จากกรณีพี่ชายของนายฟ้า ผู้เสียหาย ร้องสื่อว่าน้องชายถูกนายจ้างขายอุปกรณ์การเกษตร ทุบตีจนมีบาดแผลตามใบหน้า และร่างกาย อวัยะเพศฉีกขาด บังคับให้กินปัสสาวะ และอุจจาระสุนัขนั้น
วันที่ 11 ธ.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังอำเภออินทร์บุรี บ้านของเจ๊กั้ง หรือ นางนัยน์ปพร เนตรบุตร ผู้ต้องหา ทำร้ายร่างกายนายฟ้า พบว่าบ้านหลังดังกล่าวยังคงปิดประตูรั้วเก็บตัวเงียบ ด้านในมีเพียงคนงาน 2 คนดูแลความเรียบร้อย เป็นคนดูแลหมาของเจ๊กั้งจำนวน 31 ตัว สังเกตว่าบริเวณรั้วนอกบ้าน เดิมทีจะมีการติดตั้งป้ายขายปุ๋ยทางการเกษตร แต่พบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาคนงานได้มีการปลดป้ายออก
นางสาวเจี๊ยบ (นามสมมติ) แฟนสาวของอดีตลูกจ้างของเจ๊กั้ง ปัจจุบันได้ลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว เปิดเผยว่า สมัยที่ครอบครัวของตนเองไปรู้จักและเข้าไปทำงานอยู่ภายในรั้วบ้านของเจ๊กั้ง ตัวของเจ๊ก็มักจะดูแลและพาไปเที่ยวดื่มสังสรรค์ บางครั้งก็พาไปนั่งร้านเหล้า โดยไม่ได้มีพฤติกรรมความรุนแรง หรือมีการทำร้ายร่างกายใคร ถ้าเทียบกับตัวของนายฟ้าก็เข้ามาอยู่ดูแลหมาแมวให้กับเจ๊อยู่แล้ว แต่ก็ไม่เคยได้รับโอกาส ทั้งการกิน การเที่ยว หรือการออกไปนอกพื้นที่เขตบริเวณรั้วบ้าน ตนเองก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมถึงมีการแบ่งแยกระหว่างตัวคนงานคนอื่นกับนายฟ้า
ทั้งนี้ ในเวลาที่นายฟ้าทำหน้าที่ดูแลหมาแมวให้กับเจ๊กั้งตลอด 24 ชั่วโมงจะต้องมีการแบ่งเวลาสำหรับดูแลหมา หรือแม้ว่าจะเป็นช่วงกลางคืน ก็จะเห็นฟ้าเป็นคนพาหมาออกมาขับถ่าย ช่วงเวลา 5 ทุ่ม ตี 3 ตี 5 และ 7 โมงเช้า สังเกตว่าการพาหมาออกมาขับถ่ายแต่ละครั้ง ก็จะปล่อยให้วิ่งเล่นและทำภารกิจส่วนตัวครั้งละประมาณ 10-15 นาที จากนั้นก็จะต้อนกลับเข้าไปภายในบ้าน ตัวของนายฟ้าก็จะต้องเดินออกมาใช้ที่ตักขยะไล่เก็บอึเช็ดฉี่เพื่อนำไปทิ้ง จากนั้นก็เข้าไปพักผ่อนไม่นาน ก็ต้องออกมาทำงานวนอยู่ลักษณะแบบเดิม ตนเองจึงสังเกตว่าแม้เป็นช่วงเวลากลางคืน นายฟ้าก็แทบไม่มีเวลาได้พักผ่อน แม้แต่ช่วงกลางวันหลังจากที่ร้านปุ๋ยเปิดจำหน่าย มีลูกค้ามาใช้บริการ นางฟ้าก็ยังต้องทำหน้าที่พาหมาออกมาขับถ่าย และทำแบบนี้วนเกือบทุกต้นชั่วโมง ตกเย็นก็ต้องพามาวิ่งเล่นนายฟ้ามีการดูแลหมาเป็นอย่างดี ตนเองก็ไม่คิดว่าจะต้องถูกทำโทษหรือทุบตี
