กรณีดราม่าของ "พิมรี่พาย" ไลฟ์สดขายของ แต่บางช่วงก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ กระทั่งแฟนเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊จงหมูทอด" แกะกล่องสุ่มพิมรี่พาย กล่องละ 10,000 บาท ซึ่งภายในกล่องมีกุญแจรถจักรยานยนต์ 1 คัน พร้อมกับสินค้าอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย
ล่าสุดวันที่ 21 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี วิดีโอคอลพูดคุยกับ นางจงใจ กิจแสวง หรือ เจ๊จงหมูทอด แม่ค้าหมูทอดชื่อดัง เปิดเผยว่า วันที่ตนสั่งซื้อกล่องสุ่ม คือวันที่ 5 ธ.ค.64 ตอนนั้นตนอยู่ที่สวนก็เลยเปิดมือถือเข้าเฟซบุ๊ก จนไปเจอพิมรี่พายกำลังไลฟ์สดขายของ ตนจำไม่ได้ว่าสั่งอะไรไปบ้าง เท่าที่คิดออกก็มีหมอน 2 ใบ เครื่องสำอาง รวมมูลค่าหลายพันบาท ตนจำราคาแน่ชัดไม่ได้
ต่อมาดูไปเรื่อย ๆ ก็เห็นว่าพิมรี่พาย เปิดกล่องสุ่มราคา 10,000 บาท จึงเข้าไปสั่งซื้อ 1 กล่อง ตอนนั้นรู้สึกว่าสนุกดี ไม่ได้หวังหรือคิดอะไร แต่เท่าที่ดูพิมรี่พาย ตนเชื่อว่าเขาต้องส่งของมาให้ลูกค้าไม่ขาดทุนอยู่แล้ว ตนสั่งเสร็จก็ยังคุยกับเพื่อน ๆ ที่สั่งกล่องสุ่มเหมือนกัน แต่เพื่อนสั่งไม่ทัน เพราะพิมรี่พายปิดยอดก่อน ทำให้เห็นว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสั่งได้
จากนั้นช่วงวันที่ 17 ธ.ค.64 ตนได้ข้อความจาก Thai Honda ระบุข้อความว่า ตนคือผู้โชคดีจากบริษัท พิมรี่พาย ได้รับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟไอ 110 สีแดงดำ โดยรถจะได้รับในช่วงวันที่ 20 มกราคม 65 ส่วนตัวเห็นข้อความแล้วก็คิดว่าเป็นมิจฉาชีพ ไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งมาเห็นดอกกุญแจในกล่องสุ่มที่ส่งมา
"วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 ธ.ค.64) มันมีพัสดุมาส่งที่บ้าน ตอนนั้นไม่อยู่บ้าน จึงให้เพื่อนบ้านรับพัสดุไว้ เมื่อกลับมาช่วงเย็นจึงมารู้ว่าเป็นกล่องสุ่มพิมรี่พาย ยอมรับว่าตื่นเต้น สนุก จึงเปิดกล่องทันทีที่เห็น และให้ลูกสาวถ่ายคลิปตอนแกะกล่องให้ และเห็นว่ามีดอกกุญแจจริ งๆ ตอนนั้นตื่นเต้น และรู้สึกสนุก จนตอนนี้จำไม่ได้ว่าของในกล่องสุ่มมีอะไรบ้าง เพราะแจกให้ลูกน้องหมดแล้ว" เจ๊จงหมูทอด กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่มีการเตี้ยม หรือติดต่อจากพิมรี่พาย และไม่ใช่แค่คนดังที่ได้เท่านั้น ตนยังเห็นว่ามีคนอื่น ๆ ที่ไม่ดังก็ได้ เพียงแต่เราไม่ได้เห็นตามสื่อก็เท่านั้น ตนไม่ได้คิดเรื่องคุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่า ตนมองว่ามันสนุก และตนพอมีกำลังซื้อ แต่ตนก็อยากเตือนคนที่รายได้น้อยไม่ใช่จะทำตามเพราะอยากได้รถหรือทอง
นอกจากนี้ ตนก็เป็นคนหนึ่งที่สั่งของพิมรี่พายไปแล้ว และยังไม่ได้รับของ ในอดีตตนก็เคยขอเงินคืนจนครบจำนวน ซึ่งครั้งแรกตนสั่งไม่ถูกขั้นตอน เนื่องจากต้องมีการกรอกข้อมูล จึงให้ลูกสาวทำให้ กระทั่งตนสั่งหมอนที่บอกไปข้างต้น ราคาสินค้าที่สั่งหลายพันบาท สั่งไปพร้อมกล่องสุ่มก็ยังไม่ได้รับเช่นกัน ได้แต่กล่องสุ่ม ตนเข้าใจว่ายอดคนสั่งซื้อมีจำนวนมาก อาจจะทำให้ล่าช้าไปบ้าง ซึ่งตนมองว่าลูกค้าก็ควรจะต้องเผื่อใจรอเวลาสินค้ามาถึงบ้านด้วย
