สืบเนื่องจากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวที่ชื่อว่า "Anun nun Thongkong" ได้มีการโพสต์คลิปกล้องวิดีโอหน้ารถยนต์ส่วนตัว ที่บันทึกเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับทางเจ้าตัว หลังมีรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ ไม่ทราบทะเบียน กลับรถตัดหน้า จนทำให้ทางเจ้าตัวนั้นที่ขับรถมาทางเลนขวาตามปกติ ต้องหักหลบไปยังเลนสวน ก่อนที่รถของเจ้าตัวจะเสียหลักพุ่งไปประสานงากับรถโตโยต้ายาริส สีขาว ที่สวนมาจนอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส
ขณะที่ทางรถโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ คันที่กลับรถตัดหน้า ขับรถออกไปโดยไม่สนใจหรือลงมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ทางเจ้าตัวต้องประกาศตามหารถโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ คันดังกล่าว เพราะว่าตอนนี้เดือดร้อน ไม่มีเงินที่ชดใช้ค่าเสียหายกับทางผู้ได้รับบาดเจ็บ
ล่าสุด วันที่ 10 ม.ค. 65 นายอนันต์ ทองคง อายุ 43 ปี คนขับรถกระบะนิสสัน นาวาราแคป ทะเบียน บว 2585 ลพบุรี ที่ประสบอุบัติเหตุหักหลบ และไปประสานงานกับรถยาริส สีขาว จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ยอมรับว่าตอนนั้นตนเองขับมาทางเลนขวาสุดด้วยความเร็ว 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มุ่งหน้ามาจากสี่แยกไฟแดง ซอย 12 สระบุรี-หล่มสัก มุ่งหน้ามาตามเส้นลพบุรี-วังม่วง มาถึงจุดเกิดเหตุก็มีรถคันดังกล่าว สปอร์ตไรเดอร์ไม่ทราบทะเบียน วิ่งมาทางเลนขวาสุดกลับรถแบบกะทันหัน ตนเลยตัดสินใจเบี่ยงขวาและเป็นเหตุให้ประสานงานกับรถยาริสสีขาวตามคลิป
ส่งผลให้ผู้หญิงที่ขับมาได้รับบาดเจ็บเเขนซ้ายหัก สะโพกขวาหัก ซี่โครงหัก 2 ซี่ ม้ามฉีก ตนเองก็ได้รับบาดเจ็บบริเวณปากแตก เย็บ 12 เข็ม และนิ้วมือฟกช้ำ ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทางด้านรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ ก็ได้ขับหายไปโดยที่เขาเองไม่ได้ลงมาดู หรือความรับผิดชอบ ตอนนั้นตนเองก็พยายามจะเรียกอีกฝ่ายแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจ ขับรถมุ่งหน้าไปไหนทางพัฒนานิคม ซอย 12
ตอนนั้นยอมรับว่าไม่คิดว่าจะมีรถสวนมา อีกใจหนึ่งตนเองก็ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุ เลยตัดสินใจหักหลบ สุดท้ายแล้วพอได้ปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ระบุว่าหากเราไม่สามารถตามหารถกระบะคันที่ตัดหน้าได้ ความผิดสุดท้ายก็จะตกอยู่ที่ตนเพียงฝ่ายเดียว ตนเลยตัดสินในโพสต์ เพราะอยากให้เขามาร่วมชดใช้ค่าเสียหาย เพราะตนเองค่อนข้างเดือดร้อน เนื่องจากตอนนี้เองตนไม่มีเงินที่จะไปชดใช้ค่าเสียหาย ในส่วนของประกันรถยนต์ของตนก็ขาดไปได้ 1 เดือน รวมแล้วค่าเสียหายที่ตนต้องชดใช้ ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท ไม่รวมค่าซ่อมรถของตนเองอีก
ขณะที่ในเรื่องของคดีนั้น ตำรวจยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา รอให้ตนกับทางคู่กรณีได้พูดคุยกันก่อน ซึ่งอีกฝ่ายเองก็เข้าใจว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นคืออุบัติเหตุ
ทีมข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าถนนเส้นดังกล่าวสายเขือนป่าสัก มุ่งหน้าไปพัฒนานิคมซอย 12 เป็นถนน 4 เลน ไม่มีเกาะกลางกั้นระหว่างเลน ขณะที่จากการสังเกตพบว่ารถที่สัญจรไปมาค่อยข้างใช้ความเร็วสูง ตลอดจนยังมีการกลับรถลักษณะคล้ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงไม่มีทางกลับรถ