"รปภ.หื่น ขืนใจสาวในคอนโด" กรณีนายมนตรี ใหญ่กระโทก อายุ 39 ปี หัวหน้า รปภ. ก่อเหตุข่มขืน น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ลูกบ้านที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมย่านบางแค เมื่อกลางดึกรอยต่อระหว่างคืนวันที่ 3 ม.ค. ถึงวันที่ 4 ม.ค. 65 ล่าสุด เจ้าหน้าที่ติดตามไล่ล่าจนสามารถจับกุมตัวได้แล้ว
วันที่ 7 ม.ค. 65 ทีมข่าวได้เบาะแสว่าบุคคลที่ทำอาชีพไรเดอร์ แล้วเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนายมนตรี ผู้ต้องหา ในป้อมยามเมื่อช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมานั้น คือนายณัฐพล มากนาม หรือ บาย อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ก่อเหตุบุกไปหาเรื่องในคดีบาสมีดคู่
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังในซอยวัดม่วง ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า นายณัฐพล มากนาม หรือ บาย ไม่ได้พักอาศัยอยู่แถวนี้ ก่อนที่จะเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกันในคดีบาสมีคู่ ก็จะพบว่าขับรถสวนทางไปมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้ความเคลื่อนไหวว่า ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน หลังเกิดเหตุจนเพื่อนเสียชีวิตไป 2 ราย ด้านของนายณัฐพลก็ไม่ค่อยได้มาแถวชุมชน
จากนั้น ทีมข่าวได้มีการโทรศัพท์ไปพูดคุยกับนายณัฐพล บอกกับทีมข่าวว่า เป็นเรื่องในอดีตที่นายณัฐพลจะไปส่งของในคอนโด แต่ทางด้านของนายมนตรีพูดจาไม่ดี จึงมีปากเสียงและท้าทายกัน จนกระทั่งเกิดการต่อยกัน ซึ่งเป็นเรื่องเก่าที่ผ่านมานานแล้ว ส่วนของตนก็ได้มีการเคลียร์กับนายมนตรี รับค่าเสียหายไปแล้ว งตอนนี้ก็ไม่ได้ติดใจ และไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องเก่าขึ้นมาอีกครั้ง
ทีมข่าวยังได้เดินทางย้อนกลับไปที่บ้านของเด็ก 10 ขวบ เหยื่อที่เคยถูกนายมนตรีก่อเหตุเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ปัจจุบันบ้านหลังดังกล่าวมีการเปลี่ยนสภาพไปแล้ว ปัจจุบันผู้เสียหายอายุเกือบ 20 ปี ใกล้จะสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี
นายทองดี (นามสมมติ) น้าเขยของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการพยายามขืนใจเด็กที่มีแม่ป่วยพิการด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก นอนติดเตียง เหตุการณ์ในวันนั้นไม่มีญาติอยู่ใกล้บ้านที่เกิดเหตุ ลักษณะบ้านมีการปลูกห่างกัน ตนเองมารู้เหตุการณ์ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เกิดเหตุแล้ว แม่ของหลานสาวก็ไม่อยากให้เอาเรื่อง ไม่อยากให้มีคดีความ กลัวว่าลูกจะเสียหาย ประกอบกับตัวของหลานสาวก็ไม่ได้ติดใจ อยากจะตั้งหน้าเรียนให้สูง ใช้ชีวิตตามปกติ แต่ด้วยแม่ของนายมนตรีไม่ยอม ต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จึงได้มีการดำเนินคดีลูกชายให้ต้องต้องโทษในคดี แล้วต้องไปติดคุกชดใช้กรรมที่ก่อเอาไว้
ย้อนกลับไปเหตุการณ์ในวันดังกล่าว ที่บ้านไม่มีใครที่จะช่วยเหลือหลานสาวได้ เป็นการก่อเหตุในช่วงกลางคืน นายมนตรีก็พาหลานสาวมาก่อเหตุที่มุ้งนอนกลางบ้าน แม้ว่าแม่ที่ป่วยพิการจะรับรู้และเห็นว่าลูกถูกกระทำ แต่ก็ไม่สามารถลุกขึ้นไปช่วยได้ ส่วนพ่อของเด็กก็ออกไปทำงานรับจ้าง แต่ก็โชคดีที่หลานสาวไหวตัวได้ทัน กัดนายมนตรี จึงไม่ได้ถูกกระทำจนสำเร็จ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ผ่านมา 3-4 ปี ช่วงที่นายมนตรีไปรับโทษอยู่ในเรือนจำแม่ของหลานสาวก็เสียชีวิต หลานสาวจึงได้ย้ายไปเรียนอยู่กับน้าอีกคนที่นอกพื้นที่ ปัจจุบันหลานสาวก็มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ได้จมอยู่กับในอดีต
ภายหลังจากที่นายมนตรีมีการก่อเหตุซ้ำเป็นข่าวใหญ่โต ตนเองก็เชื่อว่าหลานสาวคงได้ติดตามข่าว คงพูดหรือคิดไม่ต่างจากญาติ ๆคนอื่น ๆ ว่าไม่น่าไปก่อเหตุซ้ำซ้อน ทั้งที่ในอดีตก็มีประสบการณ์มาก่อนแล้ว เมื่อวันนี้มีการก่อเหตุซ้ำก็ต้องว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ทำผิดแล้วก็ต้องรับ การเข้าคุกครั้งนี้ก็หวังว่าจะเป็นบทเรียนสำคัญให้กับนายมนตรี ถ้าหากวันหนึ่งกลับออกมาใช้ชีวิตกับคนในครอบครัว ทุกคนก็ยังให้โอกาส ขอเพียงแค่การเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำครั้งนี้จะมีการปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นก็พอ
ขณะที่นายหมอก เพื่อนของผู้เสียหาย ได้ส่งคลิปจากโทรศัพท์มือถือ ความยาว 55 วินาที ที่ถ่ายเอาไว้เป็นช่วงที่เพื่อน ๆ ของผู้เสียหายมายืนรอด้านหน้าป้อม รปภ. เนื่องจาก รปภ.ไม่ยอมให้เพื่อน ๆ ขึ้นไปบนห้องของผู้เสียหาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แฉประวัติยามหื่นขืนใจเด็ก 10 ขวบพิการ แม่เผยย่องกลับบ้าน อ้างปล้ำสาวเหตุถูกยั่ว (คลิป)
- ล่าหัวรปภ.เคาะห้องบุกขืนใจเหยื่อ วงจรปิดชัดปีนกำแพงหนี เพื่อนปัดเอี่ยวรับส่งแชตสารภาพ (คลิป)
- ต้นสังกัดยามหื่นส่อซวย รับคนมีคดีก่อเหตุซ้ำ เจ้าของงัดใบการันตีตำรวจยันคิดว่ากลับตัว (คลิป)