ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ สวนมะละกอ พันธุ์แขกนวลศรีสะเกษ ของนายสมศักดิ์ ทองพันธุ์ศรี อายุ 63 ปี ในพื้นที่ตำบลพลายชุม อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ที่เขาปลูกเอาไว้จำนวน 100 ต้น เพื่อรอจำหน่ายให้แก่พ่อค้าแม่ค้าส้มตำ ได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วม หัก โค่น เน่า ก่อนหน้านี้ ส่งผลทำให้เหลือต้นมะละกอที่เหลืออยู่ ไม่สามารถแบ่งขายออกไปได้ตามความตั้งใจ และต้องเก็บเอาไว้เพื่อเพตรียมนำไปเพาะเมล็ดพันธุ์รอบใหม่แทน
นายสมศักดิ์ บอกว่า มะละกอพันธุ์แขกนวลศรีสะเกษ นี้ ได้รับความนิยมนำเอาไปทำอาหารเมนู ส้มตำ เพราะมีเนื้อที่กรอบ เมื่อนำไปตำส้มตำจะดี ทำให้ส้มตำมีรสชาติอร่อย ทำให้เป็นมะละกอที่ได้รับความนำยมปลูกกันเป็นจำนวนมาก
ส่วนบรรยากาศที่ตลาดผักบ้านแขก ถนนธรรมบูชา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก แหล่งซื้อมะละกอของแม่ค้าส้มตำ จังหวัดพิษณุโลก พบว่าราคาผักหลายมีการปรับราคาทั้งขึ้นและลง ส่วน มะละกอ วัตถุดิบสำคัญในการทำเมนูส้มตำ ที่นี่ มีให้แม่ค้าและร้านค้าส้มตำ ได้เลือกซื้อ 2 แบบ ตามที่แม่ค้าเรียกกันคือ มะละกอยาว มีการวางขายในราคาถุง 10 กิโลกรัม ราคาแตกต่างกันตามขนาดและความสวยของมะละกอ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ ถุงละ 120 บาท ถึง 180 บาท และมี มะละกอกลม ราคาอยู่ที่ ถุง 10 กิโลกรัม 100 บาท เป็นมะละกอทางเลือกสำหรับแม่ค้า และร้านค้าส้มตำที่กำลังได้รับความสนใจถูกนำไปใช้เพื่อลดต้นทุนในช่วงนี้ด้วย
นางสาวเพชร ชัยปรีชา แม่ค้าขายผักในตลาดบ้านแขกบอกว่า ตอนนี้ราคามะละกอยาวถูกปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ สาเหตุที่ปรับขึ้นราคานั้นตนเองไม่ทราบ แต่พบว่า มีการซื้อขายหลายต่อหลายทอด ก่อนที่จะมาถึงปลายทางที่ตนเอง ตอนนี้ ถุง 10 กิโลกรัมขายถุงละ 180 บาท จากเดิม ถุงละ 70-80 บาทเท่านั้น
เช่นเดียวกับแม่ค้าขายผักคนอื่นๆ ให้เหตุว่าราคาขาย มะละกอของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันก็เนื่องมาจาก รับมะละกอมาขายจากพื้นที่แตกต่างกัน ทางเลือกชั่วคราวของแม่ค้าส้มตำคือ มะละกอกลม แต่รสชาติของส้มตำก็จะเปลี่ยนแปลงไป
Advertisement