จับยกทีม! น้องสาวโหดร่วมมือผัว - พ่อเลี้ยง ฆ่าพี่ถ่วงน้ำอำพราง เมียเชื่อหวังฮุบมรดก (คลิป)

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มโนรมย์ รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายวรชัย ศรีฉ่ำ อายุ 44 ปี ชาว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ถูกพบเป็นศพลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัดใหญ่ ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท สภาพศพมีบาดแผลฉกรรจ์ ที่ศีรษะมีแผลถูกยิงที่ท้องและหลังเมื่อ วันที่ 18 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา

วันที่ 21 ธ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยัง สภ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายนิมิตผล สุมาลย์ หรือต้น อายุ 25 ปี, นายบุญลือ สุมาลย์ หรือ ต้อย อายุ 59 ปี, นายสำเริง ครุฆจันทร์ อายุ 67 ปี, นางสาวสรัลพร ครุฑจันทร์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ที่ร่วมกันฆ่านายวรชัย ศรีฉ่ำ ด้วยเจตนา และร่วมกันเคลื่อนย้ายทำลายศพ

สำหรับข้อหาที่ถูกแจ้ง 1.นายนิมิตผล สุมาลย์ อายุ 26 ปี ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันเคลื่อนย้ายทำลายศพ, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง 2.นายบุญลือ สุมาลย์ อายุ 59 ปี ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันเคลื่อนย้ายทำลายศพ 3.นายสำเริง ครุฑจันทร์ อายุ 67 ปี ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันเคลื่อนย้ายทำลายศพ 4.นางสาวสรัลพร ครุฑจันทร์ อายุ 28 ปี ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันเคลื่อนย้ายทำลายศพ

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ภาพกล้องวงจรปิด ในพื้นที่ใกล้จุดทิ้งศพในวันเกิดเหตุ ช่วงคาบเกี่ยวจากวันที่ 16 ธ.ค.64 ถึงวันที่ 17 ธ.ค.64 โดยคลิปที่ 1 ความยาวคลิป 14 วินาที จับภาพรถกระบะสีดำขับหลบหนี หลังโยนศพทิ้งน้ำ ช่วงวันที่ 17 ธ.ค.64 เวลา 01.24 น.

ส่วนคลิปที่ 2 เป็นเส้นทางหลบหนีต่อจากคลิปที่ 1 ความยาวคลิป 26 วินาที จับภาพรถกระบะคันก่อเหตุขับหลบหนีหลังทิ้งศพ ช่วงเวลา 01.25 น. โดยมีนายนิมิตผล และนายบุญลือ นั่งท้ายกระบะ ส่วนคนขับคือนายสำเริง และคนที่นั่งข้างคนขับคือนางสาวสวรัลพร

จากนั้นในช่วงเวลา 12.00 น. ญาติผู้ต้องหาได้มีการเดินทางมาเยี่ยมที่ห้องขัง นางมยุรี สุมาลย์ อายุ 54 ปี แม่ของนายนิมิตรผล และเป็นภรรยาของนายบุญลือ เปิดใจว่า ที่บ้านอยู่ในแบบลักษณะครอบครัวใหญ่ เป็นเครือญาติกันหมด

โดยนายวรชัย ผู้เสียชีวิต มักจะมีปัญหากับพี่น้องด้วยกันเอง เคยมีเหตุทะเลาะวิวาทจนต้องแจ้งความหลายครั้ง ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเล็กน้อยที่มันอาจจะถูกสะสมนาน ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปี ด้วยความที่เหมือนไม่ชอบหน้ากัน ยิ่งทำให้การเจรจานำไปสู่ความรุนแรง

วันเกิดเหตุตนไม่แน่ใจว่ามีใครอยู่บ้านบ้าง แต่ช่วงเช้าวันเกิดเหตุสายไฟชำรุดไฟดับ จึงมีการจ้างช่างมาซ่อมและเดินสายไฟใหม่ เป็นเงินบ้านละ 400 บาท แต่ช่วงเวลาเกิดเหตุ เวลาประมาณ 21.30 น. ไฟยังไม่มา ซึ่งทางด้านของนายวรชัย ผู้เสียชีวิตทวงถามกับนายนิมิตรผล ลูกชายของตน ด้วยถ้อยคำไม่ดี จึงมีปากเสียงกัน จึงตะโกนเรียกนายบุญลือ, นายสำเริง และนางสาวสรัลพร ออกมา จากนั้น นายวรชัย ผู้เสียชีวิต ใช้ไขขวงที่พกติดตัวแทงที่ท้องของนายนิมิตผล ลูกชายของตน จากนั้นลูกชายตน จึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวออกมายิงที่หน้าอกของนายวรชัย

