ตายแล้ว! กู้ภัยชิงคนเจ็บขับรถชนกันดับ แฉคลิปใหม่ร่วมกตัญญูล้อม รพ.อีกฝ่ายกลัวโดนเอาคืน (คลิป)

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์กับเหตุกู้ภัยแย่งผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ระหว่างมูลนิธิกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ กับมูลนิธิกู้ภัยร่วมกตัญญู จนเกิดเหตุปะทะกันขึ้น ทำให้อีกฝ่ายเสียชีวิต 1 คน และทางญาติต่างสงสัยว่าสาเหตุในการตายของลูกชายในครั้งนี้เกิดจากอะไร ตามข่าวที่ได้เสนอไปก่อนหน้านี้ (อ่านข่าว : กู้ภัยเปิดศึกแย่งชิงคนเจ็บ หลักฐานชัดภาพจะจะล้อม รพ.ซัดกู้ชีพคู่ปรับ)

ล่าสุด 7 มิถุนายน 2560 เวลา 18.50 น. กลุ่มอาสามูลนิธิกู้ภัยสยามรวมใจ ปู่อินทร์ ก็ได้ออกมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านรายการต่างคนต่างคิดว่า เรื่องการรับส่งคนบาดเจ็บบริเวณทางขึ้นสะพานข้ามถนนลาดพร้าว ยืนยันว่าพวกตนมีสิทธิ์วิ่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เพราะได้ตั้งกฎกติกากันไว้เรียบร้อยแล้ว มีการส่งหนังสือและพูดคุยตกลงกับทางร่วมกตัญญูแล้ว แต่เหมือนทางคู่กรณีไม่อยากให้พวกตนเข้ามาวิ่งในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนเรื่องเงินที่จะได้รับจากทางผู้ป่วยนั้น พวกตนไม่ได้คิดถึงประเด็นนี้ เพราะพวกผมทำด้วยใจไม่ใช่ธุรกิจ แต่บางครั้งที่ได้รับเงินมาก็จะเอาเงินเข้ากองกลางไม่เคยนำเงินใส่เข้ากระเป๋าตัวเอง ส่วนประเด็นที่มีรถทางฝั่งคู่กรณีมาล้อมเป็นเรื่องจริง เพราะเขาได้นำทั้งมีดและอาวุธมาทุบตี และถ้ามีพวกตนมาสมทบก็คงไม่หนีออกมาเช่นนั้น  ส่วนกรณีที่มีรถถอยไปชนเท่ง ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวตนไม่ทราบ เพราะเหตุการณ์ในวันนั้นชุลมุนกันมาก

ทั้งนี้ หลงจบรายการทางสยามรวมใจได้เปิดคลิปภาพมุมสูง เป็นเหตุการณ์ที่ทางสยามรวมใจถ่ายไว้ขณะหนีคู่กรณีเข้าไปยังโรงพยาบาลเปาโล พร้อมอ้างว่านี้คือเหตุผลที่ตนต้องขับรถฝ่าออกไป ซึ่งอยากให้ทางสังคมเห็นภาพว่าร่วมกตัญญูล้อมรถสยามรวมใจไว้ทั้งหมด พร้อมถามว่า อย่างนี้เรียกล้อมหรือเปล่า สุธีระ เพชรคงทอง อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้บอกว่าความเป็นจริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวทางงมูลนิธิกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ ไม่สามารถวิ่งในเส้นทางดังกล่าว และไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งนำคนเจ็บในพื้นที่ดังกล่าวไปส่งที่โรงพยาบาล ทำได้เพียงแค่แจ้งมูลนิธิเจ้าของพื้นที่ให้ประสานมารับคนเจ็บไปที่โรงพยาบาล ซึ่งนั้นคือกฎที่ตั้งไว้อยู่แล้ว และตนก็ยืนยันว่าไม่ได้มีการล้อมโรงพยาบาลแต่อย่างใด  และพวกตนมากันไม่ถึง 100 คน

ทางด้าน นางกาญจนา มาลัยทัด แม่น้องเท่ง เปิดเผยว่า วันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา โรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่าลูกชายถูกรถชน เมื่อไปถึงพบว่าสภาพน้องยังมีสติแต่ช่วงท้องมีอาการบวม จนช่วงเช้าวันต่อมาน้องเสียชีวิต พอทราบว่าเหตุเกิดจากระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ตนจึงแจ้งความดำเนินคดี

นางกาญจนา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกชายตนชอบช่วยเหลือคนอื่น หลังจากที่เสียลูกไปก็รู้สึกเคว้งคว้าง ไม่ทราบต้องทำอย่างไรต่อ จึงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางคดี แต่ก็อยากให้มูลนิธิออกมารับผิดชอบเช่นกัน