กรณี "น้องแพรว" หญิงสาวรายหนึ่งได้ร้องเรียนไปทางเพจหมอปลา ให้เข้ามาช่วยแก้คุณไสย หลังจากไปรักษากับแม่หมอที่ตำหนักแห่งหนึ่ง และแม่หมอแหวนได้อ้างว่าอาการหนัก จึงแนะนำให้ลองประสานหมอปลา
ซึ่งพอแจ้งหมอปลา แม่หมอได้ทำทีพูดว่าเป็นข่าวดังและอ้างว่าส่งผลกระทบกับทางวัด จนต้องใช้เงิน 300,000 บาท เพื่อนำมาให้ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ และนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ช่วยปิดข่าวนั้น
วันที่ 13 ธ.ค. 64 เวลาประมาณ 14.00 น. หมอปลา และทนายไพศาล เดินทางมาบ้านพักของแม่หมอแหวน ซึ่งเป็นห้องเช่าแห่งหนึ่งตั้งอยู่ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เพื่อที่จะมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่าแม่หมอแหวนได้ออกจากที่พักตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงแล้ว และไม่รู้ว่าจะกลับมาตอนไหน
จากนั้น ทนายไพศาลโทรศัพท์สอบถามนายธวัชชัย บุคคลที่แม่หมอแหวนอ้างว่าเป็นแฟนที่กำลังจะหมั้นกัน เบื้องต้นนายธวัชชัย เรืองฤทธิ์ ได้กล่าวปฏิเสธไม่มีสถานะเป็นแฟนกับหมอดูแหวน ไม่รู้เรื่องเงินจำนวน 300,000 บาท และไม่เคยคุยกับน้องสาวของผู้เสียหายตามที่ถูกกล่าว และไม่ทราบว่าแม่หมอแหวนประกอบอาชีพหมอดูด้วย
ส่วนตัวรู้จักกับแม่หมอแหวน เมื่อ 1 เดือนก่อน ผ่านแอปพลิเคชัน tiktok โดยสาเหตุที่โทรศัพท์หาทนายไพศาล เนื่องจากต้องการติดต่อหมอปลาโดยเร็ว และยอมรับว่าอัดเสียงระหว่างคุยโทรศัพท์กับทนายไพศาลส่งให้หมอดูแหวนจริง โดยส่งให้หมอดูแหวน จำนวน 2 ครั้ง แต่ขณะนี้คลิปได้ลบไปแล้ว เพราะไม่ต้องการให้ครอบครัวรู้ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับหมอแหวนให้ถึงที่สุด หลังถูกแอบอ้าง
สำหรับคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ ระหว่างนายธวัชชัยและแม่หมอแหวน เป็นคลิปเสียงที่นายธวัชชัยพยายามจะสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้ตัวเองเดือดร้อน แต่สุดท้ายหมอดูแหวนไม่ยอมให้คำตอบใด ๆ
นางสาวต่าย อายุ 51 ปี แม่ของผู้เสียหาย เผยว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. เพื่อนบ้านของตนได้มีคนแนะนำให้รู้จักกับแม่หมอแหวน โดยบอกว่าแม่หมอดูดวงแม่น ซึ่งครั้งแรกที่ตนไป แม่หมอได้อ้างว่าลูกสาวโดนของ และให้มาสะเดาะเคราะห์ สียค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 กว่าบาท แต่ตนไม่มีเงินเลยยังไม่ได้แก้ของ กระทั่งวันที่ 4 ธ.ค. ลูกสาวของตนได้มาระบายกับตนว่าตกงาน เลยจนรู้สึกเครียด ตนจึงพาลูกสาวไปดูดวง เมื่อพาไปดูดวงแม่หมอก็ทำนายอีกว่าถูกของเข้า และแนะนำว่าถ้าไม่มีเงินจะพาไปรดน้ำมนต์กับหลวงตาวัดโป่งสะเก็ด และอ้างว่าเป็นญาติกัน
หลังจากที่ลูกอาบน้ำมนต์อาการดีขึ้น และทางพระก็ให้แนะนำให้อาบน้ำ สวดมนต์ 3 ครั้ง และจำศีลภาวนาก่อนค่อยกลับ ซึ่งแม่หมอได้แนะนำให้ติดต่อไปทางเพจหมอปลา ก่อนที่แม่หมอจะอ้างว่าเดี๋ยวช่วยติดต่อทนายความไพศาลให้ เพราะน่าจะรวดเร็วกว่า กระทั่งเริ่มมีนักข่าวเข้ามาที่สำนัก แม่หมอได้ทำทีไปคุยกับลูกสาวคนเล็กของตนทำนองว่าถ้าเป็นข่าววัดจะเสื่อมเสีย และวันที่ 9 ธ.ค. ช่วงเย็น แม่หมอแหวนได้ติดต่อไปหาน้องสาวคนเล็กของผู้เสียหาย เพื่อที่จะบอกว่าคุยกับทนายไพศาล และนำเงิน 300,000 บาทที่ต้องนำไปใช้ในงานหมั้นมาจ่ายให้ก่อนเป็นค่าปิดข่าว และบอกให้น้องสาวนำมาคืนภายในวันที่ 28 ธ.ค. พร้อมกับกำชับว่าอย่าไปเล่าให้ใครฟัง แต่ได้เลื่อนมาขอเงินในวันที่ 20 ธ.ค.
