมในขบวนการนี้หรือไม่ เนื่องจากมีข้อมูลจากคุณน้อย เลขามาดามอ้อย เคยให้ข้อมูลคนขับรถของทนายตั้มรถที่ชื่อ “เล็ก” ติดต่อมาหาเมื่อ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา โทรบอกว่าโดนเรียกสอบและตัวเองรับสารภาพหมดแล้ว ว่าเป็นคนไปกดเงินที่ห้างดังย่านลาดพร้าว ภายในธนาคารแห่งหนึ่ง กดเงินใส่กระเป๋า 20 ล้าน และไปกับ ดาว พี่สาวภรรยาทนายตั้ม จากนั้นเอาไปบ้านพุทธมณฑลสาย4 ที่บ้านทนายตั้ม รับว่าเป็นคนขน 20 ล้านเอง บอกเอาเงินลงกระเป๋านับ 20 ล้าน โดยเรื่องนี้เลขาของพี่อ้อยเปิดใจกับสื่อว่าเสียใจมากเรื่องเล็ก เพราะตอนมาอยู่กับพี่อ้อยนั้น ก็ให้ความเอ็นดูมาตลอด
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีสอบถามไปยัง ทนายเกิดผล แก้วเกิด ถึงกรณีที่นายเล็ก สารภาพว่ารับการว่าจ้างขนเงิน 20 ล้านบาท ให้กับทนายตั้ม โดยทนายเกิดผล ระบุว่า ถึงแม้ตัวของนายเล็กเองจะมีการรับสารภาพกับทางตำรวจ แต่พฤติการณ์ดังกล่าว ถ้าหากตัวของนายเล็กรู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก ว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ก็จะมีความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง แต่ถ้าหากว่านายเล็กไม่ทราบมาก่อน เพียงแค่ได้รับการว่าจ้างให้ขนเงิน ก็อาจจะไม่มีความผิด แต่ในกรณีนี้ ตนเองมองว่ามีการวางแผน ทำเป็นขบวนการ เป็นขั้นเป็นตอน และมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน ดังนั้น ตัวของนายเล็กเองซึ่งทำงานกับทนายตั้มอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ว่าตนกำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งถ้าหากคำให้การของนายเล็กเป็นประโยชน์ ตำรวจก็มีสิทธิ์จะกันนายเล็กไว้เป็นพยาน หรือไม่ก็ได้ แต่ถึงอย่างไรนายเล็ก ก็ต้องมีความผิดฐาน"ร่วมกันฉ้อโกง" อยู่ดี และถ้าหากผู้ก่อเหตุมีมากกว่า 5 คนขึ้นไป ก็จะมีความผิดฐาน "อั้งยี่ซ่องโจร"ร่วมด้วย
Advertisement