กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3" โพสต์เรื่องราวการซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนม ระหว่างหญิงสาวคนหนึ่งกับร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวซื้อกระเป๋ามาในราคาเกือบ 5 แสนบาท และยืนยันว่าเป็นของแท้ จึงขายต่อให้ร้านดังกล่าว แต่เจ้าของร้านกลับแจ้งว่าเป็นของปลอม และจะไม่ยอมส่งกระเป๋ากลับคืนให้เจ้าของด้วย
ล่าสุดวันที่ 15 ธ.ค.64 นางสาวจิดาภา ชีนารักษ์ อายุ 24 ปี ลูกสาวเจ้าของโรงงานประกอบธุรกิจรับออกแบบ และจำหน่ายเสื้อผ้ารายใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของกระเป๋าใบดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนมีสลิปการจ่ายเงินซื้อกระเป๋ายี่ห้อ Hermes จำนวน 459,000 บาท ซึ่งหลังจากที่ตนซื้อมาก็ต้องการที่จะขายต่อ จากนั้นจึงสอบถามร้านรับซื้อ 2 ร้าน ร้านแรกให้ราคา 370,000 และร้านที่ 2 ให้ราคา 395,000 บาท จึงได้ตกลงการซื้อขาย เพราะเห็นว่ามีเว็บไซต์หน้าร้าน
จากนั้นตนก็ส่งของไปให้ร้านดังกล่าว ซึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ เมื่อส่งไปก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ แอดมินทักมาปกติว่าของถึงแล้วแล้ว พร้อมกับแจ้งว่า "คุณทีน่าติดธุระ เดี๋ยวกลับมาจะโอนเลย ขอบัญชีไว้เลย" เวลาผ่านไป 1 วันก็ไม่มีความคืบหน้า ตนจึงทักไปถามแอดมินก็อ่านแต่ไม่ตอบ จนอีกวันโทรไปเบอร์แอดมินตอบว่า "เดี๋ยวจัดการให้เพิ่งตื่น" แล้วก็หายไปตามเดิม ตนจึงโทรไปเบอร์ของเจ้าของร้าน แจ้งกลับว่ากำลังเช็กว่าปลอมหรือไม่
เมื่อผ่านไปครู่หนึ่งหลังจากวาสงสายเจ้าของร้าน ตนจึงทักไปสอบถามอีกครั้ง เพราะเริ่มแปลก ๆ กระเป่าก็ค่อนข้างมีราคา "ถ้าไม่สะดวกโอน ขอกระเป๋าคืนค่ะ" เจ้าของร้านก็ตอบมาว่า "มารับคืนได้เลย นัดรับ ไม่มีเวลาส่งของปลอม" จากนั้นตนจึงโทรศัพท์ไปคุยกับร้านที่ตนไปซื้อกระเป๋า เขาก็ยืนยันว่า "แท้แน่นอน เดี๋ยวเอาไปเช็กให้เลย ถ้าปลอมยังไงก็รับผิดชอบ แต่ยังไงก็แท้แน่นอน" อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.บางขุนเทียน เป็นตัวกลางในการเจรจาเรื่องดังกล่าว หากตรวจสอบแล้วเป็นของจริง ตนก็จะดำเนินคดีกับคนที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างถึงที่สุด
ทีมข่าวได้ติดต่อสัมภาษณ์เจ้าของร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง "ณภาภัช ระหงษ์" หรือ ทีน่า ซึ่งได้นำกระเป๋าใบดังกล่าวมาให้ทีมข่าวดู ก่อนจะใช้ปากกาเขียนคำว่า "ปลอม" ลงบนกระเป๋าให้ดูอีกด้วย เพื่อให้ทีมข่าวดูว่าเป็นปากกาลบได้จริง ๆ
"ณภาภัช ระหงษ์" กล่าวว่า ตนได้รับกระเป๋าใบนี้มาวันที่ 9 ธันวาคม 64 ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นกระเป๋าปลอม ส่วนสาเหตุที่ตนไม่ยอมคืนให้ เนื่องจากหญิงสาวที่ขายกระเป๋าให้อ้างว่า เป็นกระเป๋าของแท้ ตนจึงอยากจะตรวจสอบให้ถึงที่สุด โดยจะส่งตรวจเพื่อให้เจ้าของกระเป๋าเชื่อว่ากระเป๋าที่นำมาขายให้ตนเป็นของปลอมจริง ๆ และตนก็ไม่อยากให้นำกระเป๋าใบนี้ไปขายต่อให้ใครอีก เพราะตนเพิ่งโดนหลอกขายแบบนี้ ร่วม 690,000 บาท ตนจึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ
"พอเป็นข่าวก็ได้ติดต่อตำรวจ เพื่อคืนกระเป๋า แต่ตำรวจไม่รับไว้ ก็ไม่รู้ว่าจะนำกระเป๋าไปคืนที่ไหน ถ้าจะขโมยหรือลักทรัพย์ ก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร เพราะว่ามีหน้าร้าน มีชื่อเสียงในวงการซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนม ไม่ลักทรัพย์เพื่อให้ตัวเองเดือดร้อนแน่นอน" เจ้าของร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง กล่าว
นายเกิดผล แก้วเกิด นักกฎหมายและทนายความอิสระ กล่าววว่า การกระทำของเจ้าของร้านที่รับซื้อกระเป๋า โดยยังไม่ได้ชำระเงิน ถือเป็นการเบียดบังเอาทรพย์สินของผู้อื่นไป ไม่ว่าทรัพย์นั้นจะจริงหรือปลอม ก็ไม่มีสิทธิ์กักของผู้เสียหายไว้ การกระทำดังกล่าวจึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์
ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วพบว่า กระเป๋าใบนั้นไม่ปลอมตามที่กล่าวหา เจ้าของร้านที่รับซื้อก็จะมีความผิดเพิ่ม คือ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่หากเป็นกระเป๋าปลอมจริง ๆ และหลอกขายให้กับทางร้าน ผู้เสียหายอาจตกเป็นผู้ก่อเหตุเอง โดยมีความผิดฐานฉ้อโกง หรือพยายามฉ้อโกง เป็นความผิดตามกฎหมายอาญาเช่นเดียวกับความผิดฐานยักยอกทรัพย์ โทษจำคุกไม่เกิด 3 ปี
