หวิดปะทะ! ฮือไล่สมภารถูกแฉอนาจารพี่น้อง ถลกจีวรพิสูจน์ตุ่มเจ้าโลก (คลิป)

กรณีนางสาวน้ำทิพย์ (นามสมมติ) ป้าของเด็กหญิงเอ อายุประมาณ 14 ปี และนางสาวหญิงบี อายุ 18 ปี ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์สมุทรสงคราม เนื่องจากเด็กหญิงทั้งสองคนถูกเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบลวัดดัง ในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ข่มขืน 2 เด็กหญิง ตั้งแต่อายุ 11-15 ปี ในปี 2561 และปี 2558 มาจนถึงปัจจุบัน

โดยพระครูสิทธิกิจจากร เจ้าอาวาสวัดดัง เคยชี้แจงผ่านอมรินทร์ทีวีถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่ามีคนให้ร้าย เนื่องจากเด็กทั้งสองเป็นเครือญาติ อีกทั้งอาตมาป่วยต่อมลูกหมาก และโรคหัวใจ อวัยวะไม่แข็งตัว ไม่มีความรู้สึกทางเพศ จากนั้นข่าวก็เงียบไป เนื่องจากต่างฝ่ายต่างกลัวเสียรูปคดี กระทั่งวันนี้ (7 ธันวาคม) นางสาวน้ำทิพย์ได้เข้าร้องเรียนนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา และนายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิตะ เนื่องจากกลัวว่าคดีจะเงียบไม่คืบหน้า

วันที่ 7 ธ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านหมอปลา จังหวัดเพชรบุรี ในเวลา 10.00 น. ก่อนที่ทุกคนจะเดินทางไปเยี่ยมเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูและบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสงคราม

โดยนางสาวบี (นามสมมติ) พี่สาวของเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) ยินดีที่จะให้สัมภาษณ์ บอกว่า ปี 2558 เจ้าอาวาสได้ติดต่อว่าจ้างให้ตนและน้องสาวช่วยล้างจาน ปัดกวาดทำความสะอาดวัด และช่วยงานต่าง ๆ ของวัด ให้ค่าจ้างวันละ 100-200 บาท

จากนั้นมีอยู่วันหนึ่งที่ตนกำลังล้างจานอยู่ เจ้าอาวาสได้เดินเข้ามาล้วงหน้าอกและจับอวัยวะเพศของตนจากด้านหลัง ตนรู้สึกตกใจ แต่ยังยังเด็ก จึงยังไม่รู้ความอะไรมาก ซึ่งตนได้นำเรื่องนี้ไปบอกแม่ แต่แม่ไม่เชื่อ แม่ป่วยติดเตียงตั้งแต่ปี 2560 และเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งไทรอยด์ ปี 2562 กระทั่งตนทนไม่ไหว เพราะถูกกระทำทุกเวลาที่อีกฝ่ายมีโอกาส อีกทั้งเจ้าอาวาสยังเดินตามคอยเฝ้าไม่ว่าตนจะทำอะไรภายในวัด แม้แต่เข้าห้องน้ำ ตนจึงตัดสินใจหนีออกมาจากวัดในปี 2561 ไปอาศัยอยู่ที่บ้านของเพื่อน

จากนั้นในเดือนตุลาคม 2564 ตนได้กลับมาอาศัยอยู่ที่บ้าน ก็ได้กลับไปที่วัดดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อช่วยน้องสาวทำงานในวัด แต่เจ้าอาวาสก็ยังคงล่วงละเมิดตนเช่นเดิม กระทั่งในวันที่ 24 พฤศจิกายน ตนได้เปิดอกคุยกับเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) จึงทราบว่าน้องสาวของตนก็ถูกล่วงละเมิดทางเพศเช่นกัน ร้ายแรงถึงขั้นข่มขืนสำเร็จความใคร่ โดยตนรู้สึกตกใจมาก เพราะเพิ่งทราบเรื่อง ตนกับน้องสาวจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ทั้งนี้ ตนเกรงกลัวในอิทธพลของเจ้าอาวาส แม้มีเรื่องฉาว แต่เจ้าอาวาสก็ยังคงอยู่ในวัด ไม่คาดคิดว่าเจ้าอาวาสจะทำแบบนี้กับตนและน้องสาว

