จากกรณี ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับร้องเรียนจากผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่ง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เนื่องจากลูกบ้านวัย 15 ปี ถูกนายสุชาติ อายุ 57 ปี มีศักดิ์เป็นตา อาศัยอยู่บ้านข้างเคียง ลวงไปข่มขืนไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง พร้อมขู่ว่าหากบอกพ่อแม่จะฆ่าให้ตาย และจะนำคลิปที่ถ่ายไว้ไปประจานให้คนรู้ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 64 ขณะนี้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุได้พยายามติดต่อขอเจรจาและได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไป
วันที่ 12 มกราคม 2565 ทีมข่าวดินทางมายังบ้านที่เกิดเหตุ จ.ปราจีนบุรี พบเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ตั้งติดกันหลายหลัง อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งในวันนี้ครอบครัวของนางสาวไก่ (นามสมมติ) ได้เดินทางไปพบอัยการจังหวัดปราจีนบุรี เนื่องจากศาลจะมีคำสั่งให้ออกหมายจับนายสุชาติ เพราะไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกถึง 2 ครั้ง
นายโปรย (สงสนนามสกุล) อายุ 76 ปี ตาทวดของผู้เสียหาย เป็นพ่อตาของผู้ก่อเหตุ บอกว่า นายสุชาติมีอาชีพเป็นคนตัดไม้ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งอยู่กินกับลูกสาวของตน คือนางประมวล มาได้ประมาณ 10 ปี พบกันที่โรงงานกระเป๋า ย่านมีนบุรี โดยในตอนแรกตนเห็นว่านายสุชาติเป็นคนขยันทำงาน แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับกลายคนขี้เมา และชอบโวยวายไม่เกรงใจใคร
ตนรู้สึกตกใจเมื่อได้ทราบเหตุว่านางสาวไก่ (นามสมมติ) ถูกข่มขืน เนื่องจากตนไม่คาดคิดว่านายสุชาติจะก่อเหตุซ้ำอีก เพราะในอดีตเมื่อ 2 ปีก่อน นายสุชาติเคยมีพฤติกรรมล่วงละเมิดลูกเลี้ยงอายุ 18 ปี ลูกติดภรรยา โดยเหตุการณ์ในอดีต นายสุชาติกับนางประมวล และลูกติดของนางประมวลได้นอนอยู่ในห้องด้วยกัน กระทั่งรุ่งสางนางประมวลได้ตื่นมาหุงข้าว ขณะนั้นลูกสาวของนางประมวลได้ร้องโวยวายขึ้นมา นางประมวลจึงวิ่งกลับเข้าไปภายในตัวบ้าน แต่ก็ไม่สามารถจับได้คาหนักคาเขา กระทั่งมีเหตุที่ลูกติดของนางประมวลขับรถจักรยานยนต์ นายสุชาตินั่งซ้อนท้าย ซึ่งนายสุชาติได้ลวนลามจับหน้าอกลูกเลี้ยงตัวเอง ทำให้มีคนมาบอกนางประมวลจนนายสุชาติต้องรับสารภาพ แต่สุดท้ายนางประมวลก็ไม่ติดใจเอาความสามี แต่ส่งลูกสาวไปเรียนต่อที่ จ.ฉะเชิงเทรา
ตนไม่คาดคิดว่านายสุชาติจะก่อเหตุซ้ำ และไม่เลิกพฤติกรรมเดิม ๆ โดยเหตุล่าสุดนางสาวไก่ (นามสมมติ) ถูกข่มขู่ไม่ให้บอกครอบครัว แต่ทางครอบครัวจับพิรุธได้ เนื่องจากนางสาวไก่ (นามสมมติ) เก็บตัวและไม่ร่าเริง ซึ่งหลังเกิดเหตุนายสุชาติและนางประมวลได้รื้อถอนบ้านหนี ย้ายไปตั้งบ้านใหม่ ห่างจากบ้านเดิม 700 เมตรเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา จากนี้ ตนขอไม่ต้อนรับนายสุชาติ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับและดำเนินคดีกับนายสุชาติให้ถึงที่สุด
นายวสันต์ อายุ 35 ปี พ่อของผู้เสียหาย บอกว่า ในวันที่ 28 ธันวาคม 2564 ลูกสาวได้มาบอกกับตนว่าถูกนายสุชาติลวนลาม แต่ตนกับภรรยาไม่เชื่อ เนื่องจากนายสุชาติมีศักดิ์เป็นตาของเด็ก แต่ตนกับภรรยาก็ได้ไปสอบถามนายสุชาติ อีกฝ่ายบอกว่ามึนเมาแล้วมืออาจจะได้โดนตัวนางสาวไก่ แต่ในวันที่ 1 มกราคม 65 ลูกสาวตนก็ได้มาบอกตนอีกครั้ง ตนกับภรรยาจึงรับฟังลูกสาว แล้วพาไปแจ้งความในวันที่ 2 มกราคม 2565
