จากกรณี นางสาววีรวรรณ บุญประกอบ ได้ร้องเรียนผ่านทางอมรินทร์ทีวี ว่าหลานชายตน นายชนะชัย พรรณโส อายุ 27 ปี ที่ถูกจับคดีครอบครองยาเสพติดประเภท 1 กลับถูกเจ้าหน้าที่จู่โจมทำร้ายร่างกาย จนมีอาการกะโหลกร้าว ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานกว่า 1 เดือน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวันที่ 29 เมษายน ทว่าจนถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จนทางทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ลงพื้นที่ไปสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับทางผู้เสียหาย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น (
อ่านข่าว : กะโหลกร้าวฝีมือตำรวจ! เหยื่อเปิดคลิปแฉโดนซ้อมจับยา แต่ถูกอ้างตกตึกเอง)
ล่าสุด 5 มิ.ย. 2560 ทีมข่าวอมรินทร์ได้เดินทางไปพบ นางสาววีรวรรณ บุญประกอบ เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดีและตัวของหลานชาย นายชนะชัย โดยนางสาววีรวรรณ เล่าว่า ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมมากนัก เพราะที่ตนทราบคือทางตำรวจพยายามไปขอใบรับรองแพทย์ของน้องที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ทว่าคุณหมอได้ปฏิเสธที่จะให้เนื่องจากต้องให้แพทย์ที่ตรวจอาการน้องมาเซ็นรับยืนยัน ซึ่งคุณหมอคนดังกล่าวไม่ได้เข้ามาที่โรงพยาบาล
นางสาววีรวรรณ เล่าว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจแจงว่า หลานชายตนตกจากที่สูงสองครั้งคือ ล้มหัวฟาดพื้นตอนหนีการจับกุมหน้าปากซอยประชาราษฏร์ 16/1 และ อีกครั้งตอนปีนเข้าบ้านเกิดเหตุก่อนโดนจับ โดยมุมดังกล่าวกล้องไม่สามารถบันทึกภาพได้ ซึ่งจากภาพหลานตนไม่ได้ล้มหัวฟาดพื้น และใส่หมวกกันน็อก ต่างจากที่ตำรวจให้การว่าหลานตนไม่ได้ใส่หมวก ส่วนอีกจุดที่กล้องจับภาพไม่เห็นหลานตนก็แจ้งเช่นกันว่าตกจริงแต่แค่รั้วบ้านและไม่ได้หัวฟาด
ทีมข่าวและนางสาววีรวรรณ ลองติดต่อไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรีถึงความคืบหน้า ว่าบุคคลในกล้องวงจรปิดเป็นใคร เนื่องจากชุดปฏิบัติภารกิจเป็นการทำงานร่วมกันของ สภ.ในท้องที่จังหวัดนนทบุรี ทว่าเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลเพียงว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดๆได้เนื่องจากอยู่ในระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริง
ส่วนนายชนะชัย พรรณโส ผู้เสียหาย เผยถึงอาการบาดเจ็บว่า ทุกวันตนยังต้องกินยาแก้ชัก ติดต่อกันมาสัปดาห์กว่าแล้ว ซึ่งยานี้เป็นยาที่ช่วยละลายลิ่มเลือดในสมอง และลดการบวมของสมองด้วย แต่ทานแล้วจะได้รับผลข้างเคียงที่ทำให้หลับเร็ว และยังต้องทานเรื่อยๆตามที่หมอสั่ง ซึ่งตนก็ยังปวดหัวหนักอยู่เป็นระยะโดยในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.) ทางศาลได้นัดตนไปรายงานตัว ก่อนที่วันที่ 7 คุณหมอจะนัดตรวจอีกครั้งถึงอาการบาดเจ็บส่วนใบรับรองแพทย์อาจจะได้วันที่ 8 มิ.ย. ขณะที่หลังเป็นข่าวออกไปก็ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นเดิม