“ถั่วแระ เชิญยิ้ม” อาลัย “พ่อดม ชวนชื่น” เผยนาทีสัมผัสมือก่อนจาก รู้ว่าใจพ่อสู้ (คลิป)

สำหรับงานสวดพระอภิธรรม พ่อดม ชวนชื่น ในคืนที่ 2 ณ ศาลา 1 วัดนวลจันทร์ ยังคงมีคนทั้งในและนอกวงการ เดินทางมาร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่แต่งกายด้วยชุกสีชมพูร่วมงาน เนื่องจากเป็นความต้องการของพ่อดม

โดยวงการศิลปินและตลก เดินทางร่วมงาน อาทิ หม่ำ เท่ง โหน่ง เป็นเจ้าภาพ, ป๋าเทพ โพธิ์งาม, โจอี้ กาน่า, ถั่วแระ เชิญยิ้ม, โก๊ะตี๋ อารามบอย, โย่ง เชิญยิ้ม, ซูโม่กิ๊ก, เด๋อ ดอกสะเดา, เปิ้ล นาคร, สุนารี ราชสีมา ซึ่งก่อนจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมในเวลา 19.00 น. ก็มีวงดนตรีปี่พาทย์เล่นคลอตลอดงาน

นอกจากนี้ โก๊ะตี๋ และ ถั่วแระ ยังได้นำร้านอาหารของตัวเองมาช่วยภายในงาน เพื่อแจกให้กับคนที่ร่วมงานในวันนี้อีกด้วย

ด้าน แจ๊ส ชวนชื่น ลูกชายของพ่อดม เปิดเผยว่า ดีใจที่ทุกคนร่วมใจกันใส่สีชมพูอย่างที่พ่อหวังไว้ ทำให้สภาพจิตใจของคนในครอบครัวดีขึ้น เนื่องจากบรรยากาศไม่ได้โศกเศร้า อีกทั้งยังอยากให้พ่อไปสบายจึงพยายามเข้มแข็ง ส่วนลูกคนที่ 15 ก็ยังคงไม่ปรากฎตัว แต่ส่วนตัวก็คิดว่าถ้ามีก็ไม่แปลก เพราะครอบครัวพ่อใหญ่มาก ทั้งนี้ พ่อดมยังไม่ได้มาหา เพราะวันที่แต่งหน้าศพ ตนได้จับมือแล้วบอกว่า ไม่ต้องมาหานะ จะนอน ให้มาวันว่าง ๆ ไม่ใช่มาตอนนี้

ส่วนที่ค่ารักษาสูงถึง 5 ล้านบาท ตามที่ดีเจเชาเชา เคยให้สัมภาษณ์ไว้นั้น แจ๊ส ชวนชื่น บอกว่าไม่แน่ใจ เพราะให้ภรรยาเป็นคนจัดการ แต่ก็ยอมรับว่าค่อนข้างเยอะ พี่น้องทุกคนก็ช่วยกัน ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นลูกจะขายรถ ขายบ้าน เพื่อนรักษาพ่อ ต่อให้เป็นหนี้ เป็นสิน ก็ต้องยอมเพื่อให้พ่อหาย และยอมรับว่าตอนแรกก็มีหวัง แต่พอรักษาไปเรื่อย ๆ ก็คิดในใจว่า พ่อตายแน่ ๆ แต่เมื่อไรไม่ทราบ จึงได้ทำใจกันมาสักพักแล้ว และคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว

ด้าน ถั่วแระ เชิญยิ้ม ที่นำร้านอาหารของตัวเองมาช่วยด้วย เปิดเผยว่า ตนอาจจะเป็นคนที่โชคดีที่สุด ที่บังเอิญไปโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า แล้วพยาบาลทักว่า "ไม่ไปเยี่ยมพ่อดมหรอ" ซึ่งตนก็รู้มาระยะหนึ่งแล้วว่าพ่อดมป่วย แต่ไม่ได้รู้ว่าเป็นอะไร ซึ่งตนได้ไปหาถึง 2 ครั้ง เมื่อสัปดาห์ก่อน และวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนที่วันจันทร์ พ่อดมจะเสียชีวิต ส่วนตัวรู้สึกว่าครอบครัวน่าจะบอกคนในวงการบ้าง เพื่อที่จะได้มีคนไปเยี่ยมเยอะ ๆ อย่างน้อยน่าจะช่วยยืดระยะเวลาได้ไปอีกหน่อย เพราะได้กำลังใจจากศิลปินตลกหลาย ๆ ท่าน สำหรับอาการของพ่อดม เมื่อตอนที่ตนไปเยี่ยมวันสุดท้าย ท้องของพ่อดมป่องมาก เหมือนพร้อมจะแตก อีกทั้งพ่อดมยังจำตนไม่ได้แล้ว พูดได้แค่ว่าปวดท้อง หรือปวดปัสสาวะเท่านั้น ซึ่งตนรู้แล้วว่าไม่รอดแน่ ๆ เนื่องจากพี่ชายของตน ก็เป็นโรคนี้เหมือนกัน ตนรู้สึกว่าโชคดีกว่าศิลปินตลกในวงการท่านอื่น เพราะได้มีโอกาสไปเยี่ยม ได้สัมผัสมือพ่อ เอามาทาบที่หน้า ได้บอกให้พ่อสู้ ๆ วันแรกที่ไปเยี่ยม พ่อยังชู 2 นิ้วให้ ซึ่งตนก็สัมผัสได้ว่าพ่อดมสู้ แต่ร่างกายไม่ไหวแล้ว หน้าตาไม่ได้สดใสเหมือนที่เคยเห็นกัน ค่อนข้างผอมมาก และเปลี่ยนไปเยอะ สุดท้าย หากดวงจิตของพ่อดมยังอยู่ ก็อยากจะบอกว่า พ่อสบายแล้ว หมดห่วงแล้ว นอนหลับให้สบาย ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย คอยช่วยเหลือลูกคนไหน เพราะทุกคนเอาตัวรอดได้หมดแล้ว แล้วเมียพ่อก็ไม่ต้องห่วง เขาคงไม่มีคนใหม่ เพราะแก่กันหมดแล้ว