จากกรณีที่เป็นข่าวในโลกออนไลน์ปมปัญหาเบี้ยวจ่ายเงินค่าหวยใต้ดิน โดยคู่กรณีที่เป็นเจ้ามือหวยใต้ดิน เบี้ยวไม่จ่ายเงินชาวบ้านกว่า 6 แสนบาท ซึ่งชาวบ้านอ้างว่าเจ้ามือเป็นภรรยาของพันตำรวจโท รองผู้กำกับปราบปรามนั้น
ล่าสุด วันที่ 4 ธ.ค. 64 นายสมหมาย ภักดี คู่กรณี บอกว่า วันนี้มีตำรวจโทร.มาบอกให้ในวันจันทร์เข้าไปสอบปากคำกับผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ปมปัญหาหวยใต้ดิน ส่วนภรรยาของรองผู้กำกับยังติดต่อไม่ได้ ตนเจอภรรยาของรองผู้กำกับครั้งสุดท้าย วันที่เจรจากัน 20 พ.ย. 64 และติดต่อกันครั้งสุดท้ายในวันที่ 22 พ.ย. 64 หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการติดต่อกันอีกเล
โดยภรรยาของรองผู้กำกับไม่รับสายเลยแม้แต่นิดเดียว และล่าสุดวันนี้ตนได้ไปกู้เงินมา 12,000 บาท เพื่อติดกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้าน หลังจากถูกลูกชายของภรรยามาข่มขู่เมื่อวานนี้ อ้างว่าตนได้นำเรื่องนี้ไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียทำให้เกิดเป็นข่าวครอบครัวได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะพ่อซึ่งเป็นถึงรองผู้กำกับ ต่อไปนี้ประกาศตนเป็นศัตรูกัน
ส่วนที่ภรรยาของผู้กำกับบอกว่าจะพาไปทวงเงินกับเจ้ามือใหญ่ที่อยู่ในเมืองจังหวัดบุรีรัมย์นั้น ความจริงตนแทงหวยกับภรรยาของรองผู้กำกับ ก็จ่ายเงินและรับเงินกับภรรยาของรองผู้กำกับมาตลอด อยู่ดี ๆ จะมาให้ตนไปหาเจ้ามือหวยใหญ่ ตนก็กลัวจะได้รับอันตราย ที่สำคัญตนก็ไม่เชื่อว่าจะมีเจ้ามือหวยรายใหญ่
นายสมหมาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ไม่มีเงินซื้อนมให้หลาน เหลือเงินติดตัวอยู่ 80 บาท ที่ผ่านมาแทงหวยกับภรรยาของรองผู้กำกับมาตลอด 2 ปี ก็ได้บ้างเสียบ้าง แต่ได้เงินมาตลอด ทำให้เชื่อใจจนครั้งนี้ถูกหวย 3 ตัวตรง ดีใจมาก คิดค่าหวยแล้วจะได้เงินมาประมาณ 625,000 บาท ก็กะว่าจะเอาเงินก้อนนี้มาจุนเจือครอบครัว เพราะว่ามีหลานอยู่ 4 คน ยังรับส่งไปโรงเรียนอยู่ทุกวัน ให้เงินคนละ 40 บาทไปโรงเรียน ส่วนตนและภรรยาเร่ขับรถขายผลไม้ ตอนที่รู้ว่าตนเองถูกหวย ชาวบ้านก็รู้กัน ไปร้านค้าก็บอกกับชาวบ้าน ชาวบ้านก็บอกว่าถูกหวยขนาดนี้ให้เลี้ยงหน่อยตนก็เลี้ยง เลยเซ็นเหล้า และของต่าง ๆ ให้ชาวบ้านไปร่วม 20,000 กว่าบาท เพราะคิดว่าถูกหวยจะได้เงินมาแน่ ๆ ตอนนี้ยังถูกร้านค้าตามทวงเงินอยู่เลย แต่ผ่านมากว่าครึ่งเดือน ยังไม่ได้รับเงิน พยายามทวงถามเจ้ามือตลอด ก็บอกให้ไปฟ้องศาล ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