แต่ทว่าก็ยังมีดราม่าพิมรี่พายผุดขึ้นมาอีก เนื่องจากลูกค้าหลายรายออกมาโพสต์ระบายว่า ส่งของล่าช้า อีกทั้งบางคนที่ได้รับของกล่องสุ่ม อ้างว่าสิ่งของด้านในได้ไม่คุ้มราคา
ทีมข่าวได้ติดต่อพูดคุยกับ นางสาวบุ๋ม (นามสมมติ) ลูกค้ากล่องสุ่มพิมรี่พาย กล่าวว่า ตนอยากได้กล่องสุ่มมาก ตั้งแต่ราคาหลักแสน แต่คิดไว้ว่าหากมีกล่องสุ่มราคาหลักหมื่นตนก๋จะสั่ง กระทั่งในวันที่ 5 ธันวาคม 64 พิมรี่พายได้เปิดกล่องสุ่มราคา 1 หมื่นบาท ตนจึงสั่งของไปแต่ทำใจไว้แล้วว่าจะได้รับล่าช้า เพราะพิมรี่พายขายทั้งหมด 10,000 กล่อง
จากนั้นในช่วงวันที่ 12-18 ธันวาคม 64 เริ่มมีคนได้รับกล่องสุ่ม ซึ่งบางคนได้รับรถจักรยานยนต์ ตนก็มีความหวังว่าจะได้รับของดีและมีคุณภาพ เพราะพิมรี่พายโฆษณาตัวเองว่าของจะราคาไม่ต่ำกว่าราคากล่องสุ่มแน่นอน ตนจึงมีความหวังและไม่สนใจดราม่า เพราะตนอยากได้กล่องสุ่มมาก ๆ กระทั่งวันนี้ (21 ธันวาคม) เวลา 12.00 น. ตนได้รับกล่องสุ่มในสภาพกล่องขาด แต่เข้าใจว่าอาจเป็นความผิดพลาดของบริษัทขนส่ง
แต่เมื่อตนแกะกล่องคิดว่าจะได้ น้ำหอมต่าง ๆ แต่กลับได้เครื่องสำอางเกือบทั้งหมด เป็นเครื่องสำอางคล้ายกับว่าสั่งมาจากตลาดสำเพ็ง และทอง 1 เส้น ราคาประมาณ 4,000 บาท รวมมูลค่าของทั้งหมดตนคิดว่าไม่ถึง 10,000 บาท เครื่องสำอาง 90 % อีก 10 % คือ ครีม กาแฟ วิตามิน และทอง 1 เส้น มีใบรับรอง ราคา 4,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าพนักงานแพ็กของน่าจะรีบ กำ ๆ ของแล้วโยนลงกล่อง ขณะนี้มีผู้เสียรวมตัวกันใน Open chat พบว่ามีคนได้ของเหมือนตนหลายคน บางคนก็ยังไม่ได้กล่องสุ่ม บางคนก็เป็นผู้เสียหายที่เคยสั่งสินค้าแต่ยังไม่ได้ของ หรือได้ของไม่ตรงกับที่สั่ง ทั้งนี้ สิ่งที่ลูกค้าอยากได้คือสินค้าคุณภาพสัก 2-3 ชิ้น ไม่ได้มากมาย แต่กล่องสุ่มราคา 10,000 บาท ของเทียบไม่ได้แค่ราคาหลักพัน จากนี้คงจบแล้วกับ “พิมรี่พาย”
ขณะที่ “ลีน่าจัง” ไลฟ์สดพูดถึงประเด็นดังกล่าวว่า "ตอนนี้มีผู้เสียหายประมาณ 1 พันกว่าคนแล้ว บางคนสั่งของจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้สินค้าเลย แม้พยายามทวงถามยังไง ก็ยังไม่ได้สินค้า ส่วนประเด็นกล่องสุ่ม 1 หมื่นบาท บางคนได้น้ำหอมอาหรับ ที่ขายตามท้องตลาดขวดละ 100 บาท หรือบางคนเปิดกล่องออกมา ได้สินค้าที่ขึ้นสนิม หรือเครื่องสำอางที่อาจหมดอายุ"
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ไลฟ์สดผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ กล่าวว่า สำหรับคดีหมอปลอมก็ต้องดูต่อไปว่า เจ้าของคลินิกอย่าง พิมรี่พาย จะต้องรับผิดหรือไม่ และแพทย์ที่ดูแลคลินิกต้องรับผิดด้วยหรือไม่ กฎหมายเขียนไว้ค่อนข้างชัดเจน ตนขอฝากไปถึงพนักงานสอบสวนว่า เจ้าของคลินิกจะต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ หรือจะเอาจบเพียงแค่นี้ "จะเป็นมวยล้ม ต้มคนดูหรือเปล่า"
"คนติดตามพิมรี่เยอะ ถ้าสมมติว่าผิดก็ต้องรับผิด ต้องรับโทษ ไม่ใช่แค่มาร้องไห้ ยกไหว้แล้วจบ ไม่ใช่นะครับ เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าเป็นแม่ค้าออนไลน์ มีคนตามหลายล้านจะเป็นคนดีเสมอไป มันไม่ใช่นะ ผมยืนเคียงข้างประชาชน ไม่ยืนเคียงข้างแม่ค้าออนไลน์ คุณเป็นมืออาชีพบริษัทคุณเยอะใหญ่โตมโหฬาร มีที่ปรึกษา แสดงว่าคุณรู้หมด คุณรู้เห็นหรือเปล่า" ทนายความ กล่าวแนะนำ