ด้วยเหตุนี่วันที่ 10 ธ.ค. น้องสาวของตนจึงทำสีขอสลิปจากแม่หมอ เพื่อที่จะนำไปยืนยันเอกสารการกู้เงิน เพราะมีเงินไม่พอจ่าย แต่พอบอกไปเช่นนั้น แม่หมอกลับกล่าวว่า "คนเราช่วยกันขนาดนี้มาเนรคุณกันได้ ไม่เชื่อใจกันเลยเหรอ" จากนั้นก็หายไป ซึ่งตนมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าถูกหลอกแน่นอน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่าเครียดเฉย ๆ เพราะลูกสาวบอกว่าเครียดที่ตกงาน เลยไม่มีเงิน ทั้งที่มีหนี้สินที่ต้องจ่าย อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากจะติดใจเอาความ และไม่ได้ติดใจโกรธ แต่การกระทำของเขาสร้างผลกระทบให้กับคนอื่นคือทนายไพศาลกับหมอปลา
นางสาวแพรว (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ผู้เสียหาย เผยว่า วันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมาตนมีอาการเกร็ง และควมคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จนร้องไห้ แม่ของตนจึงพาไปหาแม่หมอเพื่อดูดวง ตามคำแนะนำชอบเพื่อนบ้าน แม่หมอได้ทำนายว่าโดนคุณไสยพาตนไปอาบน้ำมนต์ ทำบุญ และถือศีลที่วัดโป่งสะเก็ด จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่6-9 ธ.ค. จากนั้นตนจึงเดินทางไปหาแม่หมอเพื่อดูดวง แม่หมอได้ทำนายว่า ตนนั้นโดนคุณไสย วันที่ 6 ธ.ค. เลยพาตนไปอาบน้ำมนต์ทำบุญ และถือศีลที่วัดโป่งสะเก็ด จ.ชลบุรี
โดยครั้งแรกที่ไปถึงวัดตนได้มีอาการร้องไห้ และระบายเรื่องความเครียด ทางพระครูจะเข้ามาอาบน้ำมนต์ เพื่อสะเดาะเคราะห์ให้ตนเท่านั้น และไม่ได้เข้ามาทำพิธีแต่อย่างใด แต่ให้ถือศีลภาวนา ระหว่างที่อยู่วัดแม่หมอแหวนจะอยู่ด้วยตลอด และได้นุ่งขาวห่มขาว ถือศีลตามปกติ แต่อาการยังไม่ดีขึ้น น้องสาวตนจึงร้องเรียนไปขอความช่วยเหลือที่เพจหมอปลาช่วยด้วย เพราะเห็นว่ารักษามาแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้นในวันที่ 6 ธ.ค.แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากทางเพจหมอปลา กระทั่ง วันที่ 9 ธ.ค. ได้มีนักข่าวช่องหนึ่งเข้ามาคุยกับตนถึงที่วัดเพื่อถามไถ่อาการ ตนจึงบอกว่าไม่เป็นไร และไม่ขอร้องเรียนหมอปลาแล้ว นักข่าวจึงยอมกลับไปและหลังจากที่นักข่าวกลับไป แม่หมอได้พูดจาไม่ดีกับตนทำนองว่าตนให้สัมภาษณ์กับนักข่าวทำไม ทั้งที่แม่หมอเป็นคนช่วยเหลือ ทำให้ตนรู้สึกกังวลใจ และลองไปปรึกษาพระที่วัด
พอพระที่วัดทราบเรื่องก็ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับแม่หมอ ตนจึงรู้สึกเอะใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และโทรไปสอบถามน้องสาว จนทราบความจริงงว่าหลังจากที่น้องสาวติดต่อหมอปลาได้ ทางแม่หมอแหวนจึงทำทีพูดว่าแฟนของแม่หมอชื่อนายธวัชชัย รู้จักกับทนายไพศาล ซึ่งสนิทกับหมอปลา หากติดต่อไปทางทนายไพศาลจะรวดเร็วกว่า ตนจึงตกลง จนวันต่อมาได้มีนักข่าวเดินทางมาที่วัด เพื่อมาทำข่าว ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจรวมถึงพระที่วัดด้วย กระทั่งแม่หมอแหวนได้มากล่าวกับน้องสาวของตนว่าตอนนี้มีนักข่าวเข้ามา ทำให้ทางวัดได้รับความเสียหาย จะต้องติดต่อไปทางทนายไพศาล เพื่อให้จัดการปิดข่าว
หลังจากนั้น แม่หมอก็ได้นำคลิปเสียง ที่นายธวัชชัยคุยกับทนายไพศาลมาให้น้องสาวของตนฟัง พร้อมกับอ้างว่า ได้นำเงิน 3 แสนที่เตรียมไว้แต่งงาน กับแฟนไปจ่ายเป็นค่าปิดข่าวให้ทนายไพศาลก่อนแล้ว และน้องสาวจะต้องนำเงินมาคืนภายในวันที่ 28 ธ.ค. เพราะแม่หมออุตส่าห์ช่วย จะเนรคุณไม่ได้ พลางบอกว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกกับใคร เพราะตนกำลังเครียดอยู่ ด้วยความที่น้องสาวเป็นคนหัวอ่อน เลยหลงเชื่อ และไปปรึกษาคนรู้จัก ซึ่งคนรู้จักได้แนะนำให้ลองขอสลิปเพื่อที่จะได้นำเป็นหลักฐานไปกู้เงิน เพราะทางครอบครัวไม่ได้มีเงินมากพอที่จะจ่าย ทำให้แม่หมอเริ่มไม่พอใจ และกล่าวหาว่าเนรคุณ ด้วยเหตุนี้ตนจึงมั่นใจว่าถูกหลอกแล้ว และการถูกหลอกในครั้งนี้ ทำให้ทนายไพศาลและหมอปลาได้รับผลกระทบด้วย
จากนั้น หมอปลา ทนายไพศาล พร้อมด้วยผู้เสียหาย ได้เดินทางมาที่วัดโป่งสะเก็ด ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นวัดที่แม่หมอแหวนได้พาผู้เสียหายมาอาบน้ำมนต์ กับพระครูปลัด บุญเหลือ ธมฺมทีโป เจ้าอาวาส เผยว่า อาตมาไม่ได้รู้จักกับแม่หมอแหวนเป็นการส่วนตัว แต่แม่หมอแหวนได้โทรมาหา และบอกว่าจะพาคนมาอาบน้ำมนต์ด้วย ซึ่งอาตมาก็ไม่ได้คัดค้าน เพราะอนุญาตให้คนมาอาบน้ำมนต์ กระทั่งผู้เสียหายเข้ามาอาบน้ำมนต์ อาตมาก็ทำให้ตามปกติ
ซึ่งหลังจากนั้น แม่หมอก็ได้ออกจากพื้นที่วัดไป ส่วนนายธวัชชัยเท่าที่อาตมาทราบเป็นแฟนของแม่หมอ และทราบแค่ว่าเคยวิดีโอคอลคุยกัน แต่ไม่เคยเห็นหน้าตา ทั้งนี้ อาตมายืนยันว่ แม่หมอไม่ใช่ลูกหลาน และเมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งจะเคยมาที่วัด ซึ่งเวลาที่มาจะใส่เงินทำบุญ ที่ตู้ทำบุญค่าน้ำค่าไฟครั้งละ 200-300 บาท ทั้งนี้ ขณะที่มาอาบน้ำมนต์แม่หมอไม่ได้เล่าให้ฟังว่าผู้เสียหายถูกคุณไสยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทางวัดได้รับความเสียหาย ซึ่งอาตมาคงไม่เอาผิดทางกฎหมาย แต่อยากจะให้ออกมายอมรับความจริงว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมีเจตนาอะไร และถ้าทำผิดจริงก็อยากจะให้ออกมายอมรับผิด
ขณะที่หมอปลา เผยว่า กรณีที่นายธวัชชัยอ้างว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนไม่เชื่อตามที่กล้าวอ้าง และถ้าเขายืนยันความบริสุทธิ์ใจ ทางผู้สื่อข่าวก็พร้อมที่จะไปสัมภาษณ์ เพื่อนำเสนอความจริง ตนยืนยันว่าทั้งตนและทนายไพศาลไม่เคยเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย และขอบอกทุกคนว่าอย่าหลงเชื่อ อีกทั้งกรณีที่บอกว่าจ่ายเงินปิดปากสื่อ ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน อย่างไรก็ตาม จากนี้จะดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป