กรณีดราม่ากระเป๋าแบรนด์เนมราคาครึ่งล้าน หลังจากที่นางสาวจิดาภา ชีนารักษ์ อายุ 24 ปี เจ้าของได้ขายกระเป๋าแบรนด์เนม Hermès ที่ซื้อมาในราคา 459,000 บาท ให้กับร้านรับซื้อแบรนด์เนมมือสองของคุณณภาภัช ระหงษ์ ในราคา 395,000 บาท ภายหลังจากที่ร้านรับซื้อ ก็มีการอัดคลิปโจมตีว่าเป็นของปลอม ต้องนำไปทำลายทิ้ง พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่โอนเงินและท้าให้ตรวจพิสูจน์กระเป๋าใบนี้ว่าเป็นของแท้หรือไม่
ทั้งนี้ เจ้าของร้านรับซื้อก็ยังยืนกรานว่า เป็นของปลอมอย่างแน่นอน ซึ่งภายหลังเรื่องราวกลายเป็นข่าวโด่งดัง เจ้าของร้านจึงโอนเงินให้กับนางสาวจิดาภา แต่เจ้าของกระเป๋าไม่ขอรับเงิน พร้อมจะเดินหน้าฟ้องร้องให้ถึงที่สุด กระทั่งวันที่ 18 ธ.ค.64 สถาบันตรวจสอบกระเป๋าแบรนด์เนม "The Catch Fake Brandname" นำกระเป๋าใบดังกล่าวไปตรวจสอบ ก่อนจะยืนยันว่าเป็นของแท้แน่นอน แต่ต้องรอผลตรวจที่ชัดเจนจากประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง
ล่าสุดวันที่ 19 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ให้ข้อมูลว่า น.ส.จิดาภา เจ้าของกระเป๋าติดต่อมาให้ตนเป็นทนายความเพื่อดูแลคดี ทั้งทางแพ่งและอาญา จึงได้พูดคุยกันในเบื้องต้นแล้ว ส่วนหลักฐานก็ค่อนข้างสมบูรณ์ ขาดแค่ใบรับรองการตรวจกระเป๋าว่าเป็นของแท้เท่านั้น
โดยหลังจากนี้จะมีการฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญา ซึ่งคดีอาญา ประกอบด้วยทำให้เสียทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ และหมิ่นประมาท ส่วนคดีแพ่งก็จะมีเรื่องค่าเสียหายจากการหมิ่นประมาท เนื่องจากคุณณภาภัช กล่าวหาว่ากระเป๋าเป็นของปลอม และกล่าวหาว่าน.ส.จิดาภา ทำเป็นขบวนการหลอกขายกระเป๋า แต่ประเด็นที่คุณณภาภัช อ้างว่าโอนเงินมาให้ น.ส.จิดาภา ตามที่ตกลงกันแล้ว จึงถือว่ากระเป๋าเป็นของตัวเองนั้น ในทางกฎหมายเป็นการโอนเงินมาให้ภายหลัง หลังจากที่ฟ้องร้องเป็นคดีความ ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ต่อให้เอาทรัพย์มาคืนที่เดิมก็ไม่ได้ลบล้างความผิด
นอกจากนี้ ประเด็นที่คุณณภาภัช เคยพูดว่าหากกระเป๋าใบดังกล่าววเป็นของแท้ จะยินดีและยอมจ่ายเงินให้ น.ส.จิดาภา จำนวน 2 ล้านบาทนั้น ในทางกฎหมายเรียกว่าคำมั่น มีผลผูกพันตามกฎหมาย หากเป็นไปตามเงื่อนไขที่กล่าวข้างต้น คือหากกระเป๋าเป็นของแท้ คุณณภาภัช ก็จะต้องจ่ายเงินส่วนนั้น ซึ่งตนก็จะฟ้องในส่วนนี้ด้วย
"ตอนนี้ผมรอแค่ใบรับรองผล แต่เบื้องต้นผลออกมาแล้วว่าเป็นของแท้ การที่อีกฝ่ายอ้างว่าต้องส่งตรวจที่ฮ่องกง เพื่อความน่าเชื่อถือนั้น ไม่จำเป็น ส่งตรวจที่ไหนก็ได้ที่เป็นกลาง และในเมื่อเขายังไม่เคยส่งกระเป๋าไปตรวจ ทำไมจึงกล่าวหาว่ากระเป๋าเป็นของปลอมได้" ทนายเกิด กล่าวตั้งข้อสังเกต
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คุณณภาภัช ได้ส่งเลขบัญชีมาให้กับ น.ส.จิดาภา เจ้าของกระเป๋า จึงได้โอนเงินคืนจำนวน 395,000 บาท ให้กับเจ้าของร้านรับซื้อเรียบร้อยแล้วตามเจตนาที่ไม่ยินดีรับเงิน ซึ่งส่วนนี้ก็ไม่ได้มีผลทางกฎหมาย เพราะความผิดสำเร็จแล้วตามที่ตนกล่าวไป ส่วนเรื่องการขีดเขียนกระเป๋า แม้จะลบไปแล้วแต่กระเป๋าก็เป็นรอย ทำให้มูลค่าลดลง กรณีนี้รวมอยู่ในข้อหายักยอกทรัพย์แล้ว หากความผิดไม่ถึงยักยอกทรัพย์ ก็จะมีเรื่องการทำให้ทรัพย์สินเสื่อมค่าไร้ราคาด้วย โดยผู้เสียหายจะเดินทางมาพบตนพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.64) เพื่อพูดคุยรายละเอียดการดำเนินคดีอีกครั้งต่อไป
