เปิดภาพลับเจ๊กั้งสวมบทแม่พระชิงตัว "ฟ้า" ไปทารุณ พยานช็อกคิดผิดที่ไว้ใจ (คลิป)

จากเหตุการณ์ "นายฟ้า" ถูกนายจ้างขายอุปกรณ์การเกษตร ทุบตีจนมีบาดแผลตามใบหน้า และร่างกาย อวัยะเพศฉีกขาด บังคับให้กินปัสสาวะ และอุจจาระสุนัข จากข้อมูลพบว่านายฟ้าเคยหนีออกจากบ้านมาแล้ว 2 ครั้งนั้น

วันที่ 14 ธ.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านเกิดของนายฟ้า และพี่ชายสมัย 20 ปีก่อน ที่เคยอยู่อาศัยกับพ่อและแม่ หลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิตแล้ว จึงได้ไปรู้จักกับเจ๊กั้ง มีการย้ายเข้าไปอยู่ทะเบียนบ้านของเจ๊ พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ประตูหน้าต่างไม้เริ่มผุพัง รอบบ้านมีร่องรอยของการถูกงัด

คนในละแวกใกล้เคียงให้ข้อมูลว่า บางครั้งจะมีพวกกลุ่มที่มั่วสุมเสพยาเสพติด แอบพากันงัดบ้านหลังดังกล่าวเพื่อเข้าไปมั่วสุม จึงทำให้หน้าต่างหรือผนังบ้านบางช่วงมีร่องรอยของการถูกงัดเข้าไป รอบบ้านไม่มีรั้วรอบขอบชิด ถูกตัดน้ำตัดไฟ เพราะไม่มีคนอยู่อาศัยมานานแล้ว มีเพียงต้นมะละกอ 3 ต้น และโอ่งใบใหญ่ตวงน้ำ 1 ใบ แต่ก็ไม่มีคนมาอยู่อาศัยนานแล้ว เพราะสภาพไม่พร้อมสำหรับการอยู่อาศัย

จากพิกัดที่เจอตัวนายฟ้าช่วงที่มีการหลบหนีเมื่อเดือน ม.ค. 64 ครั้งแรก นายฟ้าหวังจะกลับมาอยู่อาศัยที่บ้านเกิด แต่บ้านสภาพไม่พร้อมอยู่อาศัย ประกอบกับปิดล็อกเข้าไปอาศัยไม่ได้ จึงได้เดินทางไปพักชั่วคราวที่วัดน้อยเจริญธรรม อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนพิกัดครั้งที่ 2 วันที่ 8-9 พ.ย. 64 ก็พบว่านอนอยู่ที่ศาลาริมทาง ห่างจากบ้านเพียง 5 กิโลเมตร สังเกตว่าการหนีออกจากบ้านเจ๊กั้ง มุ่งหน้ากลับมาที่บ้านเกิด

นายฟ้า เล่าว่า วันที่หนีออกจากบ้านครั้งแรก ตั้งใจหนีออกจากบ้านเพื่อจะมุ่งหน้ากลับไปที่บ้านเกิด ในอำเมืองสิงห์บุรี ห่างจากบ้านเจ๊ประมาณ 20 กิโลเมตร แต่เมื่อมาถึงที่บ้านแล้วพบว่ามีรถจอดอยู่ข้างบ้าน เข้าใจว่าเป็นรถของเจ๊หรือลูกน้องของเจ๊ที่กำลังออกตามหา จึงกลัวว่าจะถูกจับตัวกลับไป ก็เดินทางหนีต่อไปพักอาศัยอยู่ที่วัดน้อยจะเดินทาง แต่สุดท้ายเจ๊ก็รู้และมารับกลับเหมือนเดิม ในวันที่มารับที่วัดครั้งแรก คนที่มาคือเจ๊กั้งกับสามี

ส่วนเหตุการณ์ครั้ง 2 ตั้งใจจะเดินทางกลับมาบ้าน เพื่อที่จะอยู่อาศัยที่บ้านเกิดที่พ่อแม่เคยอยู่ก่อนตาย แต่สภาพไม่พร้อมอยู่อาศัย เข้าบ้านไม่ได้ จึงตัดสินใจหนีไปนอนอยู่ที่ศาลาริมทางเพื่อที่จะรอขึ้นรถ บขส. ไปบ้านพี่สะใภ้ใน จ.ลพบุรี แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวจนเจอ และประสานเจ๊กั้งกับนายอ้วนมารับกลับไป

ด้าน นายขรรค์ชัย หงษ์ทอง อายุ 48 ปี กำนันตำบลต้นโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้มีตำรวจชุดสืบสวนและสอบสวน ของโรงพักอินทร์บุรี เดินทางมาสอบปากคำตนเองและแม่ชีพัชรา หลังจากที่มีการช่วยเหลือนายฟ้าครั้งที่ 1 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้มีการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม และสอบถามเกี่ยวกับบุคคลที่มารับตัวนายฟ้ากลับไปที่บ้าน โดยคนที่เดินทางมารับ เป็นผู้ชายกับผู้หญิง ขับรถกระบะสีดำ มารับในฟ้าในช่วงเช้า ซึ่งตนเองจำได้ว่าผู้หญิงคือ เจ๊กั้ง

สำหรับท่าทีของเจ๊กั้งวันที่มารับนายฟ้า สังเกตว่าเจ้าตัวได้มีการสอบถามเหตุผลกับนายฟ้าว่า "ทำไมถึงหนีออกจากบ้าน" ซึ่งวันนั้นนายฟ้าก็ไม่ได้ตอบอะไรมาก เนื่องจากอยู่ในอาการซึม ๆ แต่ตัวของเจ๊กั้งมีการอบกอดนายฟ้าพร้อมกับลูบหัว และขอให้กลับบ้าน ซึ่งนายฟ้าก็ไม่ได้มีอาการแสดงว่าไม่อยากกลับ ยืนเงียบนิ่งเฉย และเดินตามขึ้นรถไปตามปกติ ส่วนผู้ชายที่มากับเจ๊ ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่บอกว่าขับรถมารับกลับ จากนั้นก็มีการถ่ายรูปร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่มีฝ่ายปกครองของตำบล สาธารณสุขพื้นที่ และรวมถึงแม่ชีในวัด ในวันที่ตนเองเจอกับนายฟ้า สังเกตว่าหน้าตาก็ไม่ได้ปูดบวมเหมือนเช่นล่าสุด แต่ปากเริ่มมีแผลเล็กน้อย มีอาการบวม

สิ่งที่เห็นนายฟ้าในวันนั้น ลักษณะเหมือนเด็กจรจัด เนื้อตัวมอมแมม แยกไม่ออกว่าเสื้อที่เปื้อนคือคราบเลือดหรือรอยเปื้อนโคลน ซึ่งหลังจากที่เห็นว่ามีคนเป็นญาติมารับ และตัวของเจ๊กั้งก็มีการอบกอดแสดงความอบอุ่น ตัวของนายฟ้าก็ไม่ได้มีการปฏิเสธ

หลังจากเกิดเหตุขึ้นแล้ว จึงจะทราบว่าผู้ชายคนเดียวกันที่ฝ่ายปกครองพื้นที่มีการช่วยเหลือ และส่งตัวให้กับเจ๊กับแฟนของเจ๊วันนั้น คือนายฟ้าคนที่โดนทำร้ายร่างกาย ถ้าหากตนเองรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ หรือนายฟ้าเล่าให้ฟังว่าเคยโดนทำร้ายร่างกายจนต้องหนี ก็คงไม่ปล่อยให้กลับไปเจอกับเหตุการณ์แบบนั้นอีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- อำมหิต! ลูกจ้างถูกแป๊บตีไข่เน่าตัวเหวอะ เจ๊ลั่นทุบจู๋โด่ใส่หน้า อู้เลี้ยงหมา 30 ตัว (คลิป)

- จับแล้วเจ๊กั้งนายโหดท่อแป๊บฟาดจู๋เน่า โต้แผลเหวอะหมาขย้ำ ยันแค่ขู่กินขี้ (คลิป)

- หลักฐานมัด! แก๊งเจ๊กั้งทืบ "ฟ้า" สลบคาเท้า แฉน้องถูกจับล่ามน้ำสาดห้ามคนช่วย (คลิป)