ทั้งนี้ นางสาวบีได้ส่งมอบคลิปเสียงของเจ้าอาวาส ในคืนวันที่ 24 พฤศจิกายน เป็นคลิปเสียงที่นางสาวบีเข้าไปพูดคุยกับเจ้าอาวาส หลังจากที่ทราบเรื่องของเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) น้องสาว มีพระลูกวัด เจ้าอาวาส และนางสาวบี สนทนากัน โดยเจ้าอาวาสปฏิเสธเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อ้างว่าเป็นมะเร็ง

อีกคลิปมีการโต้เถียงกับเจ้าอาวาสเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าน้องสาวไม่โกหก และมีมูลความเป็นไปได้ เนื่องจากเจ้าอาวาสเคยจับหน้าอกและล้วงอวัยวะเพศของตน ส่วนเจ้าอาวาสอ้างว่าจะนำเรื่องราวมาพูดทำไม เพราะไม่มีหลักฐาน พร้อมท้าทายให้นางสาวบี (นามสมมติ) พาเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) ไปตรวจภายใน อีกทั้งยังหลุดยอมรับว่าเคยจับหน้าอกและล้วงอวัยวะเพศนางสาวบี (นามสมมติ) พูดว่า "จับแล้วผิดอะไร ล้วงไม่ผิด ถ้าผิดก็แค่สังฆาทิเสส ไม่ถึงปาราชิก แล้วตอนนันยังไม่ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส"

ในเวลา 12.30 น. ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี พร้อมหมอปลา และทนายโนบิตะ ก็ได้เดินทางมาถึงบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสงคราม โดยทางผู้อำนวยการบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสงครามอนุญาตเพียงหมอปลา ทนายโนบิตะ และแพทย์หญิงเกศกมล เปลี่ยนสมัย ให้เข้าไปพูดคุยกับเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) เท่านั้น เนื่องจากภายในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสงครามมีเด็กอยู่เป็นจำนวนมาก เกรงว่าเด็กจะตกใจ

หลังจากที่สื่อมวลชนได้พูดคุยกับ ผอ.สำนักพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสงคราม แล้วกำลังจะเข้าไปพบกับพระครูสิทธิกิจจากร เจ้าอาวาสวัดบางจะเกร็ง จู่ ๆ ประธานกรรมการวัดก็ได้เดินมาพูดต่อหน้าสื่อว่า อยากให้สื่อฟังความทั้งสองฝ่าย เนื่องจากเจ้าอาวาสไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนึ้ สื่อมวลชนจึงเปิดคลิปเสียงที่เพิ่งได้รับมาให้ประธานกรรมการวัดฟัง ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าเป็นเสียงของเจ้าอาวาสจริง โดยหากเป็นจริงตามคลิปก็คงต้องจับสึก

พระครูสิทธิกิจจากร บอกว่า อาตมาได้แจ้งความพระเต้ง เพราะอีกฝ่ายได้กล่าวหาอาตมาว่าข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายได้ลงมือข่มขืนเด็กเอง ซึ่งในคืนวันที่ 24 พฤศจิกายน ทางครอบครัวเด็กหญิงก็ได้ยกกันมาถ่ายคลิปและด่าทออาตมา อาตมาเป็นญาติกับเด็กหญิงเอ และนางสาวบี โดยอาตมาขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อาตมาไม่เคยล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิง

ส่วนคลิปเสียงของอาตมากับนางสาวบี อาตมาไม่ได้ยอมรับว่าอาตมาสัมผัสอวัยวะเพศของเด็ก อาตมาเพียงถามกลับว่า "จับแล้วผิดอะไร เพราะอาตมาไม่ได้ทำ" ทั้งนี้ อาตมาป่วยต่อมลูกหมากโต ไม่มีความรู้สึกทางเพศมานาน 8 ปีแล้ว แต่ไม่ได้ป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากตามที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ โดยที่ตอนนั้นพูดไป เนื่องจากต้องการจะล่อให้พระเต้งออกมายอมรับผิดว่าข่มขืนเด็ก ส่วนเรื่องราวในอดีตที่ชาวบ้านพูดถึงอาตมาในทางเสียหายเกี่ยวกับสีกา อาตมาขอยืนยันว่าอาตมาโดนใส่ร้ายมาโดยตลอด

โดยขณะที่เจ้าอาวาสออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนนั้น ชาวบ้านต่างทยอยกันมามุงดูเหตุการณ์ พร้อมโห่ร้องขับไล่เจ้าอาวาส จนเกือบหวิดวางมวยกับประธานกรรมการวัด อีกทั้งนางสาวบี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ยังได้ออกมาต่อว่าเจ้าอาวาสว่าโกหก ทางด้านพระครูสิทธิกิจจากร เจ้าอาวาสวัดบางจะเกร็ง จึงพูดขึ้นมาว่าพร้อมพิสูจน์ว่าอวัยวะเพศมีตำหนิจริงหรือไม่ ถ้าอีกฝ่ายบอกได้ว่าคือตำหนิอะไร เพราะมั่นใจว่าไม่มีใครทราบเรื่องตำหนินี้

จากนั้นผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวีก็ได้ตามเจ้าอาวาสเข้าไปในห้อง เพื่อยืนยันตำหนิบนอวัยวะเพศของเจ้าอาวาส หลังได้รับข้อมูลมาจากเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) และครอบครัวแล้วว่าอวัยวะเพศของเจ้าอาวาสมีตำหนิ ได้แก่ ตุ่มคล้ายการฝังมุก จากนั้นได้เข้าไปห้องน้ำ ซึ่งเจ้าอาวาสได้ถกจีวรให้ทีมข่าวดู ทีมข่าวพบว่าอวัยวะเพศของเจ้าอาวาสมีตุ่มจริง แต่เจ้าอาวาสปฏิเสธว่าเป็นการฝังมุกเพิ่มขนาด ตุ่มดังกล่าวเป็นตุ่มไขมันอุดตัน ยืนยันว่าอวัยวะเพศไม่มีการแข็งตัวมานานกว่า 8 ปี

ทั้งนี้ เจ้าอาวาสยังได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ บอกให้ผู้สื่อข่าวจับที่อวัยวะเพศของเจ้าอาวาสได้ เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นตุ่มไขมันหรือมุกที่ฝัง แต่ผู้สื่อข่าวปฏิเสธ เนื่องจากไม่มีถุงมืออนามัย ไม่ถูกสุขลักษณะ

ทั้งนี้ จากการที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปพิสูจน์ตำหนิบนอวัยวะเพศของเจ้าอาวาส พบว่าตรงกับคำพูดของเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) ซึ่งร้องเรียนสื่อมวลชนในฐานะผู้เสียหาย แต่ทางเจ้าอาวาสได้ปฏิเสธ ให้เหตุผลว่าจริงอยู่ที่ไม่มีใครรู้เรื่องตำหนิบนอวัยวะเพศของอาตมา แต่อาตมาเคยพูดให้อดีตพระลูกวัดฟัง จึงไม่อาจทราบได้ว่าเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) ทราบเรื่องตำหนิมาจากอดีตพระลูกวัดที่นำเรื่องนี้ไปพูดต่อหรือไม่

