“ทีน่า” ไม่เปลี่ยนชื่อ “ประยุทธ์” กระทบร้านขายของไม่ได้ บุกสภาทนายแค่ปรึกษา ทนายดังเดินหน้าฟ้อง (คลิป)

29 ธ.ค. 64

กรณี ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ข้อความว่า "คุณประยุทธ์ หรือ สรพงษ์ อุตส่าห์ไปถึงสำนักเขตฯ แล้ว แต่ยังไม่ได้ฤกษ์เปลี่ยนชื่อใหม่ ตรวจสอบล่าสุดวันนี้ ยังใช้ชื่อเดิม ก่อนยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ในวันพรุ่งนี้ (29 ธ.ค) เวลา 14.00 น . ที่ศาลอาญา ผมได้รับมอบหมายจากคุณชมพู่ ให้ยื่นฟ้อง สรพงษ์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา (หลายกรรม) และเรียกค่าเสียหาย 700,000 บาท #เป็นการส่งท้ายปีเก่า ให้คุณสรพงษ์ ส่วน #ของขวัญต้อนรับปีใหม่ ของคุณสรพงษ์ จะเป็นคดีค่ากระเป๋า 2,000,000 บาท ตามนัดนะครับ คุณประยุทธ์"

304902

ล่าสุดวันที่29 ธ.ค.64 ทนายเกิดผล กล่าวว่า ตนในฐานะที่เป็นผู้รับมอบอำนาจของน้องชมพู่ ทั้งในส่วนการดำเนินคดีแทน และส่วนที่มอบหมายในการแจ้งข่าวแก่สื่อมวลชน ขอเรียนสื่อมวลชน และคุณทีนา เพื่อความเข้าใจในเจตนา ของน้องชมพู่ การที่น้องชมพู่จำเป็นต้องใช้สิทธิทางศาล เพื่อดำเนินคดีกับคุณทีนานั้น เป็นเรื่องของความจำเป็น มิใช่การกลั่นแกล้ง เพราะน้องชมพู่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของคุณทีนาก่อน ทั้ง ๆ ที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ หากคุณทีนาใช้ความจริงพิจารณา ความเสียหายทั้งต่อทรัพย์สินที่ไม่คืนกระเป๋าให้น้อง ทำลายกระเป๋าน้อง คุณทีนาเป็นผู้มีชื่อเสียง มีผู้ติดตามจำนวนมาก ย่อมสร้างความเสียหายแก่น้องชมพู่เป็นวงกว้าง การที่น้องจำเป็นต้องดำเนินคดีจึงเป็นไปตามสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย และเกิดความเสียหายที่ถูกกระทำก่อน

159220

"น้องเขาไม่ได้รู้จักคุณทีนามาก่อนด้วยซ้ำ และไม่คาดคิดว่าคุณทีนาจะทำแบบนี้ ไม่มีใครรังแกใคร หรือกลั่นแกล้งใคร หรอกครับ คุณทีนาเองก็บอกกับนักข่าวว่าตัวคุณก็ได้ดำเนินคดีกับน้องเช่นเดียวกัน ก็เป็นสิทธิตามกฎหมายของแต่ละฝ่าย เช่นเดียวกันครับ และในฐานะส่วนตัวผมไม่รู้จักคุณทีนา ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองในเรื่องใด ๆ ไม่เคยกลั่นแกล้งรังแก และผมทำตามหน้าที่ครับ" ทนายเกิดผล กล่าว

323303

ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ ทีน่า เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางไปที่สภาทนายความจริง เป็นการร้องขอความเป็นธรรมหลังจากที่ตกเป็นกระแสสังคม ทำให้ไม่สามารถค้าขาย และขายของในโลกออนไลน์ได้ เนื่องจากมีแต่คนรุมด่า ไม่มีใครซื้อของ ทำให้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการโพสต์ของทนายความ ทำนองว่า “เอาให้สุดทีน่า” ทำให้ตนได้รับผลกระทบอย่างหนัก

876941

ดังนั้นตนจึงได้เดินทางไปร้องต่อสภาทนายความ เพื่อขอความเป็นธรรม ในวันนี้ตนได้มีการพูดคุยกับตัวแทนของสภาทนายความ และมีการร่างหนังสือ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.64) ตนเตรียมที่จะเดินทางไปพบกับสภาทนายความอีกครั้ง เพื่อที่จะไปตรวจสอบเกี่ยวกับหนังสือที่ร่างขอความเป็นธรรม

902064

ส่วนกรณีเรื่องของการเปลี่ยนชื่อว่า “ประยุทธ์” ตนได้เดินทางไปเพื่อที่จะดำเนินการขอเปลี่ยนชื่อจริง และกดบัตรคิวแล้ว แต่ในขั้นตอนที่จะต้องให้เหตุผลกับเจ้าพนักงาน จึงได้รับคำแนะนำว่าให้ชะลอการเปลี่ยนชื่อ เนื่องจากการเปลี่ยนชื่อเพียงแค่ 1 สัปดาห์ตามที่ตนตั้งใจไว้ ไม่เหมาะสม เจ้าหน้าที่แนะนำว่าให้ทบทวนและชะลอการเปลี่ยนชื่อออกไป เพราะส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจ และการส่งเรื่องยื่นต่อกรมสรรพากร ซึ่งเป็นภาษีปลายปี 2564 รวมทั้งการยื่นเกี่ยวกับทะเบียนพาณิชย์ต่าง ๆ ก็อาจมีผลกระทบตามไปด้วย

ฉะนั้นตนจึงค่อนข้างมีความกังวลใจ เกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ และที่สำคัญกระแสสังคมเป็นเพียงแค่ชั่วข้ามคืน ปล่อยเอาไว้สักพักทุกอย่างก็จะกลับเข้าสู่ปกติและคนก็จะลืมไปเอง ดังนั้นในใจตนก็อยากปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากที่จะเปลี่ยน เพราะลั่นวาจาเอาไว้ในรายการ ตนยอมรับว่าหลังจากได้รับคำแนะนำทำให้ตนรู้สึกสับสน แต่ได้อีกมุมหนึ่งก็กลัวว่าจะถูกกระแสสังคมโจมตีว่าทำไม่ทำตามที่พูดเอาไว้

451799

น้องชมพู่ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกอย่างได้เป็นคดีความไปแล้ว แต่ คลิปที่คู่กรณีโทรศัพท์คุยกับร้านที่ตนไปซื้อกระเป๋านั้น ทำไมเพิ่งจะมาเปิดเผยในตอนนี้ และทุกวันนี้ตนก็ยังไม่ได้รับผลตรวจจากเขา เพราะเขาบอกให้ตนรออย่างเดียว ส่วนที่ตนทราบว่าเขายังไม่เปลี่ยนชื่อ เพราะทนายไปคัดทะเบียนราษฎร์

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม