กล้องมัดตัว! ลิฟต์หนีบหนูน้อย 5 ขวบดับฝีมือเพื่อน แม่อ้างเด็กหัวยื่นโดนคานหนีบเละ (คลิป)

สืบเนื่องจากเหตุการณ์สยองขวัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ หลังที่กู้ภัยมูลลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุมีเด็ก 5 ขวบ ถูกลิฟต์ขนของหนีบเสียชีวิต ที่เกิดเหตุร้านประกิตผ้าใบ ถนนสุขุมวิท ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังรุดเดินทางไปตรวจสอบ

โดยพบว่าที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ประกอบกิจการร้านขายผ้าใบ บริเวณหน้าร้านพบร่างผู้เสียชีวิตคือ "ด.ช.บอล" อายุ 5 ขวบ นอนเสียชีวิตสภาพกระอักเลือด ข้างกันพบ น.ส.ซาน ซาน เมาะ อายุ 41 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นแม่ของน้องผู้เสียชีวิต กำลังนั่งกอดร่างร้องไห้ฟูมฟายอยู่ในจุดเกิดเหตุ

เบื้องต้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดการณ์ว่าน่าจะมาจากอุบัติเหตุที่น้องผู้เสียชีวิตขึ้นไปเล่นบริเวณชั้น 4 พร้อมคนงานภายในร้านเพศชาย ทราบชื่อคือ "นายเสาร์" อายุ 41 ปี แรงงานเมียนมา ก่อนที่จะพบว่าน้องประสบอุบัติเหตุดังกล่าว

สอบถามนายเสาร์ คนงานอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองกำลังขนผ้าใบขึ้นไปเก็บที่ชั้น 4 โดยจะต้องใช้ลิฟต์ในการขึ้นลงซึ่งขณะนั้นมีน้องบอล ซึ่งเป็นลูกของคนงานด้วยกัน ได้วิ่งเล่นและขึ้นลิฟต์มาด้วย ซึ่งที่ผ่านมาน้องบอลก็มักจะขึ้นลงลิฟต์ด้วยประจำ หรือไม่ก็จะวิ่งเล่นภายในร้าน เนื่องจากพ่อแม่ทำงานที่นี่

ตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้เอะใจ หรือคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จังหวะที่กำลังจะย้ายผ้าใบอยู่นั้น น้องบอลได้นอนเล่นที่พื้นระหว่างพื้นชั้น 4 และพื้นลิฟต์ จากนั้นน้องบอลได้เอามือไปดึงเชือกที่ใช้ในการเปิดปิดลิฟต์ ทำให้ลิฟต์ทำงานและทับศีรษะของน้องบอลอย่างจัง จนกระทั่งเลือดกระจายทั่วพื้น ตนเองด้วยความตกใจจึงตะโกนเรียกเพื่อนคนงาน และพ่อแม่เด็ก พยามนำตัวลงมาช่วยเหลือ แต่ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว

ขณะที่ทางด้านตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกดเหตุ แต่พบว่าไม่สามารถใช้งานได้ เบื้องต้นได้ส่งร่างของน้องบอลชันสูตรที่ รพ.สมุทรปราการ และจะเชิญคนงานดังกล่าว และผู้ดูแลร้านดังกล่าวไปสอบปากคำว่าเข้าข่ายกระทำการโดยประมาทหรือไม่ หรือมีการปล่อยปะละเลยให้มีเด็กเล็กเข้ามาอาศัยหรืออยู่ในพื้นที่ของการทำงานด้วยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุ เป็นร้านจำหน่ายผลิตผ้าใบ ตั้งอยู่บริเวณถนนสุขุมวิท ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ  อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ติดกัน 11 คูหา โดยคูหาที่เกิดเหตุจะอยู่ตรงบริเวณตรงกลาง ร้านดังกล่าวได้ปิดทำการ

ระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวน 2 นายก็ได้ลงพื้นที่พร้อมเข้าไปภายในบ้าน ก่อนที่ทางทีมข่าวจะสังเกตเห็นว่าทางชุดสืบได้มีการตรวจสอบในส่วนของกล้องวงจรปิดทุกตัวภายในบ้าน รวมไปถึงกล้องวงจรปิดจุดที่เกิดเหตุ เพื่อไปนำไปสืบสวนต่อไป หาสาเหตุการเสียชีวิตของน้องวัย 5 ขวบ

ต่อมาทางรองผู้กำกับสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจำนวน 6 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมหาร่องรอยหลักฐานเพิ่มเติม ขณะที่ทางทีมข่าวได้สังเกต พบว่าจุดบริเวณลิฟต์ขนของจะอยู่บริเวณด้านหลังของบ้าน ขนาดความสูงเท่าตึก 4 ชั้น ขณะที่ความกว้างประมาณ 1 เมตร ความยาว 2 เมตร มีประตูกั้นแค่ครึ่งหนึ่งของตัวลิฟต์ ในแต่ละชั้น โดยจะมีเชือกสีขาว เหมือนการชักรอกเพื่อให้ลิฟต์ขึ้นไป ขณะที่มีเชือกสีดำไว้ดึงเวลาให้ลิฟต์ตัวดังกล่าวลงไป

น.ส.ซาน ซาน เมาะ แม่ของน้องผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนกับสามีทำงานอยู่กันคนละที่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาตนเพิ่งมาทำงานในร้านดังกล่าว โดยตลอดเวลาที่ตนมาทำงานนั้นจะพาลูกชายคนเล็ก ด.ช.บอล วัย 5 ขวบมาด้วยตลอด จนสนิทและคุ้นเคยกับทางพนักงานในร้าน และนายจ้าง อย่างไรก็ตาม ในข่วงที่เกิดเหตุนั้น ช่วงประมาณ 10 โมงเช้า นี้หลังจากที่ตนเข้าทำงาน ตนเองก็กำลังนั่งเย็บผ้าอยู่บริเวณชั้น 1 ของบ้าน ขณะที่มีคนงานผู้หญิงอีกคนทำอาหารอยู่ในครัวกับทางภรรยาเจ้าของร้าน โดยที่เจ้าของร้านเองไม่ได้อยู่บ้าน ส่วนลูกชายของตนนั้นได้วิ่งเล่นไปมากับแรงงานชายอีกคน