นางสาวน้ำทิพย์ (นามสมมติ) ป้าของผู้เสียหาย บอกว่า ตั้งแต่ให้ข่าวไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอความร่วมมือจากตนและเจ้าอาวาสให้หยุดให้ข่าว เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี แต่เนื่องจากเมื่อข่าวเงียบลง ชาวบ้านต่างก็เริ่มลือกันว่าตนรับเงินจากเจ้าอาวาสจำนวน 800,000 บาท เพื่อปิดปาก เพราะเจ้าอาวาสเคยมีข่าวฉาวมาแล้วถึง 2 ครั้ง ตนจึงยอมไม่ได้ และตัดสินใจเข้าร้องเรียนกับหมอปลาและสื่อมวลชนในวันนี้

โดยในวันที่ 24 พฤศจิกายน หลังจากที่เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) และนางสาวบี (นามสมมติ) พูดคุยกันว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ นางสาวบี (นามสมมติ) พูดว่า "มึงก็โดนเหรอ กูนึกว่ากูโดนคนเดียว" ทั้งคู่ได้เดินทางไปแจ้งความกันเองที่สถานีตำรวจ โดยมีพระเต้ง พระลูกวัด แนะนำให้ไปแจ้งความ ตนเพิ่งจะทราบเรื่องในวันที่ 25 พฤศจิกายน อีกทั้งเพิ่งจะทราบด้วยว่าลุงของเด็ก ก็ทราบเรื่องนี้ด้วย แต่ไม่เคยบอกตน ด้วยเหตุผลที่อาจจะไม่เชื่อที่เด็กพูด

หลังพ่อแม่ของหลานเสียชีวิต ตนก็รับเลี้ยงดูเด็กมาโดยตลอด อีกทั้งพระเต้งยังถูกเจ้าอาวาสใส่ร้ายว่าพระเต้งเป็นผู้ก่อเหตุกับเด็ก และกดดันให้สึก ตนสงสารหลาน มีครั้งหนึ่งขณะที่เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจร้องไห้ปาดน้ำตา บอกว่า “หลวงตาไม่น่าเหี้-ทำหนูได้ขนาดนี้” ซึ่งตนก็ได้แต่ปลอบใจ เพราะเด็กคิดว่าไม่มีใครเข้าข้าง ทั้งนี้ ตนอาจจะเข้มงวดกับหลานมากเกินไป เวลาหลายทำผิดตนจะตี จึงอาจทำให้หลานไม่กล้ามาปรึกษา ตนจึงกลายเป็นคนสุดท้ายที่ทราบเรื่อง ตนกับหลานจะสู้ไปด้วยกัน หลานของตนทั้งคู่เข้มแข็ง ทั้งคู่สูญเสียพ่อและแม่ แต่ยังมีกำลังใจใช้ชีวิต ถ้าจะแพ้ก็ขอให้รู้ว่าสู้แล้ว

นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา และหมอเกศ แพทย์หญิงเกศกมล เปลี่ยนสมัย คนเข้าไปพูดคุยกับเด็กหญิงเอที่บ้านพักฯ และนายสาริต แสงจันทร์ หรือ เสี่ยเปีย นักธุรกิจเจ้าของแบรนด์หมูปิ้งนมสด เพื่อนของหมอปลา ถึงกรณีที่เกิดขึ้น

หมอปลา บอกว่า จากการลงพื้นที่พบว่าฝ่ายต่อต้านเจ้าอาวาสค่อนข้างมีจำนวนมาก เนื่องจากรับไม่ได้กับพฤติกรรมของเจ้าอาวาสตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ทั้งนี้จากตำหนิบนอวัยวะเพศของเจ้าอาวาส ซึ่งได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ดูด้วย ก็น่าจะยืนยันชัดเจนแล้วว่าเจ้าอาวาสมีความผิดตามข้อมูลที่ผู้เสียหายร้องเรียนมา ตนจะขอดำเนินการติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพราะหากรอกระบวนการของทางสงฆ์ของสำนักพระพุทธศาสนา และกระบวนการทางกฎหมายอาจจะล่าช้า

