กรณีตำรวจ สภ.บ้านเทื่อม อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ควบคุมตัวนายพเยาว์ เพ็ชรโคตร หรือ เยาว์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาครอบครองยาเสพติด 20 เม็ด ไปยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลจังหวัดอุดรธานี โดยใส่กุญแจมือเป็นเครื่องพันธนาการ
แต่ปรากฏว่า ผู้ต้องหาอาศัยจังหวะที่รถกระบะแครี่บอยขนส่งผู้ต้องหา ติดสัญญาณไฟแดง ที่สี่แยกหนองสำโรง ถ.อุดรานี - หนองสำโรง ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง สะเดาะกุญแจมือ และทำลายกระจกด้านขวาห้องควบคุม กระโดดลงรถ วิ่งหลบหนีไปทางชุมชนหนองแวงพัฒนา เขตเทศบาลเมืองหนองสำโรง ซึ่งตำรวจได้ติดตามจับกุม แต่ยังไร้วี่แวว โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 61
ความคืบหน้าวันที่ 18 ธ.ค. 61
พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้หัวหน้าสถานีตำรวจทุกสถานี ให้ทำการติดลูกกรงเหล็กของรถที่ใช้ส่งผู้ต้องหาทุกคัน เพื่อความปลอดภัย และเน้นย้ำไม่ให้ประมาท เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาอีก โดยให้ พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รองผบก.ภ.จว.อุดรธานี ออกตรวจตามสถานีตำรวจ เพื่อตรวจสอบว่ารถที่ใช้ส่งตัวผู้ต้องหา ติดลูกกรงเหล็กเรียบร้อยและมีความแข็งแรงมั่นคงหรือไม่
ด้าน
นางณฤวรรณ ชัยวี อายุ 66 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเห็นคนร้ายวิ่งผ่านหน้าไป ขณะที่กำลังคุยกับพนักงานเทศบาลเมืองหนองสำโรง ซึ่งกวาดเศษใบไม้ที่ข้างหนองแวง ก็เห็นชายคนหนึ่งวิ่งมาทางซอยหนองแวงพัฒนา ไม่ใส่รองเท้า ลักษณะการวิ่งแบบวิ่งมาราธอน วิ่งผ่านตนไป เข้าไปในซอยแยกของซอยเทวา แต่ตอนนั้นตนคิดว่าคนแถวนี้จะวิ่งไปห้องน้ำ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจดูเส้นทางหลบหนีของนายพเยาว์ พบว่าตั้งแต่รถตำรวจจอดติดไฟแดง ที่บริเวณแยกหนองสำโรง หรือ ที่เรียกกันว่าแยกเป็ปซี่เก่า วิ่งข้ามถนนเข้าไปในซอยหนองแวงพัฒนา ข้างโรงเรียนกระจ่างวิทย์ จากนั้นคนร้ายจึงวิ่งเข้าซอยเทวา โดยวิ่งตรงไปจนสุดซอย แล้วปืนเข้าบ้านกระโดดหนีออกไปด้านหลัง ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีทั้งบ้านร้าง คลองน้ำ และป่ารกที่สามารถใช้หลบซ่อนตัวได้