ต่อมาจังหวะที่เกิดเหตุนั้น ตนและพนักงานคนอื่น ได้ยินเสียงคล้ายน้ำไหลลงมาจากชั้นบนบริเวณข่องลิฟต์ขนของ จึงตัดสินใจเดินไปดู พบว่าเป็นคราบเลือด ด้วยความตกใจตอนนั้นตนและทุกคนเลยวิ่งขึ้นไปพบว่าลูกชายของตนนอนสลบเลือดไหลอยู่ภายในลิฟต์ บริเวณชั้น 4 โดยทีทางนายเสาร์ แรงงานเมียนมาที่ทำงานด้วยกันอีกคนยืนอยู่ใกล้ ๆ ด้วยความตกใจตนเลยรีบอุ้มลูกลงมาเพื่อยื้อชีวิต แต่ก็ไม่ทัน

ขณะที่ตนเองก็ไม่ได้สอบถามทางนายเสาร์ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนรู้จักกับนายเสาร์ในฐานะเพื่อนร่วมงาน และไม่เคยมีปัญหาบาดหมางกันแต่อย่างใด เพิ่งจะรู้จักกันได้แค่ 2 เดือน ที่ผ่านมาเขาเองก็เอ็นดูน้อง มีอะไรก็จะนำเอามาให้ตลอด เมื่อถามว่าติดใจกับคดีไหม ตอนนี้ยังคิดไม่ออก เพราะยังตั้งหลักไม่ได้ หลังจากนี้เองทางครอบครัวจะนำร่างของน้องไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดกลางวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

ด้านนายฟาน อายุ 39 ปี พ่อของ ด.ช.บอล ผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ถามว่าปักใจเชื่อไหมว่าคนที่อยู่กับน้องคนสุดท้ายจะเป็นคนก่อเหตุ ในส่วนนี้ตนไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าครอบครัวตนกับครอบครัวนายเสาร์ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางผิดใจกันแต่อย่างใด ทางภรรยาของตนเองก็ไม่ได้เล่าให้ฟังในปมดังกล่าว ขณะที่ตนเองไม่เคยเจอทางด้านนายเสาร์มาก่อน

หากเขาเป็นคนกระทำโดยประมาทจริง ส่วนตัวจะให้อภัยไหมนั้น ในใจยอมรับว่าโกรธ แต่หากเขากระทำโดยที่ไม่ตั้งใจ ตนเองก็พร้อมให้อภัย เพราะเขาเองก็ไม่ตั้งใจ ทั้งหมดนี้ก็ต้องรอดูหลักฐานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน

ด้านนางแจ๋ว สัญชาติเมียนมา เพื่อนร่วมงานของแม่น้องบอลที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนนั้นเองตนกับทางแม่ของน้องกำลังทำงานอยู่ชั้น 1 ซึ่งน้องเองจะวิ่งเล่นไปมากับทางคนงานผู้บายที่ชื่อนายเสาร์อยู่ เพราะน้องเองเป็นคนเข้ากับคนง่าย เลยไม่ค่อยงอแง มีแต่คนรัก จังหวะที่เกิดเหตุก็เป็นไปตามที่ทางแม่ของน้องเล่าให้ฟัง เพราะตอนนั้นตนก็ทำงานอยู่บริเวณชั้น 1 กับทางแม่ของน้อง และได้เห็นเหตุการณ์พร้อมกัน วินาที่ที่เจอน้องก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก

ส่วนตนเองก็แอบคิดไม่ได้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น คนที่อยู่กับน้องในช่วงที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่ได้จะปรักปรำเขา แค่สงสัยในตัวเขา ขณะที่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าเขาเองคงไม่โหดร้ายที่จะทำร้ายน้องได้ เนื่องจากที่ผ่านมาเขาเองก็ค่อนข้างเป็นคนรักเด็ก

ล่าสุด เวลา 18.30 น.  พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ทางด้านนายเสาร์ได้ยอมรับสารภาพแล้วว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เจ้าตัวพร้อมด้วยผู้เสียชีวิตได้ขึ้นลิฟต์ส่งของไปด้วยกัน ต่อมาจังหวะระหว่างที่ลิฟต์กำลังเคลื่อนตัวขึ้นจากชั้น 3 เพื่อไปยัง ชั้น 4 น้องได้ชะโงกหัวออกไป เพราะลิฟต์ขนของไม่มีกำแพงกั้น จะมีแค่ประตูแต่ละชั้นที่เปิดเข้าออกเท่านั้น ทำให้ช่วงรอยต่อระหว่างชั้น 3 ไปยังชั้น 4 จังหวะที่น้องชะโงกหัวไปนั้น ทำให้ศีรษะน้องกระเเทกเข้ากับคานพอดี และส่งผลให้น้องได้รับบาดเจ็บจนถึงแก่ความตาย ซึ่งทางด้านนายเสาร์ยอมรับว่าช่วงเกิดเหตุ ตนไม่ทราบว่าน้องโผล่หัวออกไป ยืนยันว่าไม่ตั้งใจ

หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนจะนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อตามจะขั้นตอนกฎหมาย นายจ้างของผู้ต้องหาเองได้ขอใช้สิทธิในการยื่นประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเองไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี สามารถให้ประกันตัวได้