ส่วนค่าหวยที่จะได้ 625,000 บาท หักค่าซื้อหวย 11,000 บาท ก็จะเหลือ 614,000 บาท และต้องหักกับคนที่ฝากตนเองแทงหวยแล้วถูกอีก 175,000 บาท หักกับหนี้สินไปอีก 30,000 กว่าบาท ที่เหลือก็ตั้งใจจะนำมาเลี้ยงดูหลาน 4 คนและเป็นเงินทุนในการขายผลไม้ต่อไป
ทั้งนี้ ตนกับยายจุดธูปไหว้พระไหว้เจ้าทุกวัน บอกขอให้ได้เงินคืน ตามประสาคนอีสานก็ยังมีความหวังว่าจะได้เงินคืน และขอให้เจ้ามือนำคนเงินมาคืนตนด้วยเถอะ
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ พันตำรวจเอกดำรงค์ศิลป์ ดวงกลาง ผู้กำกับ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ บอกว่า ตอนนี้รองผู้กำกับไม่ได้อยู่ที่สถานีตำรวจ โดยผู้การจังหวัดได้ให้รองผู้กำกับไปปฏิบัติปฏิบัติหน้าที่ ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง กรณีภรรยาของรองผู้กำกับรับซื้อหวยใต้ดิน
จริง ๆ แล้วรองผู้กำกับเป็นคนนิสัยดี เท่าที่ทราบก็ไม่เคยเห็นว่ามีการขายหวยใต้ดินให้กับคนในละแวกนี้ ที่สำคัญที่ทราบมาคือ รองผู้กำกับและภรรยาเลิกราหรือห่างกันมานานแล้ว เรื่องนี้รองผู้กำกับเองก็อาจจะไม่รู้เรื่องด้วยเลย แต่ก็ต้องรอการสอบสวนข้อมูลข้อเท็จจริงจากส่วนกลางก่อน
นอกจากนี้ ตำรวจใน สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ บอกว่ารองผู้กำกับวิชัยเป็นคนนิสัยดี เป็นกันเองกับลูกน้องมาก ไม่เคยเห็นว่ามาขายหวยใต้ดินให้กับคนในละแวก ปกติก็จะกลับบ้านไปอยู่บ้านพักกับแม่ ไปดูแลแม่ที่ชรา อยู่ในอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ โดยไม่รู้ว่าบ้านอยู่ที่ไหน และที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นภรรยาของรองผู้กำกับ เพียงรู้แต่ว่ารองผู้กำกับมีครอบครัวซึ่งอยู่บ้านที่อยู่ต่างอำเภอกันเท่านั้น
ทีมข่าวโทรสอบถามข้อมูลกับพันตำรวจโทวิชัย รองผู้กำกับ ผู้ถูกกล่าวหา ยืนยันว่า ตนไม่รู้เรื่องในการทำหวยใต้ดินของภรรยาจริง ๆ เบื้องต้นเท่าที่ทราบจากภรรยาว่าซื้อหวยใต้ดินจากเจ้ามือคนเดียวกันกับคู่กรณี และถูกหวยเหมือนกัน และยังไม่ได้รับเงินเช่นเดียวกัน โดยเจ้ามือได้หนี ปิดโทรศัพท์มือถือ
ทีมข่าวสอบถามว่าตอนนี้สามารถติดต่อกับภรรยาได้หรือไม่ พันตำรวจโทบอกว่าไม่สามารถติดต่อได้ และที่ผ่านมายอมรับว่าห่างกันมานานแล้ว พูดตรง ๆ ว่าเลิกกัน โดยในวันที่ตนไปเคลียร์หรือไปเจรจาวันนั้น ตนตั้งใจจะไปเยี่ยมหลานที่อำเภอเมือง ซึ่งเป็นบ้านที่ตนซื้อให้กับลูกชายอยู่ ก็ไปพบเข้ากับภรรยาและคู่กรณีที่เดินทางมาไกล่เกลี่ย ตนจึงเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยกัน และไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายมาถึงตนขนาดนี้