จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 61 นายวงศกร เพ็ชร์สนั่น อายุ 30 ปี แต่งหน้าและปลอมตัวเป็นฝรั่ง ไปปล้นสร้อยคอในร้านทอง รวม 24 บาท ในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยตำรวจสามรถจับกุมตัวได้ในวันเดียวกัน (อ่าน :
หนุ่มวิ่งราวร้านทอง ไม่รอดถูกจับ รับเสริมดั้ง ใส่คอนแทคเลนส์ หวังอำพรางเป็นฝรั่ง )
วันที่ 4 ธ.ค. 61
น.ส.กนกพร เขมะสิงคิ หรือ ครูจอย ช่างแต่งหน้าให้นายวงศกร เปิดเผยว่า นายวงศกรได้ติดต่อตนผ่านทางลูกศิษย์ ว่าต้องการแต่งหน้าเปลี่ยนเป็นอีกคน เพื่อให้แฟนจำไม่ได้ โดยอ้างว่าทะเลาะกับแฟน จะเลิกกันแล้ว จึงขอร้องให้ตนช่วย เพราะครอบครัวกำลังจะพัง และไม่ได้เจอลูกเมียมาเป็นเดือนแล้ว อยากแต่งหน้าแล้วปลอมตัวไปง้อแฟน เพราะอย่างน้อยแฟนจะได้เห็นความพยายาม
กระทั่งวันที่ 30 พ.ย. ในช่วงเย็น ตนจึงนัดอีกฝ่ายมาที่บ้านพักย่านรามคำแหง โดยคนร้ายเข้ามาแต่งใต้ตาคล้ำให้สว่างขึ้น ทำจมูกให้โด่งและทำหนวดเครา ซึ่งตนได้เสนอว่าจะแต่งเป็นคนแก่หัวโล้นหรือไม่ แต่เจ้าตัวปฏิเสธ พร้อมบอกว่าอยากเป็นหนุ่มหล่อ อยากลองแต่งเป็นลูกครึ่ง ซึ่งใช้เวลาแต่งหน้าประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากแต่งเสร็จ เขาก็กลับออกไป โดยในครั้งนี้ตนคิดค่าอุปกรณ์เพียงแค่ 3,000 บาท เนื่องจากรู้สึกสงสาร เพราะถ้าคิดราคาเต็มมันสูงถึง 20,000 บาท กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ตนจึงโทรศัพท์ไปถามความคืบหน้าว่าง้อแฟนสำเร็จหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่า ไปไม่ทันบ้านแฟนปิดเสียก่อน ซึ่งตนก็คาดว่าสิ่งที่ปิดไม่ใช่บ้านแฟน แต่อาจจะเป็นร้านทอง
กระทั่งวันที่ 1 ธ.ค. 61 นายวงศกรได้โทรมาหาตนอีกรอบและขอนัดแต่งหน้าอีกรอบ ตนจึงนัดเขามาอีกรอบในวันที่ 2 ธ.ค. 61 เวลา 11.00 น. ซึ่งเขาเป็นโจรที่ตรงเวลามาก เพราะเขามาเร็วมากนั้นตนและทีมงานอีก 2 คนก็เริ่มแต่งละเอียดขึ้น ซึ่งกว่าจะตกตแ่งใบหน้าให้เนียนขึ้นนั้น ต้องใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง และในระหว่างแต่งหน้าเขาพูดตลอดว่าจะได้เจอลูกแล้ว ซึ่งการแต่งหน้ารอบนี้ตนขอค่าอุปกรณ์แค่ 7,000 บาท โดยไม่คิดค่าแรงเลย แต่เขาให้ค่าจ้าง 4,000 บาท และบอกว่าจะโอนให้อีก 3,000 บาท ตนจึงเชื่อใจ และเมื่อโทรไปถามถึงความคืบหน้าในการง้อแฟน เขาก็บอกว่าสำเร็จไป 65 เปอร์เซ็นต์แล้ว
กระทั่งนักเรียนนำข่าวมาให้ตนดู หัวใจหล่นไปตาตุ่ม เพราะเห็นเขาถูกจับ เพราะคนร้ายใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความขี้สงสารของตนไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งหลังเห็นข่าวตนก็ยังคิดดีว่าเขาอาจจะไปซื้อทองแล้วเข้าใจผิด แต่เมื่อตนอ่านข่าวก็พบว่าเขาได้ไปดูลาดเลาในวันที่ 2 และปล้น ในวันที่ 3 ซึ่งคาดว่าเขาน่าจะไม่ล้างหน้าตลอดทั้งคืน ซึ่งตนก็งงและเจ็บใจที่ถูกหลอก โดยใช้ความขี้สงสารตนเป็นเครื่องมือ
นอกจากนี้ คนร้ายจะมีการถามอยู่ตลอดว่าหน้าที่แต่งอยู่ได้นายแค่ไหน ซึ่งตนก็บอกว่าหนวดอยู่ได้ 3 วัน ส่วนจมูกอยู่ได้ 5 ชั่วโมงและจะเริ่มหลุดลอก เหมือนเขาพยายามเช็กว่าหน้าจะอยู่ได้นานเท่าไร