เจ้าของร้าน ปัดรู้เห็น 5 โจ๋ใช้ที่โทรมหญิง ลั่น ฉีกสัญญาเช่า - ลุงเด็ก 12 ห่วงหลานคิดสั้น (คลิป)

21 ธ.ค. 61
จากกรณี เด็กหญิง 12 ปี ถูกรุมข่มขืน โดยอ้างว่ากลุ่มวัยรุ่น 5 คนเป็นผู้ก่อเหตุ ภายในร้านค้าทุกอย่าง 10 บาท ล่าสุด ตำรวจได้ควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นชายทั้ง 5 คน แล้วนั้น ขณะที่ผู้เป็นพ่อของเด็กหญิง ระบุว่า มีผู้เกี่ยวข้องและรู้เห็นเหตุการณ์มากถึง 9 คน และเพื่อนลูกสาวที่ไปด้วยกันก็ถูกรุมโทรมด้วย
โซฟาภายในร้านที่เกิดเหตุรุมโทรมเด็ก
วันที่ 20 ธ.ค. 61 นายพงษ์ปกรณ์ สกนธ์กำแหง หรือ ตั้ม อายุ 62 ปี เจ้าของร้านที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนคงจะไม่ปล่อยให้ผู้เช่ารายนี้เช่าร้านอีกต่อไป เพราะก่อนหน้าชาวบ้านเคยอยู่กันแบบสงบ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง แต่บุคคลนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน จึงต้องมีการบอกเลิกสัญญา และที่ผ่านมาตนก็เคยว่ากล่าวตักเตือนอีกฝ่ายไปแล้วหลายครั้ง ส่วนที่เกิดเรื่องขึ้นในร้านของตัวเอง หากเจ้าหน้าที่จะแจ้งความกรณีที่ตนเป็นเจ้าของร้านก็ไม่กลัว พร้อมตั้งขอสังเกตว่า ทำไมเด็กกระทำผิดจึงยังไม่ได้รับการลงโทษ แต่จะมาเอาผิดในฐานะเจ้าของร้าน ก็คงจะเป็นไปได้ยาก ส่วนวันเกิดเหตุ ยอมรับว่าไม่ได้ยินเสียง หรือเห็นว่ามีสิ่งผิดสังเกต
นายพงษ์ปกรณ์ สกนธ์กำแหง หรือ ตั้ม เจ้าของร้านที่เกิดเหตุ
ด้านนายหิน (นามสมมติ) ผู้ทำสัญญาเช่าร้าน เปิดเผยว่า ตนเป็นคนดูแลร้าน แต่ติดงานจึงไม่ค่อยมีเวลาดูแลร้าน จึงมอบให้น้องชายดูแลแทน หลังเกิดเรื่องดังกล่าว น้องชายก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังแล้ว ซึ่งกรณีที่น้องชายไม่ห้ามปรามผู้ก่อเหตุ และถูกเจ้าหน้าที่แจ้งความเอาผิดนั้น ตนก็คาดไว้อย่างนั้นอยู่แล้ว นอกจากนี้ ตนเดินทางไปให้ข้อมูลกับตำรวจสืบสวนสอบสวนของ สภ.เมืองสระบุรี แต่ก็ไม่ทราบว่าตำรวจมีการสอบปากคำอย่างไรบ้าง เพราะตนเองไม่ได้เข้าไปในห้อง ยอมรับว่ากลัวว่าน้องชายจะรู้เห็นเป็นใจ เพียงแต่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุเท่านั้น
นายหิน (นามสมมติ) ผู้เช่าร้าน
นายหิน ชี้แจงอีกว่า กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในร้านสามารถปิดได้ เพียงแค่ปีนขึ้นไปถอดปลั๊ก ซึ่งหากมีการก่อเหตุ และรู้กันก่อนว่าจะกระทำอะไร ก็สามารถปิดได้โดยง่าย แต่ตนเองก็ไม่ทราบว่าใครเป็นคนปิด ทั้งนี้ แม่ของนายเติ้ล ทราบว่า ครอบครัวของตนอยู่ร่วมกัน 4 คน หลังเกิดเหตุ ลูกชายโทรศัพท์มาสารภาพกับตนแล้วว่าอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ขณะนี้ยอมรับว่าเครียดมาก แต่ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
นายใหญ่ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ลุงของน้องผู้เสียหาย
ด้าน นายใหญ่ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ลุงของน้องผู้เสียหาย กล่าวว่า หลานสาวมีสภาพจิตใจดีขึ้นตามลำดับ เพราะมีญาติคอยให้กำลังใจอยู่เคียงข้าง ยอมรับว่ากรณีที่หลานปฏิเสธการรับความช่วยเหลือเยียวยาจากหน่วยงานราชการนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะกลัวว่าการตอบรับไปกับหน่วยงาน ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ยังไม่มีการทำความเข้าใจที่ชัดเจน ดังนั้นจึงฝากถึงหน่วยงานดังกล่าวให้เข้ามาพูดคุยกับญาติ หรือแม่ของเด็ก มากกว่าคุยโดยตรงกับหลานสาว เพราะคนตัดสินใจคือคนในครอบครัว แต่ทั้งนี้ ญาติยังไม่ได้รับการประสานจากหน่วยงานใด ๆ ทั้งสิ้น มีเพียงแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้นที่ประสานมา นอกจากนี้ หลานสาวบอกกับคนในครอบครัวว่า “จะหนีหายไป” ตัวเองก็รู้สึกกลัวว่าหลานสาวจะคิดมาก และทำร้ายตัวเอง ฉะนั้นหากหน่วยงานใดจะเข้ามารับตัวเด็กไปเยียวยา ก็อาจต้องประสานผ่านญาติ หรือมีการพูดคุยกันก่อน ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัว 5 โจ๋ ไปยังสถานพินิจแล้วนั้น ถือเป็นเรื่องดีที่เป็นไปตามกระบวนการ แต่ก็เชื่อว่าทั้งหมดจะต้องได้รับในสิ่งที่ตัวเองก่อเอาไว้ ทั้งนี้ กรณีที่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีน้องนก อายุ 16 ปี เพื่อนรุ่นพี่ที่พาน้องเจนไปที่จุดเกิดเหตุ จนถูกข่มขืน ซึ่งจะเป็นเหยื่อรายใหม่ เป็นนางนกต่อหรือไม่นั้น ตนคิดว่าหากเด็กวัย 16 ปี พูดความจริง ก็ถือว่าไม่มีความผิด และญาติก็ไม่ติดใจเอาความ
 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