หนุ่มโชว์กร่าง - ด่าตร.ยกรถ เครียดถูกโซเชียลถล่ม วอนเห็นใจสำนึกผิด - ชาวบ้านโอดจอดขวางบ่อย (คลิป)

จากเหตุการณ์นายกฤษณ์ สีมาพล หรือ เนท จอดรถยนต์ล้ำพื้นถนนภายในซอยองครักษ์ 13 สามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ ถึง 4 วัน ส่งผลให้คนที่สัญจรภายในซอยได้รับความเดือดร้อน และร้องเรียนตำรวจให้มายกรถออก โดยหลังจากนั้นเกิดวิวาทระหว่างนายกฤษณ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีการนำคลิปเหตุการณ์ไปเผยแพร่จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น นายกฤษณ์ได้ชี้แจงผ่านอมรินทร์ ทีวี แล้วว่า ตนเองจอดรถดังกล่าวเพียง 3-4 วัน เนื่องจากรถเสีย (อ่าน : เปิดใจหนุ่มหัวร้อน ฉะตร.ยกรถ ลั่นฟ้องกลับ คาใจบ้านอื่นก็จอด ไม่จับ)

วันที่ 3 ธ.ค. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ ซ.องครักษ์ 13 สามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านของนายกฤษณ์ สีมาพล หรือ เนท เจ้าของรถยนต์สีแดง พบว่าบริเวณหน้าบ้าน ไม่มีรถของนายกฤษณ์จอดอยู่แล้ว โดย พ่อของนายกฤษณ์ ให้ข้อมูลว่า หลังจากเรื่องของลูกตนเป็นข่าวดัง ก็ถูกชาวเน็ตโจมตีอย่างหนักในเฟซบุ๊กส่วนตัวของลูกชาย กระทั่งได้รับความอับอายทั้งในสังคมและในซอย ตอนนี้ไม่กล้าขับรถมาจอดที่หน้าบ้านแล้ว ส่วนครอบครัวก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะถูกสังคมมองว่าเป็นฝ่ายผิด ซึ่งตอนนี้ลูกชายของตนก็ไปอยู่ที่ทำงาน ไม่ได้กลับเข้ามาอีก ตนก็อยากให้เรื่องนี้มันจบลงแค่นี้ ครอบครัวตนก็ไม่มีความสุขเสียที ส่วนเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ก็คงให้ผ่านไป

พ่อของนายกฤษณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนใครจะมองว่าถ้านำกระถางต้นไม้หน้าบ้านออกแล้ว จะจอดรถเข้าไปชิดหน้าบ้านได้นั้น ตนก็ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร เพราะต้นไม้ก็ปลูกมาหลายปี และไม่รู้จะเคลื่อนย้ายไปไว้ที่ไหน นอกจากนำไปทิ้งเท่านั้น ซึ่งตนก็ไม่อยากทิ้ง อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนโทรแจ้งร้องเรียน เพราะยังไม่มีใครออกมาแสดงตัวว่าได้รับความเดือดร้อนจากการจอดรถของลูกชายตน ซึ่งตนก็ไม่อยากกล่าวหาใคร เพราะถ้าเขาลำบาก ลูกของตนก็ยินดีนำรถไปจอดที่อื่น

ด้าน นายอ๊อด (นามสมมติ) ชาวบ้านภายในซอย เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่ในซอยมา 20 ปี ก็เห็นรถคันสีแดงของนายกฤษณ์จอดขวางหน้าบ้านทุกวันเหมือนปกติ หลังกลับจากทำงานก็มาจอดหน้าบ้านของพ่อแม่เขา และยืนยันว่าไม่ได้มาจอดเป็นครั้งคราว หรือ 4 วัน อย่างที่เป็นข่าว เรื่องนิสัยตนก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน เพราะไม่เคยพูดคุยกัน นอกจากนี้ การที่นายกฤษณ์แสดงอาการก้าวร้าวกับตำรวจนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่ถูกรุกราน ก็คงไม่ยอม เพราะในวันเกิดเหตุเขาเพิ่งตื่นนอนด้วย นายอ๊อด กล่าวต่อว่า คนในซอยก็ไม่มีใครเคยไปตำหนิ หรือเตือนการจอดรถของนายกฤษณ์ เพราะเขาไม่เคยมีเรื่องกับใคร ซึ่งคนในซอยก็สัญจรได้ปกติ เพราะคนทั้งซอยก็จอดรถริมถนนแบบนายกฤษณ์ แต่อาจจะเป็นบ้านตรงข้ามของนายกฤษณ์ที่อาจจะออกจากบ้านไม่ได้ จนต้องโทรร้องเรียน เพราะเท่าที่ตนสังเกต ก็พบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีรถหลายคัน และมีรถเข้าออกตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม วิธีแก้ปัญหา ตนคิดว่าถ้านายกฤษณ์อยากจะจอดรถหน้าบ้าน ก็แค่เคลียร์กระถางต้นไม้ และถังขยะหน้าบ้านออกไปวางตรงอื่น ก็จะมีพื้นที่ในการจอดรถ 1 คัน ได้อย่างสบาย ๆ

นายอ๊อด กล่าวต่อว่า ภายในซอยก็มีลานจอดรถให้เช่าหลายแห่ง แต่สำหรับบางคนที่มาจอดข้างถนนนั้น ตนคิดว่าเขาคงไม่อยากแบกรับภาระค่าเช่าลานจอดถึงเดือนละ 1,200-1,500 บาท แต่ตนก็ยอมเช่า เพราะเป็นคนรักรถ และกลัวว่าจะมีมิจฉาชีพมาทุบกระจกเพื่อขโมยทรัพย์สินในรถ อีกทั้งตนก็ไม่อยากจอดข้างทางให้เป็นภาระผู้อื่นด้วย

ขณะที่ นายประพันธ์ ปราณี อายุ 58 ปี คนขับรถส่งของ เปิดเผยว่า ตนขับรถ 6 ล้อมาส่งของในซอยนี้ในทุก 3 วัน ก็เห็นรถคันสีแดงของนายกฤษณ์จอดอยู่ริมถนนเป็นประจำ ตนก็ต้องขับรถเบี่ยงเข้าข้างทางให้มากที่สุด ยอมให้รถเบียดต้นไม้ดีกว่าไปเบียดรถ และสร้างความเสียหายให้รถที่จอดอยู่ข้างทาง เพราะหากตนทำให้รถบริษัทหรือรถชาวบ้านเสียหาย ตนก็จะถูกตำหนิอย่างแน่นอน แต่การที่นายกฤษณ์จอดรถไว้ข้างทางนั้น ก็สร้างความลำบากให้กับตนมาก เพราะรถของตนจะใหญ่กว่ารถยนต์ทั่วไป ซึ่งก็ยอมรับว่าค่อนข้างขัดใจที่ต้องคอยหลบรถข้างทาง ซึ่งในระหว่างการเบี่ยงรถ ก็ทำให้รถของตนขวางทั้งถนน จนทำให้คนอื่นสัญจรไม่ได้เช่นกัน ตนก็ได้แต่ขอโทษพวกเขา เพราะก็ไม่รู้จะทำอย่างไร นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า แม้ว่าเขาจะใช้สิทธิ์ในจอดรถหน้าบ้านของตัวเอง แต่ถ้าจอดต่อเนื่องกันถึง 3-4 วัน ตนคิดว่าควรจะไปเช่าลานจอดภายในซอยดีกว่า เพราะจะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ซึ่งตนมองว่าเป็นการเอาเปรียบกัน แต่ก็ไม่เคยตักเตือน เพราะเขาเป็นเจ้าถิ่น ตนเป็นขาจรที่เข้ามาบางครั้ง จึงลำบากใจที่จะตักเตือน แต่ตอนนี้เขาเอารถออกไปแล้ว ตนก็ขับรถผ่านได้สะดวกขึ้น