เดนคุกนัดสาวมาฆ่าในรถ ก่อนขนศพมารพ. "พยาบาล" ใจดีสู้เสือกล่อมก่อนจับ (คลิป)

วันที่ 2 มกราคม 2565 เมื่อเวลา 00.15 น. สถานีตำรวจภูธรบ้านเขว้า พ.ต.อ.อานุภาพ ผิวอ่อน ผกก.สภ.บ้านเขว้า, พ.ต.ท.ศรศักดิ์ พากระโทก สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเขว้า ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลบ้านเขว้าจังหวัดชัยภูมิว่า นายพิชัย วิเศษศักดิ์ อายุ 48 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ อยู่ในอาการมึนงง เข้ามาขอการรักษา เนื่องจากอาการนอนไม่หลับ และบอกต่อหน้าเจ้าหน้าที่พยาบาลว่าได้ฆ่าผู้หญิงตาย 1 คน อยู่ภายในรถที่จอดอยู่ภายในโรงพยาบาล จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน

ในโรงพยาบาลบริเวณลานจอดรถ ตรวจสอบพบรถยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น jazz สีขาว หมายเลขทะเบียน ขธ 6795 หมวดจังหวัดระยอง ที่คนร้ายขับเข้ามาจอดอยู่ ตรวจสอบภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิต หญิง 1 ราย นอนอยู่บริเวณเบาะผู้โดยสารข้างคนขับ สวมชุดผ้าลูกไม้สีฟ้า กางเกงชั้นในหลุดไปกองอยู่บริเวณเท้า และเสื้อคลุมสีขาวปิดหน้า มีรอยเลือดออกบริเวณใบหน้า ร่องรอยช้ำบริเวณคอทราบชื่อต่อมาคือ นางสิริปภา จำบัวขาว อายุ 49 ปี ภูมิลำเนา จ.ชัยภูมิ

แพทย์หญิงน้ำหวาน (นามสมมติ) หมอที่เข้ามาพูดคุยกับนายพิชัย ผู้ก่อเหตุ กระทั่งนายพิชัยสารภาพความจริงให้ฟัง เปิดใจว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 22.50 น. นายพิชัยเขาได้เดินเข้ามาที่ห้องฉุกเฉินที่ตัวเองประจำเวรอยู่ มีสีหน้านิ่งเฉย แล้วมีอาการเหมือนผู้ป่วยทั่วไป เข้ามาบอกว่า "นอนไม่หลับ ฉีดยานอนหลับให้หน่อย" จากนั้นตัวเองจึงให้นายพิชัยนอนบนเตียง แล้วตัวเองก็เดินเข้าไปสอบถามอาการนายพิชัยตามปกติ ระหว่างนั้นมีพยาบาลอีกท่านหนึ่งได้สังเกตเห็นที่คอของนายพิชัยว่ามีรอยช้ำแดง แล้วมีการมากระซิบบอกตัวเอง ตัวเองจึงมีการสอบถามนายพิชัยว่ารอยช้ำที่คอของพิชัยเกิดจากอะไร

จากนั้น นายพิชัยเล่าให้ตัวเองฟังว่าเขาอยากฆ่าตัวตาย พยายามฆ่าตัวตายถึง 2 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ พอตัวเองได้ยินนายพิชัยพูดแบบนั้น ตัวเองจึงเปลี่ยนวิธีการรักษา ใช้หลักจิตวิทยาเข้ามาพูดคุยกับนายพิชัย เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่นายพิชัยก่อเหตุฆ่าตัวตายในครั้งนั้น นายพิชัยสารภาพให้ตัวเองฟังว่าเขาได้มีปัญหากับผู้หญิงคนหนึ่ง กระทั่งได้ทะเลาะกันเรื่องชู้สาวและทรัพย์สินเงินทอง จนท้ายที่สุดเขาก็ได้พลั้งมือก่อเหตุจนผู้หญิงคนดังกล่าวเสียชีวิต

ตนยอมรับว่าพอได้ยินเรื่องราวดังกล่าวจากปากนายพิชัยแล้วก็รู้สึกตกใจ ตัวเองพยายามชั่งน้ำหนักเรื่องราวดังกล่าวว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ กระทั่งพูดคุยกับนายพิชัยไปเรื่อย ๆ รายละเอียดของเรื่องราวนั้นก็สอดคล้องกัน ตัวเองจึงประสานทีมแพทย์ พยาบาล เพื่อแบ่งคนไปดูที่รถเก๋งคันเกิดเหตุตามที่ผู้ก่อเหตุเล่าให้ฟัง กระทั่งพบศพผู้หญิงจริง จากนั้นตัวเองจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มายังโรงพยาบาล

นายพิชัย วิเศษศักดิ์ เปิดใจว่า ตัวเองกับนางสิริประภาเริ่มรู้จักกันทางเฟซบุ๊ก แล้วก็พูดคุยกันได้ 1 เดือน โดยคุยกันผ่านทางแชต กระทั่งวันที่ 29 ธันวาคม 2564 นางสิริประภาบอกว่าเขาจะเดินทางกลับบ้านที่ จ.ชัยภูมิ ตอนนั้นทำงานที่ จ.ระยอง แล้วเขาก็ขอเงินค่าเดินทางกับตัวเอง ตัวเองจึงโอนเงินค่าน้ำมันไปให้ผู้เสียชีวิต ต่อมาวันที่ 30 ธันวาคม 2564 นางสิริประภาได้มาหาตัวเองที่บ้าน ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งแรก จากนั้นตัวเองและสิริประภาจึงไปทำบุญด้วยกันที่วัดแห่งหนึ่ง แล้วก็เปิดโรงแรมนอนด้วยกัน

กระทั่งวันที่ 1 มกราคม 2565 นางสิริประภาขับรถเก๋งคันเกิดเหตุมาหาตัวเองที่บ้าน แล้วก็มีการนั่งดื่มเหล้าที่บ้านของตัวเอง ในช่วงบ่ายมีการนั่งดื่มกินประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นตัวเองก็ได้นั่งรถเก๋งออกมากับผู้ตาย เพื่อนั่งรถเล่นกัน ผู้ตายเป็นคนขับ ตัวเองนั่งเบาะข้างคนขับ มาถึงจุดเกิดเหตุตัวเองและผู้เสียชีวิตแวะจอดรถกันข้างทางเพื่อพูดคุยกัน ระหว่างนั้นมีเพศสัมพันธ์กันในรถ 1 ครั้ง หลังมีเพศสัมพันธ์กัน ตัวเองได้มอบแหวน 1 วง น้ำหนักครึ่งสลึงเพื่อเป็นของหมั้นให้กับนางสิริประภา ตั้งใจว่าจะเริ่มชีวิตใหม่ ใช้ชีวิตครอบครัวกับผู้ตาย แต่นางสิริประพาพูดว่า "มันเป็นไปไม่ได้หรอกพี่ เราไปกันไม่ได้หรอก หนูมีลูกมีผัวแล้ว" ทำให้ตัวเองโมโห บันดาลโทสะบีบคอ จากนั้นก็ใช้สายเข็มขัดนิรภัยมารัดคอซ้ำ จนเขาหมดลมหายใจ

ที่ตัวเองลงมือแบบนั้น เพราะก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงบอกว่าอยากอยู่กับตัวเอง อยากใช้ชีวิตกับตัวเอง แต่วันเกิดเหตุเขากลับพูดอีกอย่าง ว่าไปต่อไม่ได้ ส่วนที่กางเกงในของผู้เสียชีวิตถูกถอดออกนั้น เป็นเพราะก่อนที่จะมีการพูดคุยกัน ตัวเองและผู้เสียชีวิตมีการร่วมรักกันในรถ ตัวเองไม่ได้ขืนใจผู้เสียชีวิต หลังตัวเองก่อเหตุรู้สึกผิดที่พลั้งมือ คิดอยากตายตามถึง 2 งรอบ แต่ไม่สำเร็จ รอบแรกตัวเองได้ปิดกระจกรถเพื่อให้ขาดอากาศหายใจ แต่ไม่สำเร็จ จากนั้นตัวเองจึงเอาศพมาไว้เลาะข้างคนขับ แล้วตัวเองก็ขับรถเก๋งออกไปตามทาง เห็นต้นไม้ใหญ่จึงเอากางเกงขายาวของฝ่ายหญิง ที่อยู่ท้ายรถแล้วไปปีนผูกคอ แต่ร่างตัวเองก็หล่นมาที่พื้นดิน

จากนั้น ตัวเองจึงขับรถไปที่ สภ.บ้านเขว้า เพื่อหวังมอบตัว แต่ไม่เจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตัวเองจึงขับรถไปที่โรงพยาบาลบ้านเขว้า เพื่อไปขอยานอนหลับกับเจ้าหน้าที่พยาบาล เนื่องจากมีอาการผวา กระทั่งแพทย์ได้เข้ามาสอบถามอาการกับตัวเอง จนตัวเองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แพทย์ฟัง เหตุที่เกิดขึ้น ตัวเองก็อยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ตัวเองก่อเหตุลงไป อยากบอกถึงวิญญาณว่า "อีกไม่นาน เดี๋ยวผมก็ตามคุณไป"

