บางพลีระทึก ดินสไลด์ ดึงบ้านเรือนประชาชนพังราบ คนหนีตายจ้าละหวั่น

ชาวบ้านบางพลี จ.สมุทรปราการ นับร้อยชีวิต อพยพหนีตายจ้าละหวั่น หลังเกิดเหตุดินสไลด์บ้านทรุดพังหลายหลัง

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (20 ม.ค.65) เกิดเหตุดินสไลด์ริมบ่อดินขนาดใหญ่ในพื้นที่ของชุมชนป้าบุญล้อม หมู่ที่ 15 ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นในช่วงค่ำดินที่ทรุดตัวได้ดึงเอาบ้านเรือนของชาวบ้านกว่า 20 หลังคาเรือน ทยอยพังพินาศราบเป็นหน้ากลอง ก่อนจะมีการสั่งอพยพคนและสิ่งของออกจากพื้นที่มายังจุดปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องรวมถึงอาสาสมัครหลายหนวยงานต่างระดมเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งสั่งปิดกั้นพื้นที่เนื่องจากยังคงมีการลั่นของพื้นคอนกรีตและเกิดการทรุดอย่างต่อเนื่อง

ด้านชาวบ้านที่พักอาศัยในจุดเกิดเหตุบอกว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกเป็นห้องพักแบบห้องแถวชั้นเดียวปลูกติดกัน 12 หลัง ทางผู้รับเหมานำรถแบ็กโฮมาตักดินเพื่อซ่อมแซมแนวดินกั้นคลอง แต่ด้วยที่บริเวณตลิ่งเป็นดินนิ่มจึงทำให้ดินสไลด์มาเรื่อยๆ และรุนแรงมากขึ้นในช่วงหัวค่ำ

ด้านนายชนินทร์ รุ่งเรือง อดีตนายก อบต.บางปลา ออกมาระบุว่า บ่อดินแห่งหนี้คาดว่าจะมีเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 3-4 ร้อยไร่ โดยมีการขออนุญาตถูกต้องจาก อบต.บางปลา เมื่อหลายสิบปีก่อนเพื่อประกอบกิจการตักดินขาย ซึ่งมีนายทุนที่ทราบชื่อเล่นว่าเสี่ยโย่ง จากนั้นมีการขยายกิจการด้วยการซื้อที่ดินในละแวกนั้นเพิ่มเพื่อตัดดินขาย ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านระบุว่ามีการขุดลึกลงไปจากพื้นดินปกติไม่ต่ำกว่า 100 เมตร ซึ่งจากใบอนุญาตให้ประกอบกิจการนั้นมีระเบียบการดำเนินการวางไว้อยู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปตรวจสอบอีกครั้งว่ามีการทำผิดระเบียบที่ขออนุญาตไว้หรือไม่ ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากปริมาณน้ำในคลองที่ลดลงทำให้ดินเกิดการขยายตัวจนเกิดการสไลด์ดังกล่าว

ขณะที่บรรยากาศช่วงเช้าวันนี้พบว่าผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากบ้านพังเสียหายและไร้ที่อยุ่อาศัยต่างพากันมายืนมองซากบ้านของตนเองด้วยความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นพื้นที่และถูกประกาศเป็นพื้นที่อันตราย โดยคาดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าสำรวจและเร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ

นายพงศ์พันธ์ มามาก เจ้าของที่ดินแปลงที่ให้เช่าเปิดเผยว่า ที่ดินที่บ้านของผู้ที่ได้รับผลกระทบนี้ตนเองเปิดให้เช่าที่ปลูกที่พักอาศัยมายาวนานหลายสิบปีแล้ว ซึ่งมีการปลูกบ้านพักกว่า 30 หลังในลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกติดกัน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่ามีสัญญาณเตือนตั้งแต่ช่วงวันที่ 17 ม.ค.65ที่ผ่านมา บ้านเริ่มแตกร้าวและมีการทรุดตัวบางจุด จนผู้ประกอบการบ่อดินได้เข้ามาพูดคุยแล้วครั้งนี้และรับปากว่าจะหยุดตักดินขายชั่วคราวแต่ก็ไม่ได้หยุดประกอบกิจการแต่อย่างใดและยังคงเดินหน้าตักดินขายต่อเนื่อง จนกระทั่งมีการตักเข้ามาชิดแนวคันคลองจนเกิดรอยรั่วของคันคลองในช่วงบ่ายของวานนี้ จากนั้นเริ่มขยายวงกว้างบ้านตนเองซึ่งอยู่แนวหน้าติดลำคลองเริ่มมีเสียงลั่นและรอยแตกร้าวมากขึ้น จึงตัดสินใจเร่งขนย้ายข้าวของออกจากบ้านจากนั้นผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เกิดพังทลายลงเป็นหลังแรกแล้วตามมาอย่างต่อเนื่องจนพังเสียหายไปหลายหลัง ถามว่าเสียใจไหมก็คงเสียใจแต่ก็สงสารชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมากกว่าเพราะแทบจะสิ้นเนื้อประดาตัวไร้ที่อยู่อาศัย