กรณีผู้ต้องขังชาย จำนวน 9 ราย ได้ร่วมกันหลบหนีจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง จ.นครปฐม โดยออกจากสถานที่แยกกักโรคสำหรับผู้ต้องขังรับใหม่ ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 เมื่อคืนวันที่ 10 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 01.30 น. กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวได้แล้ว จำนวน 5 คน
ล่าสุดวันที่ 12 ธ.ค.64 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 (สส) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ เรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย ม.3 ต.ทุ่งน้อย อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม จากนั้นได้เดินทางมาแถลงข่าวที่สภ.สามควายเผือก จ.นครปฐม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องขังได้แล้วทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย 1.นายวัชระ นะโมมั่น อายุ 28 ปี ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย 2.นายเอกราช แป้งกลั่น อายุ 18 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด 3.นายวีรเชษฐ์ เทพชู อายุ 28 ปี ความผิดฐานลักทรัพย์ 4.นายนัถกร มาตรวังแสง อายุ 24 ปี ความผิดฐานลักทรัพย์ และ 5.นายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง อายุ 36 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด โดยทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพว่าหนีตามรุ่นพี่มา โดยหวังว่าจะหนีรอดออกไปได้
ส่วนอีก 4 คนที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ไม่สามารถบอกได้ว่ายังอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมหรือไม่ แต่ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการกว่า 200 คน ตามไล่ล่าทั้ง 4 คนแล้ว โดยพอทราบพิกัดของผู้ต้องขังแล้ว คาดว่าจะสามารถจับกุมได้ทั้ง 4 คนภายในวันนี้ ส่วนหนึ่งใน 4 คนมี 1 คนที่เป็นหัวโจก แกนนำพาผู้ต้องขังหลบหนี เป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ผู้ต้องขังที่หลบหนีจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติม ข้อหาร่วมกันหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจศาลโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป โดยใช้สิ่งของต้องห้ามเป็นเครื่องมือเป็นอุปกรณ์ในการหลบหนี จำคุกเพิ่มจากคดีเดิมอีก 5 ปี
อย่างไรก็ตาม ตนถึงครอบครัวของผู้ต้องหา หากพบว่าผู้ต้องขังมีการติดต่อ หรือกลับไปที่บ้าน ขอให้ร่วมมือแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มิเช่นนั้นอาจจะมีฐานความผิด ในการร่วมมือให้คนร้ายหลบหนีด้วย ส่วนประชาชนที่พบเห็นก็ขอให้แจ้งเข้ามาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที
ทีมข่าวลงพื้นที่ หมู่ 5 ต.หินมูล จ.นครปฐม บ้านของนายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ อายุ 38 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด หนึ่งในผู้ต้องขังที่ยังหลบหนี ทีมข่าวได้พูดคุยกับกับนางนา แม่ของนายพัชรวุฒิ ซึ่งอยู่ในอาการเครียดและตะโกนใส่ทีมข่าวว่า “เดี๋ยวก็หายห่าซะเลย ให้ฉันพักผ่อนบ้างเถอะ” และโมโหทีมข่าวว่าทราบเรื่องตอนที่ตำรวจมาบอก ซึ่งตำรวจมาหาที่บ้านแทบทุกเวลา ไม่รู้ว่าลูกชายจะหลบหนีออกจากเรือนจำ
นางนา กล่าวด้วยว่า ในวันนี้ตนได้ไปวัดศิลามูล เพื่อบนกับหลวงปู่ช้าง หลวงปู่คล้าย ขอพระว่าภายใน 3 วัน 7 วัน ขอให้ลูกชายกลับมา และจะให้หลานชายบวชให้ 7 วัน และบอกวิญญาณพ่อและพี่ชายของนายพัชรวุฒิ ให้นำตัวลูกชายกลับมาให้ได้
เมื่อทีมข่าวถามว่าลูกชายได้มาที่บ้านหรือไม่ นางนาตอบกลับว่า “มันจะมาทำไม มันรักแม่มันตายแหละ” หากเจอตัวลูกชายตนจะรีบเจ้าตำรวจ ตนไม่สนับสนุนให้ลูกทำผิด พ่อแม่รักลูกทุกคน สอนลูกได้แต่ตัว แต่ใจตนไม่รู้
พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผบช.เรือนจำกลางนครปฐม กล่าวว่า สาเหตุที่ผู้ต้องขังสามารถแหกคุกหนีไปได้ อยู่ระหว่างการสอบส่วนถึงอุปกรณ์ที่ผู้ต้องขังใช้เพื่อหลบหนี คือ ใบเลื่อย นำเข้ามาเอง หรือลักลอบให้คนข้างนอกส่งมาให้พร้อมสิ่งของอื่น ๆ หรือไม่ ส่วนจะมีคนโยนมาให้จากข้างกำแพงหรือไม่ ก็จะเร่งสอบสวนเรื่องนี้โดยด่วน หากพบมีใครเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีถึงที่สุด ส่วนประเด็นที่มีการซื้อขายใบเลื่อยในราคาเหยียบแสนนั้นไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน
สำหรับผู้ที่หลบหนีอีก 4 คน ได้แก่ นายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด, นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ อายุ 38 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด, นายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด และนายพานิช บัวศร อายุ 35 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด โดยหนึ่งใน 4 คนนี้คือหัวหน้าทีมในการก่อเหตุจะต้องสอบเค้นว่าสามารถนำใบเลื่อยมาด้วยวิธีใด
เวลา 19.30 น. มีรายงานเพิ่มเติมจาก พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.7 แจ้งว่าขณะนี้ชุดปฏิบัติการได้ไล่ล่าจับคนร้ายนักโทษแหกคุกได้เพิ่มอีก 2 ราย คือ นายพาณิชย์ บัวศร จับได้ในพื้นที่บางเลนจังหวัดนครปฐม และนายจำรูญ คล้ายสุบรรณ จับได้ที่อำเภอบางหลวง จ.นครปฐม ส่วนอีก 2 คนกำลังให้ชุดปฏิบัติการไล่ล่าจับกุม คาดว่ายังอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และจะจับได้ภายในเร็ว ๆ นี้