ด้านแพทย์หญิงเกศกมล เปลี่ยนสมัย บอกว่า ตนได้พูดคุยกับเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) ด้วยตัวเอง ซึ่งเด็กยืนยันแล้วบอกมาว่าอวัยวะเพศของเจ้าอาวาสมีตำหนิ โดยเด็กไม่น่าจะโกหก และเป็นที่สังเกตว่าเด็กทราบได้อย่างไร

พระภาวนาวิสุทธิโสภณ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม บอกว่า อาตมาพอจะทราบเรื่องจากข่าวอยู่บ้าง แต่ทางเจ้าคณะอำเภอยังไม่แจ้งเรื่องมา โดยกระบวนการทางสงฆ์ค่อนข้างที่จะละเอียดอ่อน และมีลำดับขั้นตอนเยอะพอสมควร เพราะขั้นตอนแรกจะต้องเรียกร้องผ่านทางเจ้าคณะอำเภอมาก่อน แล้วให้อำเภอส่งเรื่องมาที่จังหวัด จากนั้นทางจังหวัดจะพิจารณาแล้วให้เจ้าคณะอำเภอเป็นคนจัดการ ซึ่งอาตมาจะข้ามขั้นตอนตรงนี้ไม่ได้ เนื่องจากจะถูกมองว่าไม่เป็นธรรม

แต่ในเมื่อผู้เสียหายเข้ามาขอร้องความเป็นธรรม อาตมาจึงอยากแนะนำให้ผู้เสียหายเขียนหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแนบหลักฐาน มาร้องเรียนกับอาตมาโดยตรง เพื่อที่ทางจังหวัดจะได้เร่งส่งเรื่องให้เจ้าคณะอำเภอเป็นคนจัดการ พร้อมยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างแน่นอน

พระเต้ง อายุ 49 ปี ซึ่งทางเจ้าอาวาสกล่าวหาว่าเป็นผู้ข่มขืนเด็ก ชี้แจงว่า อาตมาบวชและจำวัดอยู่ที่วัดบางจะเกร็จได้ประมาณ 10 เดือนแล้ว โดยที่เลือกมาบวชที่วัดแห่งนี้ เนื่องจากอาตมามีภรรยาและครอบครัวอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ โดยในช่วงเดือนตุลาคม เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) ได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากอาตมา อาตมาจึงได้แนะนำให้แอบถ่ายคลิปของเจ้าอาวาสไว้เพื่อเป็นหลักฐาน จากนั้นในคืนวันที่ 24 พฤศจิกายน เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) และนางสาวบี (นามสมมติ) ก็ได้มาปรึกษาตนอีกครั้ง ตนจึงบอกให้ทั้งคู่ไปแจ้งความในคืนนั้นทันที ไม่คาดคิดว่าจะถูกเจ้าอาวาสนำมาพูดถึงว่าอาตมากระทำชำเราเด็ก

แต่การที่อาตมาถูกเจ้าอาวาสกล่าวหา อาตมาไม่มีความกังวล โดยอาตมาขอถามกลับว่าในเมื่อเด็กเป็นผู้เสียหาย แต่ทำไมเด็กถึงชี้ตัวเจ้าอาวาส แต่เด็กไม่ได้ชี้มาที่อาตมา เพียงเท่านี้ก็ชัดเจนแล้วว่าใครคือผู้ก่อเหตุ นอกจากนี้ อาตมายังไม่เคยให้เงินเด็กแม้แต่บาทเดียว แต่เจ้าอาวาสได้ว่าจ้างเด็กให้มาทำความสะอาดวัด แล้วเด็กจะตัดท่อน้ำเลี้ยงตัวเองทำไม หากไม่เกิดเหตุขึ้นจริง อาตมายืนยันว่าจะจำวัดอยู่ที่วัดบางจะเกร็งต่อ เพราะต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ แม้ทุกวันนี้จะไม่มีกิจนิมนต์ใด ๆ ก็ตาม "ถ้าเราทำสิ่งที่ถูก ไม่จำเป็นต้องเครียด"