เวลา 17.00 น. นายคำมัด จำบัวขาว 71 ปี พ่อผู้เสียชีวิต, นางสาวกุหลาบ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยญาติของผู้เสียชีวิต ได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป เพื่อมาทำพิธีเชิญวิญญาณผู้เสียชีวิต ที่จุดเกิดเหตุ โดยพระสงฆ์ได้ทำการสวดมนต์ จากนั้นครอบครัวผู้เสียชีวิตก็ได้นำธูปมาปักที่จุดเกิดเหตุ แล้วเรียกวิญญาณผู้ตายกลับบ้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะนายคำมัดที่ร้องไห้เสียใจตลอดเวลา

นางสาวกุหลาบ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า ที่ผู้ก่อเหตุให้ข่าวว่าปมที่เขาก่อเหตุส่วนหนึ่งมาจากเรื่องชู้สาวว่าพี่สาวตัวเองมีชู้ ตัวเองขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง พี่สาวตัวเองเขาตายแล้วเขาพูดไม่ได้ พี่สาวตัวเองถึงเขาจะเคยมีครอบครัวมาแล้วก็จริง แต่ปัจจุบันเขาโสด เขาไม่ได้มีชู้ตามที่เป็นข่าว

แล้วตัวเองก็ติดใจสภาพศพพี่สาวตัวเอง ที่กางเกงในถูกถอด เสื้อถูกเปลี่ยน เพราะพี่สาวตัวเองก่อนออกจากบ้าน เขาสวมใส่เสื้อสีขาว และผ้าถุง แต่ตอนพบเป็นศพกลับเป็นอีกชุด จึงคิดว่าผู้ก่อเหตุเขาน่าจะมีการขืนใจพี่สาวตัวเอง พี่สาวไม่มีทางสมยอมตามที่ผู้ก่อเหตุอ้างแน่นอน

นายคำมัด จำบัวขาว 71 ปี พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันเกิดเหตุก่อนออกจากบ้าน ลูกสาวก็ได้กราบเท้าล้างเท้าให้ตัวเอง และภรรยา ในวันขึ้นปีใหม่ ตัวเองไม่คิดว่าจะเป็นการกราบเท้าครั้งสุดท้ายของลูกสาว ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ลูกสาวได้พาผู้ก่อเหตุไปที่บ้านของตัวเอง ตัวเองก็ไม่รู้สึกไว้ใจนายพิชัยตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เพราะเขาเหมือนคนสติไม่ดี เวลาพูดคุยกับตัวเองก็ไม่สบตา ตัวเองก็ได้เตือนลูกสาวให้ระวังชายคนนี้ให้ดี ๆ แต่ก็ไม่ทัน เหตุครั้งนี้ตัวเองเชื่อว่านายพิชัยเขาวางแผนหลอกล่อลูกสาวมาก่อเหตุ ตัวเองอยากให้เขารับโทษให้ถึงที่สุด

สำหรับเมื่อช่วงเช้าตำรวจได้คุมตัวนายพิชัย วิเศษศักดิ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ 2 จุด จุดแรกคือบริเวณกลางถนนเส้นทางระหว่างหมู่บ้านราษร์ยางชุม-บ้านป่ายางเขตพื้นที่ ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ จุดที่สองคือบริเวณโรงพยาบาลบ้านเขว้า

ภาพจากกล้องวงจรปิด จากบ้านชาวบ้านหลังหนึ่ง ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุมาประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถบันทึกเหตุการณ์รถเก๋งของผู้ตาย ที่ผู้ก่อเหตุขับออกจากจุดเกิดเหตุ ผ่านบ้านชาวบ้าน ในเวลา 17.31 น.

ตำรวจให้ข้อมูลว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาได้ก่อเหตุเสร็จประมาณ 16.30 น. แล้วขับรถวนเวียนแถวหมู่บ้าน เพื่อจะไปฆ่าตัวตายในช่วงเวลา 17.00 น. ถึงเวลาประมาณ 22.00 น. จากนั้นก็ขับรถมุ่งหน้า สภ.บ้านเขว้า และโรงพยาบาลบ้านเขว้า ในเวลา 22.50 น.