ตำรวจ สภ.สิชล แจง ผบ.ตร. ปมปล่อยขี้ยาซ้อมเพื่อนบ้านออกมาฆ่าคนตาย

20 ม.ค. 65

ตำรวจ สภ.สิชล แจง ผบ.ตร. จากกรณีที่นายอดิศร หรือโป้ อายุ 28 ปี มักจะอาละวาดคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกาย จนได้รับความเดือดร้อนมายาวนาน และเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นางวิภา อายุ 66 ปี จนบาดเจ็บต้องหามส่งโรงพยาบาลสิชล เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายอดิศร ไปดำเนินคดีแต่กลับปล่อยตัวออกมา ก่อนจะไปดุด่านายวิโรจน์ อายุ 64 ปี พ่อเฒ่าชาวประมงคนดี ที่เป็นที่รักของชาวบ้าน และเป็นสามีของนางวิภา ผู้บาดเจ็บ และมีบ้านอยู่ใกล้กัน จนนายวิโรจน์ สุดทนนำปืนขนาด .32 ออกมาข่มขู่ให้หวาดกลัว

ทั้งนี้ นายอดิศร ได้ตรงเข้าไปทำร้ายนายวิโรจน์ และแย่งปืนมาได้ ก่อนรัวยิงจนหมดโม่ 6 นัด นายวิโรจน์ เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อ 18 ม.ค. ท่ามกลางความไม่พอใจของผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้าน ที่มองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับนายอดิศร ทาสยานรกไปแล้วกลับปล่อยออกมาก่อเหตุยิงคนตาย

ล่าสุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ประชุมผู้บังคับการตำรวจทุกจังหวัด สอบถาม พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ในขณะที่ทางญาติและผู้นำ ผู้บริการองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นได้นัดรวมตัวประท้วงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิชล ในช่วงเวลา 13.00 น.วันเดียวกันนี้ ที่ตำรวจจะควบคุมตัวนายอดิศร มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ด้าน พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบกผ.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้ชี้แจง ผบ.ตร.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปแล้ว ถึงกรณีที่ตำรวจจับนายอดิศร ผู้ต้องที่อาละวาดก่อความวุ่นวายและทำร้ายร่างกายนางวิภา จนบาดเจ็บ เพราะหลังการจับกุมตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหาก่อความวุ่นวาย

ส่วนคดีทำร้ายร่างกายยังไม่ได้รับเป็นคดี โดยจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง และเมื่อมีการเปลี่ยนเวร พนักงานสอบสวนคนใหม่เห็นว่านายอดิศร ถูกจับกุมในข้อหาก่อเหตุวุ่นวาย และอาการต่าง ๆ เป็นปกติแล้ว จึงสั่งปรับตามกฎหมายและปล่อยตัวไป เนื่องจากในคดีก่อความวุ่นวายถือว่าไม่ได้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ทางตำรวจไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้เกินจากที่กฎหมายกำหนดจึงปล่อยตัวไป จนกระทั่งสายของวันที่ 18 ม.ค. ได้ไปเกิดเหตุแย่งปืน และยิงนายวิโรจน์จนถึงแก่ความตายดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- งามหน้า! ตร.ปล่อยขี้ยาซ้อมเพื่อนบ้าน ตกบ่ายย้อนฆ่าเจ้าของตาย (คลิป) 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส