จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2 โพสต์ข้อความว่ามีคลิปพระคอลกับสีกาและช่วยตัวเอง อยากให้สื่อช่วยตรวจสอบ เหตุเมื่อปลายปี 2561 ซึ่งทางเพจได้ส่งข้อมูลคลิปมาให้ทางอมรินทร์ ทีวี ตรวจสอบ
โดยในคลิปเป็นภาพที่พระวิดีโอคอลกับสีกาชื่อนางเอ๋ (นามสมมติ) พระรูปดังกล่าวได้มีการช่วยตัวเองต่อหน้าสีกาจนเสร็จ และทำแบบนี้ตลอดที่มีวิดีโอคอล มาเป็นปี ๆ จนนางเอ๋ทนพฤติกรรมไม่ไหวในภายหลัง บันทึกภาพส่งไปให้เพื่อนของเขา และเพื่อนของนางเอ๋ จึงส่งเรื่องให้กับทางเพจเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าพระรูปนี้เป็นพระที่มีอิทธิพลในพื้นที่และมีญาติโยมนับถือเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่าพระรูปดังกล่าวเป็นพระอายุ 58 ปี อยู่ในพื้นที่ตำบลเจดีย์หัก อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
ล่าสุด วันที่ 10 ธ.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางไปที่สำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และได้เจอกับพระวรินทร์ วุฒิทรัพย์ทวีสุข ผู้ถูกกล่าวหา เปิดใจว่า จริง ๆ แล้วคลิปที่ปรากฏเป็นคลิปที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2561 ยอมรับว่าคนในคลิปเป็นตัวอาตมา แล้วคลิปนี้เป็นคลิปที่อาตมากับโยมเอ๋แค่ครั้งเดียว เหตุผลที่ทำเริ่มมาจากโยมเอ๋ขาดที่พึ่งทางใจ จึงมีการพูดคุยกัน ในคลิปนั้น โยมเอ๋ขอดูขนาดของอาตมา ให้อาตมาวัดขนาดให้ดูว่าของอาตมาขนาดไหน จากนั้น อารมณ์ก็เป็นไปตามในคลิป
ตอนนี้ไม่อยากพูดอะไรแล้วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้ทุกอย่างจบ ไม่มีอะไรจะแก้ตัว วันนี้หลังจากอธิบายกับสื่อฯ ก็จะเดินทางไปลาสิกขากับเจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิ เพราะทนแรงกดดันไม่ได้ ที่สำคัญหลังลาสิกขาก็จะต้องเดินทางไปยอมรับความจริงกับพระผู้ใหญ่ทั้งหมด ยืนยันว่าในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่อาตมาทำแค่ครั้งเดียว ไม่คิดว่าเรื่องนานแล้วจะถูกโยมเอ๋ออกมาแฉแบบนี้
เมื่อเวลา 17.50 น. พระวรินทร์ เดินทางไปขอลาสิกขา กับพระครูสมุห์ฉันธ์ วรปฺญโย เจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิ พระวรินทร์จุดธูปจุดเทียน ก่อนจะกราบลาแล้วก็ให้พระครูสมุห์ฉันธ์ เจ้าอาวาส ปลดจีวรออกจากการเป็นพระ จากนั้นพระวรินทร์ก็เปลี่ยนใส่ชุดขาวนั่งกราบรับศีล 5 กับท่านเจ้าอาวาส ก่อนจะเป็นฆราวาสเต็มตัว
หลังจากลาสิกขา นายวรินทร์ อายุ 58 ปี เปิดใจอีกครั้งว่า วันนี้ได้ทำตามที่ตัวเองพูดไว้แล้ว โดยการรับผิดชอบรับผลกรรมที่ทำลงไป สิ่งที่ทำในวันนี้เป็นการรับผิดชอบ เพื่อจะไม่ให้ศาสนาเสื่อมเสียไปกว่านี้ หลังจากนี้ถ้าหากมีใครนำคลิปไปเผยแพร่อีกให้เสื่อมเสีย ก็จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย ทุกสิ่งทุกอย่างขอให้จบในวันนี้ ทุกคนย่อมมีกรรมของตัวเอง ยืนยันว่าไม่คิดร้ายติดใจอะไรกับคนที่เอาเรื่องนี้ออกมาแฉ ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน วันข้างหน้าอาจจะกลับมาบวชเป็นพระอีกก็ได้
