เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 3 ธันวาคม 2564 ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้รับเเจ้งเหตุ มีหญิงถูกเเทงเสียชีวิต ภายในบ้านเช่า เลขที่ 325 หมู่ 1 ตำบลหนองเเวง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบศพนางรุ่งเรือง เเคนสังข์สกุล หรือ ต๋อย อายุ 45 ปี เสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน สวมเสื้อสีเเดง เสื้อคลุมสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน สภาพศพนอนหงาย ถูกแทง 6 แผล หน้าอก 3 เเผล และบริเวณท้อง 3 เเผล
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ให้เพื่อนมาส่งที่บ้าน หลังกลับจากการไปออกกำลังกาย เเละขณะที่ผู้ตายกำลังไขกุญเเจเพื่อจะเข้าบ้าน ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุ คือนายสม จอดนอก อายุ 69 ปี ที่ดักซุ่มอยู่บริเวณศาลพระภูมิหน้าบ้าน ได้เข้ามาล็อกคอ เเล้วใช้อาวุธมีดเเทงผู้ตาย ก่อนหลบหนีไป
ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ คือนายสม จอดนอก อายุ 69 ปี ได้ที่บริเวณบ้านของผู้ต้องหา ในพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลหนองเยือง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์
ล่าสุดวันที่ 4 ธันวาคม 2564 ทีมข่าวติดต่อไปยังพันตำรวจเอก ดำรงศิลป์ ดวงกลาง ผู้กำกับการ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายสม ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุทางผู้ต้องหาอ้างว่าได้คบหากับผู้ตาย 6-7 ปี ตลอดระยะเวลาที่คบหากัน ได้มีการเปย์เงินให้กับผู้ตายมาเรื่อย ๆ รวมเป็นเงินหลักล้านบาท
เเต่หลังจากเงินหมดฝ่ายหญิงบอกเลิก เเละพยายามตีตัวออกห่าง ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความเเค้นใจ จึงเดินทางไปดักรอผู้ตายที่หน้าบ้าน โดยพกอาวุธปืนลูกซองสั้นกับมีดปลายเเหลมไปด้วย ตนเเรกตั้งใจว่าจะไปขอเคลียร์ใจ เเต่ฝั่งผู้ตายโวยวายเสียงดัง จึงใช้มีดกระหน่ำเเทงไป 6 เเผล หลังจากนั้นได้หนีไปหลบซ่อนตัวในป่า เเละคิดจะผูกคอตาย เเต่ช่วงกลางคืนอากาศหนาว จึงเดินกลับบ้านช่วงกลางดึก ก่อนถูกตำรวจที่ดักรออยู่บริเวณบ้าน เข้าควบคุมตัว
เบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวน มีการเเจ้ง 4 ข้อหา เเก่นายสม ผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงเเก่ความตาย 2.มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง 3.พกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน 4.พกพาอาวุธมีด
ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดหนองป่าพง ตำบลหนองเเวง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสถานที่จัดงานศพของ นางรุ่งเรือง เเคนสังข์สกุล อายุ 45 ปี ผู้เสียชีวิต โดยวันนี้มีพิธีสวดพระอภิธรรมคืนเเรก
สามีของผู้ตาย คือนายเเก้วเจริญ เเคนสังข์สกุล อายุ 58 ปี อยู่ในอาการเสียใจน้ำตาซึม เปิดเผยว่า ตนเองเเต่งงานอยู่กินกับผู้ตายมา 30 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นลูกสาวทั้งหมด คนโต อายุ 27 ปี, คนกลางอายุ 23 ปี และคนเล็กอายุ 15 ปี เมื่อก่อนอยู่กันเป็นครอบครัว เเต่ช่วง 10 ปีหลัง ตนเองได้ไปทำงานที่จังหวัดระยอง เเละพาลูกไปอยู่ด้วย โดยจะเเวะเวียนมาหาภรรยาเป็นครั้งคราว
ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตนรับทราบมาโดยตลอดว่าภรรยาเเอบไปคบหากับผู้ก่อเหตุ แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ เนื่องจากกลัวว่าหากพูดไปจะต้องทะเลาะกับภรรยา "ผมรู้อยู่เต็มอก ผมรู้มาโดยตลอด เเต่เเกล้งทำเป็นไม่รู้ เพราะสงสารลูก ไม่อยากให้ลูกมีปัญหา"
ส่วนเรื่องการเปย์เงินที่คนก่อเหตุอ้างว่าให้เงินภรรยาไปเป็นล้าน ตนเองก็ไม่เคยทราบมาก่อน เพราะทางภรรยาไม่เคยบอกอะไรเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุเ ยอมรับว่าภรรยาเป็นคนชอบเล่นการพนัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองเสียใจมาก "ผมไม่เคยโกรธเขา เพราะผมเป็นคนใจดี แต่กลับรู้สึกสงสารที่เขาถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม จึงอยากให้คนก่อเหตุได้รับโทษสูงสุด เพราะผมเชื่อว่าเขาวางเเผนมาฆ่า"
ลูกสาวของผู้ต้องหา คือนางไก่ (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาคุณพ่อเป็นคนอัธยาศัยดี หลังจากคุณเเม่เสียชีวิต ก็มาคบหากับผู้ตายได้ประมาณ 7 ปี โดยรู้จักกันในวงไฮโล เนื่องจากทั้งคู่เป็นคนชอบเล่นการพนัน ที่ผ่านมาคุณพ่อเป็นฝ่ายเปย์เงินให้ฝ่ายหญิงมาโดยตลอด เวลาฝ่ายหญิงจะไปเล่นการพนัน ก็จะให้เงินครั้งละ 1.2 หมื่นบาท
โดยเมื่อ 5 ปีที่เเล้ว พ่อขายที่ดิน 7 ไร่ ได้เงิน 9 เเสนบาท ก็เอาเงินไปเข้าบัญชีธนาคาร เเล้วให้ผู้ตายถือบัตร ATM เพราะพ่อกดไม่เป็น เวลามีธุระใช้จ่ายก็จะให้ผู้ตายไปกดให้ เเต่ผู้ตายก็มักจะเเอบกดเงินเกินจำนวน โดยที่พ่อไม่เคยทราบ จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีที่เเล้ว ตนเองมาตรวจเงินในบัญชีพ่อ พบว่าเหลือเงินเเค่ 300 บาท คาดว่าตลอดระยะเวลา 7 ปี พ่อหมดเงินไปไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทางผู้ตายหลังจากทราบว่าเงินพ่อหมด ก็เริ่มตีตัวออกห่าง เเละไปคบหากับผู้ชายคนใหม่ ทำให้พ่อช้ำใจมาก เเละเคยพูดว่าจะไปฆ่าให้ตาย ทางลูกสาวก็เคยห้ามปรามไว้หลายครั้ง เเค่ก็ไม่คิดว่าพ่อจะทำจริง ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวก็ขอเเสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องเเบบนี้ ส่วนพ่อก็ขอให้รับในสิ่งที่ทำ ลูกจะไม่ขอประกันตัว