ตัวเองยังได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคนงานภายในรั้วบ้านของเจ๊ หลังจากที่ลาออกมาแล้ว ทราบว่าตัวของเจ๊กั้งส่งให้ฟ้าไปเรียนตัดขนหมา ไปเรียนตัดเล็บหมา ไปเรียนอาบน้ำให้หมา และแม้แต่ไปเรียนทำคลอดให้กับหมา ทุกหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลหมาสังเกตว่าจะเป็นตัวของนายฟ้าทั้งหมด
ถ้าย้อนเหตุการณ์กลับไปเมื่อช่วงประมาณวันที่ 8-9 พ.ย. 64 ที่นายฟ้าเริ่มถูกทำร้ายร่างกายนัก จนต้องหนีออกจากบ้านเพื่อจะกลับบ้านไปหาพี่ชายนั้น ในช่วงที่ฟ้าหายไปคนในบ้านรวมถึงเจ๊ก็ได้มาเดินตามหาและถามคนในละแวกใกล้เคียง ตนได้แต่ภาวนาและคิดอยู่ในใจว่าขอให้การหนีออกไปครั้งนี้ไม่ถูกจับได้และพากลับไปอยู่ที่เดิม เนื่องจากคนในละแวกใกล้เคียงกับรั้วบ้านของเจ๊ ทุกคนรู้กันดีว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและสภาพจิตใจ หลังจากที่ถูกนำตัวกลับมาในช่วงที่หนีไปครั้งนั้น โดนทำร้ายร่างกายหนักขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม กรณีที่นายฟ้าออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมข่าว่าเจ๊มีการใช้บัตรประจำตัวประชาชนไปทำธุรกรรมทางการเงินและให้มีการเช็นเช็คล่วงหน้า สมัยที่คนงานรุ่นของตนเองทำงานอยู่ ไม่มีการใช้ชื่อของลูกจ้างหรือคนงานคนใดไปทำธุรกรรมทางการเงิน เพราะสมัยนั้นเป็นการขายปุ๋ยร้านไม่ใหญ่ แต่ปัจจุบันมีรถพ่วงและการขนส่งที่เติบโตมากขึ้น ทำให้ตัวของเจ๊อาจมีการกระทำบางอย่างเพื่อหลบเลี่ยงภาษี ตนเองก็เพิ่งมาทราบหลังจากที่ปรากฏเป็นข่าว
นอกจากนี้ มีคลิปที่ถูกถ่ายเอาไว้ 21 มิ.ย. 62 เป็นการดูแลหมาในบ้านของเจ๊กั้ง นายฟ้าสามารถที่จะเรียกชื่อหมาได้ทุกตัวอย่างแม่นยำ พร้อมกับมีการป้อนขนมและยาเพื่อรักษาหมาในบ้าน
ทั้งนี้ มีคลิปที่เจ๊กั้งเป็นคนถ่ายเอาไว้ และยังมีการลงแคปชั่นเอาไว้ระบุว่า "อยากช้านัก บ้านจะแตก #ครอบครัวคนตัวอ้วน" โดยคลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ช่วงวันที่ 29 มิ.ย. 62 นายฟ้าไว้ผมยาว หน้าตายังปกติสดใส ถูกบังคับให้มีการเช็ดถูพื้น โดยเฉพาะฉี่ของหมา
คลิปอีกตัว วันที่ 12 ก.ค. 62 นายฟ้าตัผมสกินเฮด ใบหน้ามีรอยปูดบวม หัวมีลักษณะรอยแตกเห็นชัด ได้ยินเสียงเจ๊พูดทำนองว่า " สมน้ำหน้าทำงานช้า เช็ดเข้าไป รุมกัดมันเลยลูก"