ด้านนางเอ๋ สีกาในคลิป เปิดใจว่า จุดเริ่มต้นที่รู้จักกัน มาจากทางเพจของเฟซบุ๊กธรรมะ หลังจากนั้น พระวรินทร์ซึ่งอยู่ในกลุ่มดังกล่าวก็ได้ทักมาหาตนทางกล่องข้อความเฟซบุ๊ก ทักทายมาพูดคุยไม่ได้ชู้สาว เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับธรรมมะ หลังจากนั้นคุยได้ประมาณ 1 เดือน พระวรินทร์ขอไลน์และเบอร์โทร อ้างว่าจะคุยเรื่องคดีของพระคึกฤทธิ์ในกลุ่มเฟซบุ๊ก หลังจากนั้นไม่ข้ามวัน พระวรินทร์ก็ได้มีการโทรวิดีโอคอลมา โชว์หนอนพร้อมมีการสไลด์โชว์ ตนตกใจและช็อกกับภาพที่เห็น เลยรีบวางสาย ก่อนที่ทางพระวรินทร์จะส่งข้อความมาพูดคุยต่อ ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จากนั้นตนโทรไปปรึกษาเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ ก็แนะว่าให้ทำทีเหมือนเล่นด้วย พร้อมเเคปวิดีโอเป็นหลักฐานไว้ หลังจากนั้นตนก็ทำตามที่เพื่อนบอก ถัดมาอีกหนึ่งวัน 9 โมงเช้า พระวรินทร์เองก็โทรวิดีโอคอลมาอีกครั้ง ตนตั้งใจรับสายแต่ไม่เปิดกล้อง ก่อนจะแอบบันทึกภาพหน้าจอไว้ ตนทำแบบนี้อยู่ประมาณ 4-5 ครั้ง ในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ตนเองเริ่มทนไม่ไหว ตัดสินใจบล็อกทั้งไลน์ และเบอร์โทร สุดท้ายเขาเองก็ได้มาทักทางแชทเฟซบุ๊กต่อ แต่ตนก็ไม่ได้สนใจ กระทั้งทักหาตนถึงช่วงเมษายน แต่ตนก็ไม่ได้เปิดอ่าน กลับมาย้อนอ่านอีกครั้งช่วงสิงหาคมในปี 2561 ด้วยความโมโห ตนเลยตอบกลับไปด้วยถ้อยคำหยาบคาย
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าตลอดเวลาที่คุยกันตนไม่ได้มีใจ ลักษณะเชิงชู้สาวกับพระ ตนเคยบอกพระว่าอย่าทำ เข้าข่ายต้องอาบัติสังฆาทิเสส แต่เขาบอกว่าไม่ใช่ ตนถามว่าละอายไหม เขาเองก็นิ่งเฉย หนำซ้ำที่ผ่านมาเคยมีการระบุว่าหากตนโชว์นมหรือโชว์ของลับ พระรูปดังกล่าวระบุว่าจะให้เงิน ที่ผ่านมาทางพระวรินทร์เองก็เคยบอกว่าจะมาหาตนที่บ้าน แต่ตนไม่ให้มา
เรื่องผ่านมากว่า 3 ปีแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีปมปัญหาขัดแย้งจนนำไปสู่การผิดใจกัน แต่เหตุผลที่ออกมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ เพราะตนเองรับไม่ได้ที่พระรูปหนึ่งมีการทำผิดวินัย สร้างภาพเป็นคนดี ตนเลยรับไม่ได้ ทั้งนี้มีหลายคนมองว่าตนเองเล่นด้วยหรือเปล่า ถึงได้เลยเถิดขนาดนี้ อยากจะบอกว่า จริง ๆ แล้วตนเคยเข้าไปร้องเรียนกับทางผู้ใหญ่ในเพจที่ตนได้เจอกับทางพระวรินทร์แล้ว แต่ทางผู้ใหญ่ที่ตนเข้าไปแจ้งนั้นกลับไม่เชื่อตน หนำซ้ำหาว่าตนกุเรื่อง ทั้งที่ตนเองมีหลักฐาน แต่อีกฝ่ายไม่ขอดู จึงเก็บเรื่องเงียบมานานกว่า 3 ปี