วันที่ 6 ธ.ค.64 ฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นให้คำมั่นจะ “เตรียมตัวเพื่อรับมือสถานการณ์เลวร้ายที่สุด” จากโรคติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน ขณะเดียวกันก็จะยังส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศด้วย โดยระหว่างการปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายช่วงต้นการประชุมวิสามัญของรัฐสภาญี่ปุ่น คิชิดะแสดงความหวังว่าญี่ปุ่นจะ เดินหน้าอภิปรายเกี่ยวกับการปรับแก้รัฐธรรมนูญ พร้อมให้คำมั่นทบทวนนโยบายด้านความมั่นคงให้เสร็จสิ้นภายในเวลาประมาณ 1 ปี
แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในญี่ปุ่นจะดีขึ้นมากแล้ว แต่คิชิดะยังกล่าวเตือนถึงภัยเสี่ยงใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงการที่หลายประเทศตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน
คิชิดะระบุว่าญี่ปุ่นจะยังดำเนินการอย่างระมัดระวังต่อไป โดยตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนเป็นต้นมา ญี่ปุ่นได้เพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวม 10,000 เตียง และอาจอนุมัติการใช้งานยาแบบรับประทานเพื่อการรักษาภายในเดือนธันวาคม ขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นจะพร้อมออกใบรับรองดิจิทัลสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว ภายในวันที่ 20 ธ.ค.64
เมื่อกล่าวถึงการตัดสินใจสั่งห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ญี่ปุ่น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน คิชิดะกล่าวว่าเขาพร้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ว่าตนระมัดระวังเกินไป ทั้งที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีพอ
นอกจากนี้ คิชิดะได้ให้คำมั่นสนับสนุนธุรกิจและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ ด้วยเงินกระตุ้นก้อนใหญ่ซึ่งส่วนใหญ่มาจากงบประมาณเสริมของปีงบประมาณ 2021 ที่มีมูลค่า 36 ล้านล้านเยน (ราว 10.78 ล้านล้านบาท) และคาดว่ารัฐสภาจะให้การอนุมัติระหว่างการประชุมวิสามัญ
ส่วนการปฏิรูปรัฐธรรมนูญนั้น คิชิดะกล่าวย้ำว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติมีหน้าที่พิจารณาอย่างจริงจังว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดหรือไม่ พร้อมระบุว่า “ขณะที่เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราควรตั้งคำถามกับสาธารณชนว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันหรือไม่”
คิชิดะระบุว่ารัฐบาลจะเพิ่มแรงจูงใจทางภาษีในระดับสูง เพื่อให้บริษัทเพิ่มค่าแรงให้แก่พนักงาน เพื่อให้สอดคล้องกับคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ด้านการบรรลุ “ทุนนิยมใหม่” ที่นอกจากจะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นแล้ว ยังจะเพิ่มการกระจายความมั่งคั่งให้ชนชั้นกลางอีกด้วย
สำหรับการส่งเสริมเทคโนโลยีดิจิทัลนั้น คิชิดะระบุว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะวางระบบเคเบิลใต้น้ำรอบๆ ญี่ปุ่นเพื่อสร้าง “ซูเปอร์ฮายเวย์” หรือทางด่วนด้านสารสนเทศสำหรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของประเทศ ทั้งนี้การประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภาญี่ปุ่นเริ่มขึ้นช่วงบ่ายวันจันทร์ (6 ธ.ค.) และจะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 21 ธ.ค.64
ภาพ - ซินหัว, AFP ที่มา - https://www.xinhuathai.com/inter/247365_20211206
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ญี่ปุ่น กลับลำ! ยกเลิกคำสั่งห้ามเข้าประเทศ หลังถูกประชาชนวิจารณ์ยับ
- สหรัฐฯ เผยโควิด โอไมครอน อาจอันตรายน้อยกว่า เดลตา
- ญี่ปุ่น พบโควิด โอไมครอน รายแรก เดินทางจากนามิเบีย
Advertisement