ซึ่งนายวรชัย ผู้เสียชีวิต วิ่งหนีเข้าไปหลังบ้าน ตอนนั้นลูกชายตนบอกว่า กลัวว่านายวรชัยจะเข้าไปเอาอาวุธ นายนิมิตผลจึงวิ่งตามไปหลังบ้านเพื่อต่อสู้กัน แต่เรียกนายบุญลือ พ่อของตัวเองไปด้วย ซึ่งนายบุญลือใช้ชะแลงตีหัวนายวรชัยจนเสียชีวิต ส่วนตัวเห็นใจทางด้านของสามีและลูกชาย เพราะทนพฤติกรรมของนายวรชัย ผู้เสียชีวิต มานานแล้ว ซึ่งมีการให้กำลังใจกับลูกชายและสามีให้สู้ ๆ ส่วนตนจะไปหาวิธีการในการประกันตัวในชั้นศาล

เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มโนรมย์ พาตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดชัยนาท โดยมีการล็อกกุญแจมือ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน และพาตัวนางสาวสรัลพร เดินขึ้นรถพร้อมกัน ในระหว่างนำตัวขึ้นรถ ทีมข่าวได้พยายามสอบถามนายสำเริง และนายนิมิตผล ผู้ต้องหา ถึงปมสาเหตุเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทกันบ่อยหรือเป็นเรื่องสมบัติที่ดินของคนตาย หรืออยากขอโทษคนตายหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาไม่ตอบคำถาม โดยมีสีหน้าแววตนวิตกกังวล ก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นรถผู้ต้องขัง

นางสาวหฤทัยรัตน์ สักการะ แฟนสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนคบหาดูใจกับนายวรชัย ศรีฉ่ำ หรือ เทพ ผู้เสียชีวิต มาประมาณ 4 ปี โดยเป็นคนจิตใจดี ขยันทำงาน อัธยาศัยดีเข้ากับคนอื่นง่าย และไม่ใช่คนที่ชอบดื่มสุรา ปกติจะชอบทานน้ำหวาน น้ำปั่น ทานขนม และจะเป็นฝ่ายเดินทางมาหาตนที่บ้านเป็นประจำ

วันที่ 16 ธ.ค.64 ก่อนเกิดเหตุ นายวรชัย ผู้เสียชีวิต เสร็จจากการขายแตงโมก็เดินทางมาหาตนที่บ้าน ซึ่งก็ไม่มีลางสังหรณ์บอกเหตุว่าจะเกิดเรื่อง โดยกลับออกจากบ้านของตนเวลา 20.40 น. และส่งข้อความผ่านแชตเฟซบุ๊กมาตอน 21.03 น. ว่าถึงบ้านแล้ว ตนก็รู้สึกโล่งใจ หลังจากนั้น 21.08 น. ส่งข้อความไปหาผู้เสียชีวิตอีกครั้ง และพิมพ์ซ้ำกลับไปอีกครั้งตอน 21.31 น. จากนั้นช่วงเวลา 05.16 น. ตนโทรหานายวรชัยแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ก็เริ่มแปลกใจ จึงมีการโทรสอบถามน้องสาว ก็คือ นางสาวสรัลพร ผู้ต้องหา แต่น้องสาวก็บอกว่าไม่เห็นพี่ชายกลับบ้านเหมือนกัน ซึ่งตนรู้สึกว่าตัวเองโง่ที่ไปปรึกษาผิดคน

ส่วนปมสาเหตุตนไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องการทะเลาะวิวาทหรือเป็นเรื่องของมรดกที่ดิน เนื่องจากนายวรชัยไม่เคยเล่าปัญหาให้ฟัง และตนก็ไม่ได้มีความสนิทกับคนในบ้านหลังที่เกิดเหตุ แต่ก็สงสัยว่าถ้าเป็นเรื่องมรดก ฆ่านายวรชัยตายแล้วเขาจะได้มรดกันอย่างไร ก็ไม่แปลกที่แม่ของนายวรชัย ผู้เสียชีวิตจะมอบมรดกให้กับลูกชายคนโต เนื่องจากจากนางสาวสรัลพร เป็นลูกกับนายสำเริง ก็ไม่แน่ใจว่าอยากได้สมบัติหรือไม่

ส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อยข้างใจดำเพราะเป็นญาติกันก็น่าจะพูดคุยกันได้ ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ความรุนแรงกัน ล่าสุดได้อธิฐานบอกกับนายวรชัย ผู้เสียชีวิต ให้ไปสบาย และอธิษฐานให้คนก่อเหตุได้รับโทษตามเวรตามกรรม ตนไม่อยากให้นายวรชัยจากไปเร็วแบบนี้ สภาพจิตใจก็ยังคงทำใจไม่ได้ ที่ต้องจัดงานศพวันเดียว เพราะตนต้องไปหายืมเงินญาติมาจัดงานศพ

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ไปชี้จุดบริเวณจุดทิ้งศพ หน้าวัดใหญ่ ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท โดยนายนิมิตผล กับนายบุญลือ เป็นผู้หามศพลงจากรถกระบะมาโยนทิ้งน้ำ ส่วนนายสำเริงเป็นผู้ขับรถ และนางสาวสรัลพร นั่งข้างคนขับแต่ไม่ได้ลงจากรถ