เพื่อนเชื่อไอ้เหี้ยมแทงสาวไม่หวังเงิน ชาวหอแห่ย้ายออกยกชั้น สยองศพติดตา (คลิป)

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุบุกแทง น.ส.อินทุอร กอหาร หรือ เต้ย อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดพิจิตร บาดเจ็บสาหัส ก่อนวิ่งหนีออกมาจากห้องพัก และเสียชีวิตบริเวณหน้าลิฟต์ ภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยเมื่อคืนวันที่ 26 ธ.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายณัฐชัย อาตสามารถ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งพักอยู่ชั้น 3 ตึกเดียวกันกับผู้ตาย

สำหรับหลักฐานมัดตัวคนร้าย พบว่าบาดแผลที่มือขวา มีลักษณะร่องรอยของการต่อสู้ ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการตายของนางสาวอินทุอร ตำรวจจึงได้มีการสอบปากคำเข้ม ก่อนที่เจ้าตัวรับสารภาพ

นายเบิ้ล (นามสมมติ) คนพักอาศัยอยู่ภายในคอนโดมิเนียม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองอาศัยอยู่ที่ตึกด้านหลัง ไม่ใช่ตึกเกิดเหตุ โดยตอนนั้นนายณัฐชัยได้พาภรรยามาอาศัยอยู่ที่ชั้น 5 แต่ทำตัวเหมือนเปิดเช่าพร้อมกัน 2 ห้อง ซึ่งไม่รู้เหตุผลว่าทำไม แต่ตอนที่อยู่ตึกเก่าภรรยาของนายณัฐชัยเริ่มตั้งท้องแล้ว นายณัฐชัยมักจะมีการใช้ความรุนแรงกับภรรยา ได้ยินเสียงทุบตีและเสียงกรีดร้องของภรรยาดังรอดออกผ่านประตู มีหลายครั้งที่เจอเด็กวิ่งเล่น นายณัฐชัยก็มักจะแสดงอาการเกรี้ยวกราดใส่เด็ก

ประกอบกับช่วงที่อาศัยอยู่ที่ตึกเดิม ก็ได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านหลายคน มาเล่าให้ตัวเองฟังว่าเสื้อชั้นใน กางเกงในของผู้หญิงที่ตากไว้มักจะหายไป หลังจากที่นายณัฐชัยทะเลาะรุนแรงกับภรรยา จนเพื่อนข้างห้องเริ่มเบื่อและเอือม จึงได้มีการแจ้งให้กับนิติบุคคล เจ้าตัวจึงตัดสินใจคืนห้องและย้ายไปอยู่ตึกที่เกิดเหตุ หลังจากที่ย้ายกลับไปแล้ว คนในตึกเก่าก็กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทั้งนี้ ช่วงที่ภรรยานายณัฐชัยตั้งท้องและเพิ่งคลอดได้ไม่นาน เป็นช่วงที่อาจจะมีความเครียดหรือการมีเซ็กซ์ไม่ได้ จึงได้มีการระบายความเครียดโดยวิธีอื่นหรือไม่

นายเขียว (นามสมมติ) พลเมืองดีที่แจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนเองเดินออกจากห้องเพื่อใช้ชีวิตอยู่ในช่วงหัวค่ำตามปกติ แต่เวลาดังกล่าวตอนที่ออกจากห้องภายในชั้น 5 ได้เดินไปที่บันไดหนีไฟฝั่งซ้ายของตึก สังเกตว่ามีผู้ชายกางเกงลายทหารนั่งเหมอลอยไม่น่าไว้ใจ ดูเหมือนลักษณะพวกกลุ่มเสพยาเสพติด จึงได้เดินไปใกล้ ๆ ซึ่งตัวของนายณัฐชัยได้หันมามองหน้า

จนกระทั่งหลานชายวัย 3 ขวบ ออกมาวิ่งเล่น และเห็นนายณัฐชัยนั่งอยู่ที่จุดเดิม จึงได้พยายามตะโกนเรียกชื่อนายณัฐชัย แต่เรียกเป็นชื่ออื่น เพราะเข้าใจว่าเป็นคนที่รู้จักกัน แต่เมื่อหลานชายวิ่งเข้าไปเข้าใกล้นายณัฐชัยแล้ว เจ้าตัวมีท่าทีที่เปลี่ยนไป มองตาขวาง และหันมาตะคอกใส่หลานชายจนชายร้องไห้วิ่งมาบอกตน ตอนนั้นก็ได้รีบเข้าไปดูว่ามีใครนั่งอยู่ที่จุดดังกล่าว แต่เจ้าตัวได้ลุกขึ้นและเดินสวนทางพร้อมกับจ้องหน้าด้วยท่าทีที่ไม่พอใจ

ช่วงกลางดึกตอนที่เกิดเหตุ ตนเองก็พาหลานชายเข้านอนตามปกติ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดเหตุคนแทงกันที่ชั้น 7 มารู้อีกทีตอนที่มีตำรวจมาเคาะห้อง ประกอบกับลูกชายโทรมาบอกกับตนเองว่ามีคนโดนแทงตาย ตนเองจึงได้ตัดสินใจไปคุยข้อมูลกับตำรวจ ก็ทราบว่าตัวของผู้ต้องสงสัยเป็นชายสวมใส่เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงลายทหาร กระทั่งช่วงต่อมาตำรวจไปเจอเสื้อที่ซ่อนอยู่ที่ห้องลับชั้น 5 จึงถือว่าเป็นการชี้เป้าที่ถูกตัว ตนเองจึงบอกกับตำรวจว่าชายคนดังกล่าวอาศัยอยู่ที่ชั้น 3 จนผู้ต้องหาถูกจับกุมตัว

ทีมข่าวยังได้สังเกตว่าห้องพักภายในคอนโดมิเนียม ตั้งแต่ชั้น 3-7 บริเวณหน้าห้องโดยเฉพาะประตู ทุกห้องจะมีสติกเกอร์ที่เขียนข้อความระบุว่า "ตรวจแล้ว โดยสืบสวน มีการตรวจบัตรประจำตัวประชาชน และประกอบอาชีพ…"

ซึ่งทุกห้องจะต้องผ่านการตรวจ เนื่องจากในวันที่มีการปิดล้อมหาตัวผู้ต้องสงสัย ได้มีการค้นห้องชั้นที่เกี่ยวข้องในคดี แต่ในการติดสติกเกอร์ดังกล่าวติดเกือบ 125 ห้อง แต่จะมีห้องที่ไม่มีการติดสติกเกอร์เพียง 2 ห้อง คือห้องชั้น 3 ของนายณัฐชัย และห้องที่เกิดเหตุชั้น 7 เท่านั้น

จากการตรวจสอบบนเฟซบุ๊ก ผู้ตายเคยเคยโดงัดห้องนอนมาแล้ว 2 รอบก่อนหน้านี้

ทีมข่าววิดีโอคอลพูดคุยกับ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี เพื่อนของ น.ส.อินทุอร เล่าว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ธ.ค. น้องเต้ยทักมาขอยืมเงินตนในเวลาประมาณ 20.30 น. แต่ตอนนั้นตนทำงานไม่ได้เปิดอ่านแชต จนเวลาประมาณ 01.00 น. เพื่อนข้างห้องของน้องเต้ย ทักมาบอกตนทางเฟซบุ๊ก ระบุว่าน้องเต้ยเสียชีวิตแล้ว และให้ตนติดต่อทางญาติด้วย ตอนนั้นตกใจมากทำอะไรไม่ถูก แต่ก็พยายามช่วยเพื่อนด้วยการทักไปบอกญาติ ๆ โดยก่อนหน้านี้ก็รู้ว่าเพื่อนเคยถูกงัดห้องมาแล้วประมาณ 2 ครั้ง ตนยังบอกให้เพื่อนระวังตัว ซึ่งน้องเต้ยก็กลัวหลังถูกงัดห้อง และคิดจะย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่อาจจะติดปัญหาเรื่องเงิน

ทั้งนี้ ตนมองว่าผู้ต้องหาน่าจะเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเพื่อนมานาน จนรู้ว่าเพื่อนอยู่ห้องตามลำพัง จึงตัดสินใจเข้าไปลงมือ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาประสงค์ต่อทรัพย์ เชื่อว่าหวังข่มขืนมากกว่า เพราะผู้ตายไม่ได้มีทรัพย์สินมากมาย และมองว่าผู้ต้องหาน่าจะเป็นคนที่งัดห้องผู้ตายไปก่อนหน้านี้ โดยหวังจะลงมือหลายครั้งแล้ว

"สงสารเพื่อนมากที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพื่อนป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรคพุ่มพวง ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ ซ้ำยังต้องทำงานหาเงินส่งกลับไปให้ครอบครัวอีก" ตนอยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษสูงสุด ไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ำได้อีก

เมื่อเวลา 20.10 น. นิติบุคคลของคอนโดที่เกิดเหตุ ได้เดินทางมาพร้อมกับผู้พักอาศัยภายในอาคารที่เกิดเหตุ และอาสากู้ภัย โดยการสวมใส่ชุดพีพีอีนำอุปกรณ์ทำความสะอาดไม้ถูกพื้นและถุงดำ เข้ามาเก็บทำความสะอาดห้องที่เกิดเหตุ ภายหลังมีการเก็บพยานหลักฐาน และมีการทำแผนประกอบรับคำสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว

นายณัฐวุฒิ มุณีแก้ว ผู้อยู่อาศัยภายในคอนโด อยู่ห้องตรงข้ามที่เกิดเหตุ เปิดใจว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้มีการพูดคุยกับผู้ตายเเมื่อช่วงประมาณวันที่ 8 ธ.ค. ช่วงที่มีการลงลิฟต์พร้อมกัน โดยตอนนั้นผู้ตายบอกกับตนเองว่าห้องถูกผู้ไม่หวังดีงัดกลอนประตู และตนเองก็เห็นว่าตัวของผู้ตายได้มีการนัดให้ช่างจากภายนอกเข้ามาเปลี่ยนลูกบิดประตูใหม่ และลูกบิดประตูก็ไม่ได้ใช้ตัวเดิม เป็นตัวใหม่แกะกล่อง ฉะนั้นจึงเชื่อว่าคนร้ายบุกงัด 2 ครั้ง ตัวของผู้ตายก็ได้มีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ประตูสามารถที่จะปิดล็อกได้ปกติ ไม่ได้อยู่ในลักษณะอาการเสียหรือใช้งานชั่วคราว แต่ในวันเกิดเหตุเชื่อว่าในฐานะคนที่มีความรู้สึกที่ลงไปเอาของเพียงแค่ช่วงเวลาครู่เดียว อาจไม่ได้มีการปิดล็อกห้อง ซึ่งชะล่าใจไม่คิดว่าจะมีคนร้ายอยู่ภายในตึก จึงทำให้มีการเปิดประตูเข้าไปและหลบซ่อนตัวก่อนที่จะก่อเหตุทำร้ายผู้ตาย

วันนี้แม้ว่าจะมีนิติบุคคลของคอนโดรวมทั้งอาสากู้ภัยร่วมใจกันทำความสะอาดที่เกิดเหตุ เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกตินั้น มันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่ดีขึ้นแค่ 20% แต่ภาพจำทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพห้องนอนของคนตาย และแม้แต่ภาพของคนตายที่นอนอยู่หน้าลิฟต์ ทุกอย่างยังอยู่ในความทรงจำของผู้เช่าอาศัยอยู่บริเวณชั้น 7 เท่าที่มีการพูดคุยกันในละแวกห้องที่อยู่ใกล้เคียงและเกือบทั้งชั้น 25 ห้อง มีคนอยู่ 70% ทุกคนกำลังจะย้ายออก รวมถึงตนเองก็เตรียมที่จะย้ายออกภายในสิ้นเดือนนี้ เพราะไม่สามารถที่จะทนอยู่หรือทนเห็นเหตุการณ์ที่เป็นภาพจำที่แสนเจ็บปวดเหล่านี้ได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- จับแล้ว มือแทงสาว 23 ดับคาคอนโดย่านบางพลี พบอาศัยตึกเดียวกัน
- ฮือทืบไอ้เหี้ยมแทงคอสาวเลือดเย็น ฆ่าจบเปลี่ยนชุดกกเมีย ถูกน็อกด้วย "ลูมินอล" (คลิป)
- ล็อกดาวน์ตึกล่าไอ้เหี้ยมฆ่าสาว พยานเชื่อฝีมือคนใน พบห้องถูกงัด 3 รอบก่อนเป็นศพ (คลิป)