หนุ่มใหญ่สระแก้ว วัย 60 ปี สุดช้ำ เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนในพื้นที่ให้ช่วยเป็นสื่อกลาง หลังถูกสาวเสริมสวยหลอกทั้งเงิน ทั้งรถเก๋ง นอกจากนั้นยังหลอกให้เอารถไถไปจำนำอีก หมดเงินกลับตีจากทิ้งหนี จากนั้นได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.วังน้ำเย็น ตำรวจรับแจ้ง แนะนำหาหลักฐานร้องศูนย์คุมครองสิทธิ์และเสรีภาพประชาชนสระแก้ว เพื่อช่วยฟ้องทางแพ่ง เรียกเอาทรัพย์สินคืนนั้น
วันที่ 7 ธ.ค. 64 นายสันต์ทัศ ทองอบอุ่น อายุ 60 ปี หมู่ 13 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว หนุ่มใหญ่วัย 60 ปี โดยได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดว่า ตนนั้นเคยไปทำงานต่างประเทศได้ 30 ปี โดยเดินทางไปหลายประเทศ แล้วแต่งานที่ทางบริษัทรับงานมา นาน ๆ ครั้งจะกลับมาประเทศไทย ครั้งสุดท้ายอยู่ที่เกาะไซปัส
ตนนั้นเคยมีภรรยามาแล้วทั้งหมด 3 คน คนแรกอยู่ด้วยกัน 20 กว่าปี ส่งเงินมาให้ใช้ และให้ส่งเงินมาที่แม่ตนด้วย แต่เขาก็ไม่เคยส่งไปให้แม่ หลังตนทราบจึงต่อว่าและเลิกกับเขา โดยไม่ส่งเงินให้อีกเลย
ภรรยาคนที่ 2 ตอนกลับมาประเทศไทยและมาเจอเขา ก็อยู่ด้วยกันอีก 7 ปี ก็ส่งเงินมาให้เขาใช้จ่ายจากต่างประเทศตลอดเวลา ซื้อที่ไร่ซื้อบ้านให้อยู่ จนเขาอยากจะเปิดร้านอาหารในที่ไร่ พอเปิดได้ 2 เดือน เขาก็ชวนกลับมาให้มาอยู่ที่บ้าน มาดูแลร้านอาหาร ตนจึงได้ลาออก และเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย จนกิจการไม่ดี และเขาก็ออกเที่ยวหายไปหลายวัน และทะเลาะกัน ตนจึงได้ประกาศขายที่ขายไร่ เอาเงินมาแบ่งกัน หลังจากที่เสียใจครั้งนั้น ก็มาเจอสาวร้านเสริมสวยคนล่าสุด
ภรรยาคนที่ 3 สุดท้ายคนนี้อยู่กันมา 2 ปีกว่า ตนนั้นได้ถูก นางสาวอ้อย (นามสมมติ) สาวเสริมสวยหลอกออกรถเก๋ง จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในราคา 500,000 บาท หลอกให้นำไปจำนำ ให้นำรถไถนายี่ห้อคูโบต้า ไปจำนำอีกในราคา 100,000 บาท ยังไม่พอหลอกให้นำรถยนต์ 4 ประตู ไปจำนำนายทุนอีก 106,000 บาท ล่าสุด ยังให้ขายที่ดินจำนวน 1 แปลง รวมเป็นเกือบ 3 ล้านบาท
นายสันต์ทัศ บอกว่า ตนได้ซื้อบ้านเอื้ออาทรให้เปิดร้านเสริมสวยให้ซื้อรถยนต์ให้ แต่ก็มาถูกหลอก ซื้อรถเก๋งฮอนด้าให้เขาโดยเป็นชื่อของตน แต่เขาก็เอาไปจำนำ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็ได้หลอกเอารถมาสด้า 4 ประตู กับรถไถนาไปขาย โดยอ้างโน้นอ้างนี่ เพื่อจะไปใช้หนี้นอกระบบเงินกู้รายวัน กลัวพวกนายทุนมาทุบตี เลยต้องไปตัดให้หมด รวมทั้งหมดเงินกว่า 3 ล้านบาท ขายบ้านเอื้ออาทรและที่ดิน 7 ไร่ให้เขาไปอีก เวลาเขาเดือดร้อนมาก็จะโทรมาออดอ้อนตลอด เขาพูดจาดี อ่อนหวาน สุดท้ายก็เลยซื้อรถเก๋งฮอนด้าให้เขาอีกคัน เขาเปิดร้านชื่อรินทร์เสริมสวย ที่บ้านเอื้ออาทร ซอย 9 โด 1-2 อาทิตย์ตนจะไปหาเขาครั้งหนึ่ง สุดท้ายผมไปหาเขาก็พบกับบ้านที่ว่างเปล่า ข้างบ้านบอกว่าเขาย้ายไปหลายวันแล้ว ไปกับหนุ่มคนใหม่ และเมื่อวานนี้ยังโพสต์ต่อว่าตนต่าง ๆ นานา ตนมันหมดตัวแล้วจริง ๆ เขาจึงตีจากไป
"ตนทุ่มเทให้มากมาย พอตนหมดตัวก็ไม่อยากอยู่ด้วยกัน ขณะนี้ตนรู้สึกเข็ดกับชีวิตที่ผ่านมา ตนจะตั้งหน้าทำงานของตนต่อไปแต่ขอเงินคืนด้วยตนไม่เหลืออะไรแล้ว ตนขี่รถซาเล้งขายเสื้อผ้ามือสองไปตามตลาดนัด เพื่อมีรายได้เลี้ยงชีพของตนไป ตนเข็ดแล้วจริง ๆ ตอนนี้บ้านที่ผมอยู่นี้ ทางธนาคารก็มีหนังสือแจ้งจะมายึดบ้านอีก เพราะศาลตัดสินแล้ว เดือดร้อนมากจริง ๆ จึงต้องออกมาขอความเป็นธรรมบ้าง ก็อยากจะให้เขามาร่วมใช้หนี้ที่ได้ก่อร่วมกันมา ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็ทราบดีแต่ก็ไม่ยอมช่วย แถมยังตีจากตนไปหาคนใหม่ทิ้งให้ตนรับกรรมอยู่ผู้เดียว"