เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 มกราคม 2565 ที่ ม.12 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เกิดเหตุเพื่อนบ้านได้ก่อเหตุชักปืนยิงใส่เจ้าของบ้าน ทราบชื่อนายพงศ์สันติ์ วงศ์โสภา อายุ 42 ปี บาดเจ็บสาหัส ต่อมากู้ภัยได้นำส่ง รพ.กาญจนดิษฐ์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์ ชุดสืบสวน สภ.ดอนสัก ได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ โดยผู้ก่อเหตุคือ นายธีรภัทร สังข์โชติ อายุ 19 ปี เป็นเพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิต
วันที่ 19 ม.ค. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณบ้านพักของผู้เสียชีวิต ตั้งอยู่ที่บ้าน ม.12 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียว ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายของชำ บริเวณบานประตูเหล็กพับ บริเวณถังดับเพลิงมีร่องรอยถูกยิงจากปืนชนิดลูกซองสั้น ลักษณะเป็นลูกกระสุนหัวกระจาย เพราะยิง 2 นัด แต่รอยกระสุนกระเด็นไปหลายจุด บริเวณถนนหน้าบ้าน มีรอยช็อกสีขาว ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุยืนยิงเข้าไปในบ้าน ส่วนบริเวณที่ผู้ตายนอนเสียชีวิต อยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้าบ้าน
นางสาวจุรีรัตน์ ธูปแจ้ง อายุ 37 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 18.30 น. ตนกำลังนั่งคุยกับเพื่อนบ้านเป็นผู้หญิงอยู่ที่หน้าบ้าน ส่วนลูกชายของตนกับหลานชายของเพื่อนบ้านกำลังขี่จักรยานเล่นกันอยู่ ขณะนั้นได้มีกระสุนปืนสาดเข้าที่หน้าบ้าน ด้วยความตกใจ ตนกับเพื่อนบ้านจึงอุ้มลูกหลานหลบเข้าไปในบ้าน ส่วนผู้ตายเดินออกมาดูเหตุการณ์ที่หน้าบ้านพอดี จึงถูกยิงเข้าที่หน้าอกได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อน เมื่อตนเห็นเช่นนั้นก็รีบแจ้งกู้ภัย และพาผู้ตาบไปส่งที่โรงพยาบาลทันที แต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ตอนแรกตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิง เพราะตอนเกิดเรื่องตนไม่ทันได้มอง และมัวแต่วิ่งหลบกระสุน เลยมาทราบในภายหลังจากเจ้าหน้าที่ว่าเป็นนายธีรภัทร เด็กข้างบ้าน ส่วนสาเหตุตนก็มาทราบจากพี่สาวของผู้ก่อเหตุว่ายิงเพราะผู้ตายไปขู่ให้ช่วยงานพ่อแม่ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าผู้ตายไปขู่อย่างไร เพราะตนไม่เคยเห็นมาก่อน และตอนที่ผู้ก่อเหตุมาซื้อของ ตนก็ไม่ทันได้สังเกต ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าผู้ตายไม่เคยมาเรื่องกับผู้ก่อเหตุมาก่อน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไปเพราะอะไร
เวลาประมาณ 16.00 น. ญาติพี่น้องได้รับร่างของผู้เสียชีวิต ลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าเสียใจ โดยทันทีที่นำร่างของผู้เสียชีวิตลงมาจากรถ ทั้งภรรยา น้องสาว รวมถึงญาติพี่น้องก็พากันร้องไห้ ก่อนที่พระสงฆ์และญาติจะทำพิธีอัญเชิญวิญญาณตามประเพณีท้องถิ่นที่หน้าศพ
เวลาประมาณ 16.30 น. ได้แต่งตัวให้กับร่างของผู้เสียชีวิต ก่อนจะเริ่มพิธีรดน้ำศพ ญาติพี่น้องจะยังไม่นำศพลงไปในโลงศพ และจะนำลงไปในโลงศพ ในเวลาเที่ยงคืน