จากนั้นในวันที่ 8 มกราคม 2565 ลูกสาวได้บอกข้อมูลเพิ่มเติมว่าถูกข่มขืน ทำให้ในวันที่ 9 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกนายสุชาติให้ไปเข้าพบ แต่นายสุชาติก็ยังนิ่งเฉย จนกระทั่งในวันที่ 11 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 แต่นายสุชาติได้หนีหายออกจากพื้นที่ไปตั้งแต่เวลา 05.00 น. เหตุทั้งหมดเกิดจากการที่ตนและภรรยาฝากลูกสาวไว้กับอีกฝ่าย เนื่องจากตนและภรรยาต้องเข้ากะโรงงานในเวลา 05.00-19.00 น. ทำให้นายสุชาติมีโอกาสลวนลามลูกสาวตน ซึ่งตนไม่คาดคิดเลยว่านายสุชาติจะก่อเหตุเช่นนี้ได้
โดยในวันนี้ นายสุชาติไม่เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียกทั้ง 2 ครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออัยการให้ออกหมายจับนายสุชาติแล้ว ตนเชื่อว่าสิ่งที่ลูกสาวตนพูดกับตน ครอบครัวอีกฝ่ายจะใส่ร้ายตนอย่างไรหรืออ้างอะไร ตนไม่สนใจ ตนไม่ได้ติดสุรา ตนไม่ได้เสพยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ตนจะขอดำเนินคดีกับนายสุชาติให้ถึงที่สุด
นางประมวล อายุ 49 ปี ภรรยาของนายสุชาติ ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายสุชาติถูกใส่ความ ที่นายโปรยบอกกับทีมข่าวว่านายสุชาติเคยล่วงละเมิดลูกเลี้ยงนั้นไม่เป็นความจริง หากจริงตนจะยอมอยู่กินต่อกับนายสุชาติได้อย่างไร
โดยที่นายโปรยพูดเช่นนั้น เพราะนายโปรยโกรธตน เนื่องจากตนตำหนินายโปรย เพราะนายโปรยอยากได้เมียใหม่ ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวอายุ 76 ปีแล้ว ทำให้ตนและนายสุชาติต้องรื้อถอนบ้านออกในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา แล้วมาตั้งบ้านใหม่ เพราะตนไม่อยากที่จะทะเลาะกับนายโปรย ตนป่วยเป็นโรคหัวใจ ซึ่งเมื่อได้ทราบข่าวลือว่านายสุชาติ สามี ข่มขืนหลานสาว ตนก็อาการกำเริบ แต่ตนเชื่อว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่เป็นความจริง คาดว่าพ่อแม่นางสาวไก่ (นามสมมติ) น่าจะแต่งเรื่องขึ้นมา เนื่องจากพ่อแม่ของนางสาวไก่ (นามสมมติ) ไม่พอใจตนที่ขายที่ดินของครอบครัว ซึ่งอาจส่งผลทำให้พ่อแม่ของนางสาวไก่กลัวว่าจะต้องย้ายออกจากพื้นที่ แต่ตนก็ได้ยืนยันไปแล้วว่าจะไม่มีการไล่ที่แน่นอน
ในวันที่ 28 ธันวาคม 2564 ตนยอมรับว่านายสุชาติ สามี มึนเมาและซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปกับนางสาวไก่จริง แต่ไม่มีการข่มขืน เพียงออกไปซื้อกับแกล้มกันเท่านั้น ขณะนี้นายสุชาติเดินทางไปทำงานตัดไม้ที่ จ.ชลบุรี ทำให้ติดต่อไม่ได้ แต่ตนเชื่อว่าสามีจะเดินทางกลับมา ซึ่งตนจะพาสามีไปยืนยันความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านนายแบงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ลูกชายของนายสุชาติ ยืนยันว่า นายสุชาติไม่มีทางก่อเหตุอย่างแน่นอน หลังจากเกิดข่าวลือว่าพ่อของตนก่อเหตุข่มขืนหลาน ตนกับแม่เลี้ยงถึงกับช็อก เพราะแม่เลี้ยงป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่ตนยืนยันได้ว่าข่าวลือที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องจริง เนื่องจากนางสาวไก่ (นามสมมติ) บอกว่าถูกข่มขืนในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม และเดินทางกลับไปทำงานอีกครั้งเมื่อวานนี้ แต่ความจริงแล้ว พ่อของตนเพิ่งเดินทางกลับมาจาก จ.ชลบุรี ตัดไม้มาเมื่อปลายเดือนธันวาคม แล้วพ่อของตนจะไปข่มขืนอีกฝ่ายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนได้อย่างไร
ปกติแล้วครอบครัวของตนอาจจะมีปัญหาทะเลาะกับนายวสันต์ พ่อของนางสาวไก่อยู่บ้าง เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมึนเมา ขณะนี้ตนติดต่อพ่อของตนไม่ได้ เพราะพ่อของตนไปทำงาน 2 เดือนจะกลับบ้าน 1 ครั้ง ตนรู้สึกเป็นห่วงพ่อ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าหากพ่อสะดวกจะต้องเดินทางกลับมาแสดงความบริสุทธิ์ใจอย่างแน่นอน ตนอยากจะบอกคนที่กุเรื่องว่า "อย่ามาความเดือนดร้อนให้คนอื่น"