กรณีคนร้ายอายุประมาณ 40 ปี ใช้ปืนปลอม บุกเข้าร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาชลบุรี กวาดทองรูปพรรณไปได้ทั้งหมด 53 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หลังจากนั้น ได้วิ่งหนีไป ขึ้นรถจักรยานยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนี เหตุเกิดคืนวันที่ 10 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา (อ่าน :
เร่งล่าตัวคนร้ายปล้นร้านทอง มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท พบใช้ปืนปลอมก่อเหตุ)
วันที่ 17 ธ.ค. 61 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สถานีตำรวจภูธรเสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี พลตำรวจโทจิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เและ ทีมสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ทีมสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ทีมสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรเสม็ด กว่า 10 นาย ร่วมกันประชุม เพื่อติดตามจับกุม ผู้ต้องหาคือ นายประเสริฐ รอดคง อายุ 41 ปี ซึ่งพบว่า หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาขี่จักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี จากนั้นจึงขับรถยนต์ยี่ห้อ นิสสัน ซาลูน สีขาว ออกจาก จ.ชลบุรี ต่อมา วันที่ 11 ธ.ค. พบนายประเสริฐ อยู่ที่ด่านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี ขอผ่านด่าน ตม.ไปกบดานที่ จังหวัดทวาย ประเทศเมียนมา
พล.ต.ท.จิตติ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 ประสานกับ ตม.ด่านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี เพื่อเข้าไปประสานงาน ติดต่อกับ เจ้าหน้าที่ประเทศเมียนมา นอกจากนี้ หากใครพบใบร้ายคนร้ายรายนี้ ตามที่เปิดเผย หากจับกุมได้ จะมีค่าเบาะแสรางวัลนำจับ 100,000 บาท
วันที่ 17 ธ.ค. 61 ทีมข่าวลงพื้นที่ บ้านของนายประเสริฐ รอดคง คนร้ายที่ลงมือชิงทองในครั้งนี้ ในพื้นที่หมู่ 10 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี
โดย
นางละไม (นามสมมติ) แม่ของนายประเสริฐ ผู้ต้องหา เผยว่า ตนไม่ทราบมาก่อนว่าลูกชายตนเป็นผู้ก่อเหตุ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญหลานไปที่สถานีตำรวจ เมื่อกลับมา หลานก็ร้องไห้พร้อมกับบอกว่าพ่อตัวเองเป็นคนร้ายชิงทอง
ซึ่งลูกไม่เคยมีพฤติกรรมในการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาก่อน ซึ่งตนก็รู้สึกสงสัยเช่นกันว่าเหตุใดลูกจึงทำเช่นนี้ และไม่ทราบว่าลูกมีเรื่องเครียด หรือเงินขัดสนหรือไม่ ส่วนลูกได้เลิกรากับภรรยาไป แล้วให้ตนเลี้ยงดูหลานทั้ง 2 คนแทน ส่วนนิสัยลูกตนเป็นคนนิ่มนวล พูดจาดี
นางละไม พูดทั้งน้ำตาว่า เมื่อวาน (16 ธ.ค) ตนโทรศัพท์ติดต่อหาลูกแล้ว เมื่อลูกรับสาย ก็ตอบเพียงว่า “ขอโทษครับแม่” ตนจึงได้บอกให้ลูกมามอบตัว แต่ลูกกลับไม่ตอบและวางสาย เมื่อติดต่อไปอีกครั้งลูกได้ปิดเครื่อง ยอมรับว่าตนเป็นห่วงลูกและไม่รู้ว่าลูกคิดจะทำอะไรต่อไป หากลูกได้ดูข่าวก็อยากให้มอบตัว เพราะหากโดนจับในประเทศไทยก็สามารถไปเยี่ยมได้ แต่หากถูกจับกุมที่เมียนมา ก็ไม่รู้เช่นกันว่าลูกจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากลูกตนตายในประเทศไทย ตนก็สามารถเห็นศพได้
ทั้งนี้ ล่าสุดพบว่า ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ที่เดินทางเข้าไปเพื่อติดตามจับนายประเสริฐ ถูกทางการประเทศเมียนมาจับกุมตัวไว้โดยไม่ทราบสาเหตุว่าผิดกฎหมายระหว่างประเทศข้อใด ซึ่งขณะนี้ ตำรวจภูธรภาค 2 กำลังเร่งหาทางช่วยเหลือ เพื่อช่วยเหลือตำรวจไทยออกมาก่อน