อังกฤษ คลายมาตรการคุมโควิด ไม่บังคับสวมแมสก์ ยกเลิกพาสปอร์ตโควิด ไม่ต้องทำงานที่บ้าน ชี้การระบาด โอมิครอน ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
วันที่ 19 ม.ค.65 นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่บังคับสวมหน้ากาก ร่วมงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องโชว์พาสปอร์ตโควิด และไม่บังคับทำงานที่บ้าน โดยระบุว่า การระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
ทางการยกเลิกการบังคับใช้มาตรการทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home และจะเลิกบังคับให้เด็กในโรงเรียนมัธยมศึกษา สวมใส่แมสก์ในห้องเรียนตั้งแต่วันนี้ (20 ม.ค.) ขณะที่การเข้าร่วมอีเวนท์ขนาดใหญ่ หรือการเข้าไนต์คลับไม่จำเป็นต้องแสดงพาสปอร์ตโควิด และจะไม่มีการบังคับสวมใส่แมสก์ในที่สาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.
ทั้งนี้มาตรการควบคุมโควิด ถูกประกาศบังคับใช้งานเมื่อเดือน ธ.ค.64 เพื่อป้องกันการระบาดของโควิดโอมิครอน และซื้อเวลาให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ได้มากที่สุด โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า ประชากรสหราชอาณาจักรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วกว่า 90%
ขณะที่ทางการพบอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศลดลงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ธ.ค.64 โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่วันที่ 19 ม.ค.65 อยู่ที่ 108,069 รายซึ่งน้อยกว่ายอดผู้ติดเชื้อช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมากว่าครึ่งหนึ่ง
อย่างไรก็ดีมาตรการที่กำหนดให้ผู้ติดเชื้อโควิดต้องกักตัว 5 วันยังมีผลบังคับใช้ แต่รัฐบาลมีแผนที่จะยกเลิกข้อกำหนดตามกฎหมายที่ให้ผู้ติดเชื้อโควิดต้องกักตัว หลังจากกฎข้อบังคับต่าง ๆ ว่าด้วยการกักตัวของผู้ติดโควิดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะหมดอายุลงในวันที่ 24 มี.ค.นี้ โดยนายจอห์นสัน ระบุว่า เขาจะไม่ต่ออายุข้อกำหนดเหล่านี้ หรืออาจขยับวันสิ้นสุดของข้อบังคับนี้ให้เร็วขึ้น
ขณะเดียวกันด้านสกอตแลนด์และเวลส์ ซึ่งมีมาตการด้านสาธารณสุขของตนเอง ก็ได้ประกาศการผ่อนคลายมาตรการที่คล้ายคลึงกัน