ทีมข่าวพยายามติดต่อหาคุณณภาภัช ระหงษ์ เจ้าของร้านรับซื้อแบรนด์เนมมือสอง พบว่าไม่สามารถติดต่อได้ จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่ร้าน Diamond 168 carat ซึ่งเป็นร้านของคุณณภาภัช พบว่าร้านกำลังปิดปรับปรุงและไม่มีพนักงานอยู่ด้านใน
นางสาวจิดาภา เจ้าของกระเป๋า ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ได้เตรียมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ครบหมดแล้ว และจะเดินทางไปพบกับทนายเกิดผลในวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.64) ที่กรุงเทพฯ ส่วนการตรวจกระเป๋าของสถาบันที่มีการยืนยันว่าเป็นของจริงนั้น ตนเองมองว่าในเมื่อมันมีหลักฐานยืนยันขนาดนี้ จะมองว่าเป็นของปลอมมันก็ไม่ใช่ อีกทั้งยังส่งให้สถาบันที่ได้รับความน่าเชื่อถือเป็นคนตรวจพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญ และขณะนี้สถาบันที่ตรวจกระเป๋าได้ถ่ายรูปกระเป๋าส่งไปยังให้อีกสถาบันที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำการตรวจพิสูจน์อีกครั้งเพื่อยืนยันผลและตนขอยืนยันว่าจะเอาเรื่องอย่างถึงที่สุด
นอกจากนี้ ยังปรากฏคลิปเสียง ขณะคนกลุ่มหนึ่งกำลังรับชมข่าวอมรินทร์ ระบุว่า "เปิดเสียงหน่อยไม่ค่อยได้ยิน โอ้โห สรพงษ์อีกแล้วนะไอ้พุทธ ไอ้ xxx สรพงษ์อีกแล้วนะ เขาอยากให้แมนเหมือนเขามั้ง พี่เจี๊ยบรู้เปล่าว่าหน้ามันอ่ะ" ก่อนจะอ้างว่านักข่าวนำเสนอมั่ว "ก็มึงอมรินทร์ มึงพูดไม่จริง มึงบอกว่า ไอ้ xxx จริง ๆ มันพูดโกหก ใส่ร้ายชัด ๆ ไอ้ xxx ไปดูได้เลยโอนไป 395,000 ค่ากระเป๋า 400,000 กว่าไม่ใช่เหรอ บ้าเหรอ 300,000 กว่าบาท บ้าแล้ว ไอ้พุทธบอกว่า 400,000 กว่า พูดไปเหอะ ปากมึงนี่มันเหมือน xxx อ่านบิดเบือนยิ่งกว่าฤๅษีแปลงสาส์นอีก ไอ้ xxx ต้องการอะไรเหรอ ตรงนี้เราไม่โกรธเขา แท้ไม่แท้ไม่โกรธ แต่ว่าพูดความจริงมาสิ บอกกระเป๋าเราไม่คืน ไม่คืน xxx อะไร กูคืนไปกี่วันละ ไอ้ xxx"
เมื่อย้อนบทสัมภาษณ์ในวันที่ 15 ธ.ค.64 คุณณภาภัช ระหงษ์ ให้สัมภาษณ์อมรินทร์ ทีวี ว่าตนได้รับกระเป๋าใบนี้มาวันที่ 9 ธันวาคม 64 ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นกระเป๋าปลอม ส่วนสาเหตุที่ตนไม่ยอมคืนให้ เนื่องจากหญิงสาวที่ขายกระเป๋าให้อ้างว่า เป็นกระเป๋าของแท้ ตนจึงอยากจะตรวจสอบให้ถึงที่สุด โดยจะส่งตรวจเพื่อให้เจ้าของกระเป๋าเชื่อว่ากระเป๋าที่นำมาขายให้ตนเป็นของปลอมจริง ๆ และตนก็ไม่อยากให้นำกระเป๋าใบนี้ไปขายต่อให้ใครอีก เพราะตนเพิ่งโดนหลอกขายแบบนี้ ร่วม 690,000 บาท ตนจึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ
"พอเป็นข่าวก็ได้ติดต่อตำรวจเพื่อคืนกระเป๋า แต่ตำรวจไม่รับไว้ เราก็ไม่รู้ว่าจะนำกระเป๋าไปคืนที่ไหน ถ้าจะขโมยหรือลักทรัพย์ก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร เพราะว่ามีหน้าร้าน มีชื่อเสียงในวงการซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนม ไม่ลักทรัพย์เพื่อให้ตัวเองเดือดร้อนแน่นอน" เจ้าของร้านรับซื้อแบรนด์เนมมือสอง กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ร้านยึดกระเป๋าแบรนด์เนมยอมคืนของ อ้างถ้าพังจะชดใช้ เจ้าของแจงคดีนี้จบที่ศาล
- สถาบันสอนดูกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดัง ตรวจสอบ Hermes เบื้องต้นเป็นของแท้
- สาวสองลั่นจะใช้อีโต้ฟันเป๋า รู้ผลของแท้ แซะ "พุทธ" ช่วยดัง เจอสวน "ซื่อสัตย์จะเจริญ" (คลิป)
