กรณีหนุ่มใหญ่วัย 44 ปี คนงานทำถนนในจังหวัดบุรีรัมย์ ขออนุญาตคุณยายเข้าห้องน้ำในบ้าน แต่เป็นจังหวะที่ลูกเขยขี้หึงกลับเข้ามาพอดี จึงเข้าใจผิดคิดว่าคนงานเป็นชู้กับภรรยาตัวเอง จึงคว้ามีดดาบฟันขณะที่กำลังเปิดประตูห้องน้ำออกมาจนจมูกเเหว่ง ตาถลน อาการสาหัส
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเวลา 20.00 น. ของวันที่ 20 ธันวาคม 64 ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลบ้านบัว อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ นายชินกรณ์ วงศ์ดินดำ อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดขอนเเก่น ก่อนชาวบ้านจะช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายสมัย อุไรรัมย์ หรือ โด่ง อายุ 38 ปี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป
ล่าสุดวันที่ 21 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลบ้านบัว อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้พูดคุยกับนางสมพร ปรินรัมย์ เจ้าของบ้าน อายุ 82 ปี เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.64) เวลาประมาณ 18.00 น. ผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นคนงานทำถนน รู้จักกันมา 2 - 3 เดือนเเล้ว ได้นำพริกที่ตนฝากซื้อมาให้ เเละได้ขอเข้าไปอาบน้ำ ซึ่งตนก็เห็นว่าไม่มีอะไรจึงอนุญาต เพราะที่ผ่านมาผู้บาดเจ็บเเละคนงานอีกหลายคน ก็จะมาอาบน้ำบ้านตนเป็นประจำอยู่เเล้ว เพราะบ้านตนเปิดเป็นร้านค้า
กระทั่งนายโด่ง ลูกเขย กลับมาที่บ้านเห็นผู้บาดเจ็บอยู่ในห้องน้ำ เเละเห็นภรรยาทำกับข้าวอยู่ในครัว จึงได้ถามตนว่า "เเม่ ใครอยู่ในห้องน้ำ" ตนก็ตอบไปว่า "คนงานทำถนน เขามาขออาบน้ำเฉย ๆ ไม่มีอะไร" เเต่นายโด่งเเสดงความไม่พอใจ เเละพูดกับตนว่า "ให้เข้ามาเเบบนี้ได้ยังไง มันเสียหายนะ" พูดจบนายโด่งก็คว้ามีดไปฟันผู้บาดเจ็บทันที ผู้บาดเจ็บพยายามวิ่งหนี ส่วนนายโด่งก็พยายามจะวิ่งไล่ฟัน
ทั้งนี้ ตนรู้สึกสงสารผู้บาดเจ็บมาก ๆ เพราะเขาเป็นคนดีและมีน้ำใจ แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์เเบบนี้ เบื้องต้นจึงให้ลูกสาวเฝ้าดูเเลอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนนายโด่งหลังจากนี้ตนขอตัดขาด ไม่ให้กลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้อีกต่อไป เพราะตนรับไม่ได้กับการกระทำครั้งนี้
น.ส.พรพิมล ปรินรัมย์ อายุ 49 ปี ภรรยานายโด่ง กล่าวความรู้สึกว่า ตนสงสารคนที่ถูกทำร้ายมาก ๆ เพราะเขาไม่รู้เรื่อง เขาเป็นลูกค้าประจำของแม่ และคุ้นเคยกับแม่เป็นอย่างดี แม่จึงไว้ใจถึงขั้นฝากซื้อพริก ซึ่งการกระทำดังกล่าวของสามี ตนถือว่าไม่ถูกต้อง คาดว่าน่าจะเมามาแล้วทำร้ายผู้บาดเจ็บ
โดยวันนี้ญาติ ๆ ของผู้บาดเจ็บ เดินทางมาจากจังหวัดขอนแก่น แล้วก็ไปแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการขอใบยืนยันอาการจากแพทย์ ญาติ ๆ ของผู้บาดเจ็บจึงขอให้ตนช่วยเฝ้าอาการ เพราะมีแต่คนแก่ไม่สะดวกมาเฝ้า ตนจึงรับปากว่าจะดูแลเฝ้าอาการที่โรงพยาบาลให้ เพราะตนก็สงสารอาการผู้บาดเจ็บยังสาหัส