จากกรณี คนร้ายขี่จักรยานยนต์ประกบรถของหญิงชรา พร้อมกระชากกระเป๋าหลบหนี ในช่วงกลางวันแสก โดยในพื้นที่ดังกล่าว ชาวบ้านร้องเรียกว่าเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวขึ้นบ่อยครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตาม โดยคาดว่า คนร้ายเป็นคนในพื้นที่เนื่องจากรู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี
วันที่ 5 ธ.ค. 61
นางสารภี รงเรือง อายุ 67 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนขับรถจักรยานยนต์มาจาก ต.นาขยาด อ.ควนขนุน เพื่อไปทำธุระในพื้นที่ ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง แต่ในขณะที่ขับรถมาตามถนนสายเอเชีย ผ่านหน้าวัดท่าแคประมาณ 300 เมตร พบว่า มีชายคนขับรถจักรยานยนต์ประกบมาทางด้านซ้าย แต่ตนเข้าใจว่าอาจจะตามมาเตือนเรื่องเปิดไปเลี้ยวทิ้งไว้ หรือยังไม่ได้ขึ้นขาตั้ง
แต่ทันใดนั้น คนร้ายกลับเอื้อมมือมากระชากกระเป๋าสะพายที่แขวนไว้กับแฮนด์รถจักรยานยนต์ จนยางหุ้มแฮนด์หลุดออกไปด้วย จากนั้นคนร้ายจึงขับรถหนีเข้าซอยไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในขณะเกิดเหตุ ตนร้องตะโกนให้คนช่วยด้วยความตกใจ แต่ไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย
นางสารภี บอกอีกว่า ส่วนทรัพย์สินในกระเป๋าก็มีเอกสารทางราชการและบัตรต่าง ๆ สมุดธนาคาร บัตรเอทีเอ็มและเงินสดอีกประมาณหมื่นบาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง นอกจากนี้ ตนยังสามารถจำหน้าตาคนร้ายได้ เพราะเห็นคนร้ายได้ชัดเจน เนื่องจากคนร้ายไม่ปิดบังใบหน้า โดยคนร้ายมีอายุประมาณ 40 ปี ตัดผมสั้นเกรียน
ทางด้าน
นางศิริวรรณ แสงสุบรรณ แม่ค้าขายสละ ที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า บริเวณนี้เคยมีเหตุโจรจี้ชิงทรัพย์ คนแก่มาแล้ว ประมาณ 2-3 ครั้ง โดยคนร้ายจะมีพฤติกรรม แกล้งทำเป็นจอดรถข้างทาง เหมือนว่ารถเสีย รอให้คนเข้ามาถาม หลังจากนั้น ก็จะจี้ชิงทรัพย์ โดยเลือกก่อเหตุเฉพาะคนแก่ เพราะคนแก่สู้ไม่ได้ ซึ่งในแต่ละครั้ง ได้เงินไปไม่มาก เพราะคนแก่พกเงินไม่เยอะ ออกจากบ้านส่วนใหญ่ ก็พกเงินคนละประมาณ 100 บาท
ขณะเดียวกัน กรณีล่าสุด ขณะที่ก่อเหตุ เป็นช่วงกลางวันและมีผู้คนผ่านไปมา จากนี้ตนจึงต้องระวังตัวให้มากขึ้น อย่างเช่น ตนเองขายผลไม้ หากพบคนแปลกหน้าผ่านมา ก็จะรีบเข้าไปด้านในร้าน รวมถึงจะรีบเก็บร้านก่อนมืด เพราะกลัวว่า คนร้ายจะก่อเหตุซ้ำรอย วอนตำรวจช่วยเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี