"กานต์" ปิดไฟสะอื้น 20 นาที "เอ็มมี่ แม็กซิม" เผยเครียดลูกร้องศาล "ทราย" เห็นใจเสือแนะตรวจจิต (คลิป)

ล่าสุดวันที่ 29 ธ.ค.64 "เอ็มมี่ แม็กซิม" เปิดเผยว่า ตนได้พูดคุยกับ "เสก โลโซ" ถึงสภาพจิตใจของ "กานต์ วิภากร" ดีขึ้นมาเล็กน้อย และยอมกินข้าวแล้ว เพราะตนพยายามติดต่อกานต์หลายครั้ง แต่ติดต่อไม่ได้ เลยต้องโทรหาเสกแทน ด้วยปัญหาที่เจอค่อนข้างหนัก สภาพจิตใจของกานต์ก็ค่อนข้างแย่ คงยังไม่ดีขึ้นง่าย ๆ เรื่องเมื่อวานนี้ที่ "เสือ" หนีออกมาจากบ้าน ตนคิดว่ากานต์ไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะตอนที่รู้กานต์ยังโทรหาตนอยู่เลยว่า "เอ็มมี่ รู้เรื่องไหมว่าเสือหนีออกจากบ้าน" และไม่มีใครรู้ว่าเสือออกไปตอนไหน

แม้กระทั่งตนก็ยังไม่สามารถติดต่อเสือได้ และค่อนข้างกังวล กลัวว่าจะไม่ไปเล่นงานคอนเสิร์ต วันที่ 31 ธันวาคม 64 แต่ก็เชื่อว่าเสือไม่เบี้ยวงาน ปกติตนจะไม่ค่อยตามเสือสักเท่าไร จะให้ฮันนี่ (เพื่อนสนิท) เป็นคนตาม แล้วมีอะไรก็ค่อยมารายงาน ส่วนเรื่องการตรวจทางจิตเวช คงต้องรอถามกานต์ แต่จากที่คุยกับเสกว่าสภาพจิตใจของกานต์เริ่มดีขึ้น ตนก็อยากให้กานต์ได้พักผ่อนก่อน เรื่องจะไปหรือไม่ไปหาหมอก็มีสิทธิของกานต์ และอยากให้ทุกคนให้กำลังใจทั้ง 2 ฝ่าย 

ในส่วนของเรื่องเงิน 20 ล้านบาทนั้น ตนไม่สามารถตอบได้ อยากให้รอกานต์ หรือเสือออกมาตอบเองในวันที่สภาพจิตใจดีขึ้น ตนเชื่อว่ากานต์จะออกมาพูดแน่นอน แต่ขอให้ได้พักผ่อน ให้ความเครียดที่มีลดลง ทุกคนคงจะได้รู้คำตอบเรื่องทั้งหมด แม้ว่าตนจะเป็นผู้จัดการของเสือก็ตาม แต่ตนก็เป็นคนอื่นคนนอกอยู่ดี เพราะเรื่องภายในครอบครัวค่อนข้างละเอียดอ่อน ไม่สามารถก้าวก่ายได้

นักแสดงสาว “ทราย เจริญปุระ” หลังได้ติดตามข่าวและทราบถึงกรณีดังกล่าว ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Inthira Charoenpura” ว่า "นึกถึงตอนเราต้องพาแม่ไปแอดมิตที่ศรีธัญญา ใช่ค่ะ เสียงสาปส่งเราทั่วสารทิศ แต่เอาจริง ๆ นะ เพราะเค้าเป็นแม่เราเลยอยากดูแลให้ดีที่สุด เราคิดว่าถ้าแม่เราป่วยโรคอื่น ๆ เป็นมะเร็ง เป็นเบาหวาน ไปฟอกไต เราก็ยินดีจะพาไป และคนก็คงเข้าใจง่าย ๆ แต่ถ้าโรคที่เค้าเป็นต้องให้เค้าอยู่โรงพยาบาลจิตเวชเพื่อรักษา มันก็ตามนั้น อ่านข่าวแล้วก็เห็นใจ แต่เรื่องมันใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เป็นกำลังใจให้จริง ๆ ค่ะ"

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี จึงได้พูดคุยกับ “ทราย เจริญปุระ” กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าไม่ว่าใครที่รู้ว่าพ่อแม่ป่วย หรือเป็นอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นทางกายลูกก็ยินดีที่จะพาพ่อแม่ไปหาหมอ ซึ่งการทำเช่นนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนเข้าใจ แต่ว่าพอเป็นปัญหาที่มองไม่เห็นทางใจ คนอื่น ๆ อาจจะบอกว่าเป็นการอกตัญญู ซึ่งตนก็เห็นหลายคอมเมนต์อยู่เหมือนกัน ตนเคยเจอกรณีเช่นนี้ตอนที่ตั้งใจพาคุณแม่ไปรักษาทางจิตเวช มีหลายกระแสต่อว่าตน ส่วนตัวอยากจะบอกว่าในกรณีเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็น ก็ให้คนที่มีความรู้อย่างหมอหรือผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลและให้คำแนะนำจะดีกว่า

แต่ต้องยอมรับในบางเรื่อง เมื่อคนใกล้ตัวเป็นคนพูด อาจจะเกิดการไม่รับฟังกัน หรือพูดและบอกกันเองไม่ได้ ก็ต้องหาบุคคลที่ 3 มาช่วยไกล่เกลี่ย หรือให้คำแนะนำแทน ซึ่งในวันนี้ก็มีคนเข้าใจ “เสือ” มากขึ้น แต่ก็ยังมีคนที่เข้าใจคลาดเคลื่อนว่าสิ่งที่ทำเป็นการทำร้ายแม่ แต่ตนมองว่าน้องไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น

ทั้งนี้ ตนอยากจะให้กำลังใจ “เสือ” ว่าสิ่งที่ได้ตัดสินใจไปแล้ว คงจะคิดทบทวนทุกอย่างมานานแล้ว ตนขอเป็นกำลังใจให้กับการตัดสินใจ และขอให้ทุกอย่างราบรื่น ประคับประคองไปด้วยกัน ให้เชื่อมั่นในการตัดสินใจ ขอให้ผลลัพธ์ออกมาราบรื่น และจัดการทุกอย่างได้ลงตัวในเวลาอันรวดเร็ว