ทีมข่าวเดินมาที่บ้านพัก ของนายธีรภัทร สังข์โชติ อายุ 19 ปี ผู้ก่อเหตุ ห่างจากบ้านของผู้เสียชีวิตประมาณ 50 เมตร มีป่ายางกั้นอยู่บริเวณด้านหลังบ้าน จากการสอบถามญาติพี่น้อง ทราบว่าเป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุได้ยิงปืนขึ้นฟ้า ก่อนที่จะเดินมายิงปืนเข้าไปในบ้านของผู้เสียชีวิต
นางสาวมลฤดี สังข์โชติ อายุ 27 ปี พี่สาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ตอนที่เกิดเหตุทุกคนออกไปทำงานที่สวนยางกัน และผู้ก่อเหตุอยู่กับพ่อที่บ้านกันเพียง 2 คน จากการสอบถามผู้ก่อเหตุและพ่อเล่าเพียงว่าผู้ก่อเหตุได้ไปซื้อไข่กับปลากระป๋องที่บ้านของผู้ตาย และผู้ตายได้กล่าวเตือนว่าให้ช่วยงานพ่อแม่บ้าง ทั้งที่ผู้ก่อเหตุกำลังก็เริ่มช่วยงานพ่อแม่แล้ว และอยู่ในระหว่างการปรับตัวอยู่ ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่มาวุ่นวาย เลยปาของที่ซื้อทิ้งลงพื้น พร้อมกับสั่งไม่ให้คนในบ้านไปซื้อของอีก
จากนั้นเวลาประมาณ 18.30 น. ผู้ก่อเหตุได้หยิบปืนเดินไปที่หลังบ้าน พร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด และเดินไปที่หน้าบ้านของผู้ตาย พร้อมกับยิงปืนไปที่หน้าบ้านของผู้ตาย ขณะนั้นผู้ตายกำลังเดินมาที่หน้าบ้านพอดี จึงถูกยิงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุได้มอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุเป็นคนนิ่งเงียบ และไม่เคยเล่าปัญหาส่วนตัวให้ฟัง แต่เคยพูดเป็นลางทำนองว่าให้ตนระวัง เพราะช่วงกลางคืนได้ยินเสียงคนมาเดินอยู่รอบบ้าน ซึ่งส่วนตัวก็ได้ยินเช่นกัน แต่ไม่ทราบว่าคนที่มาเดินรอบบ้านเป็นใคร
ส่วนเรื่องยาเสพติด ผู้ก่อเหตุเคยเสพยาจริง และเมื่อปีที่แล้วเคยติดคุก แต่ช่วงนี้เลิกเสพยามาสักพักแล้ว ปรับปรุงตัวมาช่วยงานกรีดยางให้ที่บ้าน ส่วนผู้ตายเป็นญาติพี่น้องกัน และเวลาผู้ก่อเหตุไปซื้อของก็มักจะกล่าวเตือนให้เลิกยา ให้ช่วยเหลือพ่อแม่ประจำ แต่ผู้ตายเป็นคนพูดจาโผงผาง อาจจะทำให้ผู้ก่อเหตุเก็บกดและรับไม่ได้ ทั้งนี้ ญาติพี่น้องคงจะไม่ประกันตัว เพราะผู้ก่อเหตุตั้งใจที่จะก่อเหตุ และทางบ้านไม่ได้มีฐานะ ส่วนตัวไม่เคยเห็นผู้ก่อเหตุจับปืนมาก่อน และเพิ่งจะมาทราบว่ามีปืนตอนที่เกิดเรื่อง แต่ชาวบ้านเคยมาเล่าให้ฟังว่าผู้ก่อเหตุเคยไปเที่ยว แล้วยิงปืนอยู่แถวบ้าน อีกทั้งช่วง 3-5 วันก่อนที่จะเกิดเรื่องมักจะนั่งลับมีดอยู่หลังบ้านด้วย
ล่าสุดเมื่อเช้านี้ ตนได้เข้าไปช่วยงานที่บ้านของผู้ตายแล้ว แต่ยังไม่ได้พูดคุยกัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่าผู้ก่อเหตุทำเกินไป แต่ถ้ามองในมุมของผู้ก่อเหตุ ตนก็เข้าใจว่าคนที่พยายามช่วงปรับปรุงตัว แต่กลับมาถูกคนอื่นกล่าวเตือนเช่นนี้ก็คงจะรับไม่ได้ และคงจะเก็บกดจนก่อเหตุดังกล่าว
ตำรวจ สภ.ดอนสัก ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นสาเหตุมาจากผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่ถูกกล่าวเตือนให้เลิกยา ก่อเหตุยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวบาดแผลบนลำตัวผู้ตายพบบริเวณหน้าอก คอขวาทะลุซ้าย หัวไหล่ซ้าย หน้าท้องซ้าย ส่วนผู้ก่อเหตุถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
Advertisement