พิษ หมูแพง ชายวัย 67 ปี ควงปืนลูกโม่เย้ยกฎหมาย บุกฟาร์มหมูโวยวายต้องการหมูราคาต้นทุน ก่อนชักปืนยิงขวดขู่ลูกจ้างในฟาร์มจนหมดโม่
วันที่ 11 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุชายคนหนึ่งบุกฟาร์มหมูถือปืนมายิงเพราะต้องการซื้อหมูในราคา 1,300 บาท แต่ทางฟาร์มไม่สามารถขายให้ได้ เนื่องจากราคาหมูพุ่งสูงถึง 2,500 บาทแล้ว ก่อนจะใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงขู่หลายนัด
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่ฟาร์มดังกล่าว ตั้งอยู่พื้นที่บ้านทุ่งแสง ต.สงเปือย อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น โดยได้พบกับนายวิทยา โพธิ์จันนา อายุ 48 ปี เจ้าของฟาร์ม เปิดคลิปขณะเกิดเหตุและร่องรอยกระสุนเจาะแก้วสแตนเลสพร้อมทั้งปลอกกระสุนและหัวกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 28 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนเองไม่อยู่ฟาร์มไ ปทำธุระที่ จ.มหาสารคาม มีเพียงลูกจ้างที่ฟาร์มคอยขายหมูให้กับลูกค้าที่เดินทางเข้ามาซื้อจำนวน 4-5 คน ก่อนที่ชายที่ถือปืนในคลิป คือ นายไหมพรม (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี อดีตลูกจ้างในฟาร์ม ซึ่งลาออกไปเปิดกิจการขายหมูเป็นของตัวเองเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ขับรถยนต์กระบะมาจอดที่ฟาร์มแล้วยิงปืนขึ้นฟ้า ต้อนให้ลูกน้องของตนเองที่อยู่ฟาร์ม ให้มารวมกัน
โดยได้ถามกับลูกน้องในคลิปซึ่งทำหน้าที่ขายหมูให้กับตนเองที่หน้าฟาร์ม อ้างว่าสั่งหมูป่า 1 ตัวราคา 1,300 บาท เอาไซส์ใหญ่ โดยได้สั่งกับแฟนนายไหมที่ทำงานอยู่ฟาร์ม ซึ่งสั่งมาเป็นเดือนสองเดือนแล้ว แต่ลูกน้องที่ขายไม่ได้รู้เรื่องด้ว ยและไม่รู้ว่านายไหมสั่งอะไรกับใคร และไม่ได้มีใครมาบอกว่าต้องขายให้นายไหมราคาเท่าไร และราคา 1,300 บาท ที่นายไหมต้องการหมูไซส์ใหญ่นั้นก็เป็นไปไม่ได้ เพราะหมูไซส์ใหญ่ราคาต้นทุนอยู่ที่ 2,500 บาทแล้ว และนายไหมได้สั่งซื้อผ่านแฟนตัวเองที่เป็นลูกน้องทำงานอยู่ที่ฟาร์ม จะนำไปเลี้ยงฉลองปีใหม่ ซึ่งแฟนนายไหมไม่กล้าขายให้ เพราะไม่ใช่เจ้าของร้าน และไม่รู้ราคา
ซึ่งก่อนที่นายไหมจะมาที่ฟาร์มนั้น นายไหมได้ทวงถามกับแฟนเรื่องหมูที่สั่ง โดยบอกกับนายไหมว่าต้องให้ลูกน้องอีกคนที่อยู่ในคลิปซึ่งรู้ราคาและมีหน้าที่รับหมูมาขายเป็นคนมาขายให้ จึงเกิดความไม่พอใจใช้อาวุธปืนไล่ยิงแฟน จนแฟนต้องหนีเข้าป่าอ้อยเพื่อเอาชีวิตรอด ก่อนจะมาก่อเหตุตามในคลิปลักษณะเหมือนเตรียมการมาอย่างดี
ซึ่งขณะเกิดเหตุมีคนงานอีกคนได้ยกมือถือบันทึกภาพไว้แต่ไม่ได้ถ่ายยาว เนื่องจากกลัวจะได้รับอันตราย ซึ่งหลังเกิดเหตุลูกน้องได้ส่งไลน์มาให้ดูพร้อมกับโทรบอกตนเอง จึงได้ให้ลูกน้องทั้ง 4 คนเข้าแจ้งความที่ สภ.ภูเวียง
ต่อมาเมื่อวันที่ 3ม.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกผู้ก่อเหตุมาไกล่เกลี่ยที่โรงพักกับตนเองและลูกน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 4 คน โดยได้เรียกค่าเสียหายและค่าทำขวัญเป็นเงิน 300,000 บาท แต่นายไหมไม่ยอม และไม่มีทีท่าว่าจะสลดหรือกลัวแต่อย่างใด ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปยังไม่สามารถตกลงกันได้ กระทั่งตำรวจก็ได้เรียกพยานไปสอบสวน 2 ปาก และบอกว่าเพียงพอแล้วสำหรับการดำเนินคดี ซึ่งเวลาผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์เรื่องยังเงียบ คนก่อเหตุก็ยังลอยนวลถือปืนเพ่นพ่านในพื้นที่ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อน ธุรกิจดำเนินการต่อไม่ได้ ลูกน้องเกิดความกลัวไม่กล้ามาทำงาน จำหน่ายหมูป่าส่งให้ลูกค้าตามออร์เดอร์ไม่ได้ ขาดรายได้ช่วงปีใหม่กว่า 1 แสนบาท ซึ่งเป็นช่วงทำเงิน
อยากฝากตำรวจ สภ.ภูเวียง อันดับแรกอยากให้เอาปืนออกจากมือนายไหมก่อน เพราะลูกน้องไม่กล้ามาทำงานตั้งแต่วันเกิดเหตุ กระเจิดกระเจิงไปคนละทิศทาง งานไม่เดินตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ ธุรกิจส่งหมูแปรรูปก็หยุดชะงัก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- มรสุมซ้ำซ้อน! หมูแพง ผสมโรงพิษโควิด-น้ำท่วม หมูกระทะโคราชประกาศเซ้งร้านด่วน
- อ๋อม สกาวใจ เดือด! หมูแพง ไข่ไก่ขึ้นราคา แต่ค่าแรงเท่าเดิม บางคนไม่ถึง 300 ต่อวัน
- ฟิล์ม รัฐภูมิ เหน็บแรง! หมูแพง ไข่แพง เหลือแต่ค่าแรงกับยาบ้าที่ถูก