โพสต์ที่ถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์ หลังจากเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีชายหนุ่มคนหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก เล่าประสบการณ์ถูกแฟนสาวที่คบกันมากว่า 4 ปี จับได้นอกใจหลายครั้ง แม้เขาจะมีความรักครั้งใหม่แล้ว แต่อดีตแฟนสาวก็ยังตามราวีไม่เลิก จนเขากินยาเกินขนาด เคราะห์ดีที่แฟนใหม่มาช่วยไว้ได้ทัน
ล่าสุด วันที่ 2 ม.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับผู้โพสต์ คือ นายต่อ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งกำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
นายต่อ เปิดเผยเรื่องราวว่า ตนเองคบหากับอดีตแฟนสาว ชื่อ น.ส.บี (นามสมมติ) ประมาณ 4 ปี โดยเริ่มคบหากันเมื่อปี 2559 เเละได้เช่าหอพักอยู่ด้วยกันในเมืองตัวเมืองสุรินทร์ โดยระหว่างที่อยู่ด้วยกันก็จับได้หลายครั้งว่า น.ส.บี เเอบคุยกับผู้ชายคนอื่นหลายคน เเต่ก็ให้อภัยมาตลอด
ต่อมาเดือนมิถุนายน 2564 อดีตเเฟนสาวได้ไปทำงานเป็นเซลส์ขายรถยนต์ เมื่อทำงานได้ 1 สัปดาห์ ก็แอบไปคบหากับเพื่อนร่วมงาน จนเริ่มกลับห้องดึกทุกวัน ออกข้างนอกทุกวัน เมื่อลองค้นมือถือก็เจอรูปที่ทั้งสองจับมือกัน เเต่อดีตเเฟนสาวก็บอกว่าไม่มีอะไร
จนกระทั่งเดือนกรกฎาคม ได้ซักผ้าให้อดีตเเฟน ก็แปลกใจเมื่อพบคราบอสุจิที่กางเกงในทุกวัน แต่แฟนอ้างว่าตกขาว จนมาวันหนึ่งที่เป็นวันหยุด จู่ ๆ แฟนสาวก็ออกไปข้างนอกแบบเร่งรีบ ตนเองเริ่มเอะใจ จึงวิดีโอคอลไปหา และจำได้ว่าสถานที่นั้นเป็นโรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อขับรถตามไปดูก็ต้องใจสลาย เพราะพบแฟนสาวอยู่กับเพื่อนร่วมงานจริง ซึ่งผู้ชายคนดังกล่าวที่มามีความสัมพันธ์กับเเฟนสาว มีภรรยาอยู่เเล้ว เเละมีลูกถึง 3 คน ตนเองจึงเดินเข้าไปสอบถาม เเต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร จึงบอกให้ทั้งคู่ไปคบกัน พร้อมกับบอกฝ่ายหญิง ให้เก็บข้าวของย้ายออกไปอยู่ที่อื่น
เเต่ฝ่ายหญิงก็ยังตามง้อขอคืนดี ซึ่งตนเองก็ยอมใจอ่อนให้อภัย เเละกลับไปคืนดีด้วย เเต่หลังจากนั้นก็จับได้ว่าอดีตเเฟนสาว ยังเเอบติดต่อกับเพื่อนร่วมงาน เเละยังเเอบไปหากันบ่อยครั้ง จนตนเองเคยถามอดีตเเฟนสาวว่า "ผู้ชายเขามีครอบครัวอยู่เเล้ว ยังจะไปยุ่งอีก ไม่สงสารลูกเขาหรอ ไม่ละอายใจบ้างหรอ" เเต่อดีตเเฟนก็ตอบเเค่ว่า "ก็เมียมันปากดีเอง" ซึ่งตนเองได้ยินคำพูดดังกล่าวจากปากของอดีตเเฟน รู้สึกผิดหวังมาก เพราะเขาไปเเย่งสามีของคนอื่นมา เเต่ไม่มีความสำนึกใด ๆ เลย เเละทั้งคู่ก็ยังเเอบไปหากันตลอด ตนเองจับได้ถึง 5 ครั้ง
นายต่อ เปิดเผยอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับเเฟนสาว ตนเองเป็นคนดูเเลทุกอย่าง ทั้งค่าเช่าห้องเดือนละ 6,000 บาท ค่าอยู่ค่ากิน ค่าเที่ยว เพราะเเฟนสาวเป็นคนชอบเที่ยว ติดหรู รวมเเล้วไม่ต่ำกว่าเดือนละ 30,000 บาท นอกจากนี้ อดีตเเฟนสาวเคยเอารถเก๋งของตนเองไปชนอีกหลายครั้ง เสียค่าซ่อมไปประมาณ 100,000 บาท จนเงินเก็บของตน 200,000 บาท หมดเกลี้ยงภายในปีเดียว หลังจากซ่อมรถเสร็จ อดีตเเฟนสาวก็ยังเอารถของตน เเอบไปหาผู้ชายคนนั้นอีก เเละไปประสบอุบัติเหตุชนกับรถจักรยานยนต์ ช่างประเมินค่าซ่อมไว้ประมาณ 40,000 บาท เเต่ตนเองไม่มีเงินซ่อมเเล้ว
ซึ่งหลังจากนั้นตนเองก็มีเเฟนคนใหม่เข้ามาเยียวยาจิตใจ เเต่อดีตเเฟนสาวก็ยังตามมาง้อขอคืนดี เเละยังส่งข้อความไปรังควานเเฟนใหม่ของตนด้วย จนวันหนึ่งอดีตเเฟนทักข้อความมาหา บอกว่าขอไปหาครั้งสุดท้าย จะเอาเงินค่าซ่อมรถไปให้ เเต่เมื่อมาถึงก็ไม่ได้ให้เงินค่าซ่อม ซ้ำยังจะขนเครื่องใช้ไฟไฟ้าบางชิ้นที่เยาเป็นคนซื้อออกจากห้อง ตนเองก็บอกว่าให้ได้ เเต่ต้องจ่ายค่าซ่อมรถมาก่อน 40,000 บาท เเต่อดีตเเฟนก็ด่าตนว่า "กูไม่ให้เงินมึงหรอก มึงโง่เอง ไอ้คว-ย" เเละก่อนกลับยังยืมเงินตนอีก 200 บาท ทั้ง ๆ ที่ในตัวมีเงินอยู่เพียง 296 บาท เเต่ตนเองก็ให้ยืม สุดท้ายเขาก็ไม่คืน
จนกระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2564 ตนเองเครียดหนัก เพราะเงินเก็บก็หมด รถที่พังก็ไม่ได้ซ่อม จึงตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตาย เป็นยานอนหลับ ประมาณ 70 เม็ด เเต่เเฟนใหม่มาพบ จึงช่วยหามส่งโรงพยาบาลได้ทัน อีกทั้งแฟนสาวก็จะกินยาไปกับตนเองด้วย ตอนนี้ยังรู้สึกสับสนกับชีวิต ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เเต่สิ่งที่ต้องการตอนนี้มีอยู่ 2 อย่าง คืออยากให้อดีตเเฟนเลิกยุ่งกับชีวิตตนเองเสียที เเละให้มาชดใช้ค่าซ่อมรถด้วย หลังจากที่ตนเองโพสต์เรื่องราวลงเฟซบุ๊กอดีตเเฟนก็หายไป ไม่ติดต่อมาอีกเลย