เมสเซนเจอร์ช้ำรักบุกยิงสาว อึ้งตกบันไดช่วยรอด ญาติมือปืนช็อกปลิดชีพตัวตาม

24 ม.ค. 65

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 มกราคม 2565 พ.ต.ท.ธนพรหม ธนอาภากร รองผกก.สส.สน.สามเสน ได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณอาคารบ้านพักองค์การสวนสัตว์ ซอยสามเสน 28 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิเพชรเกษม

569532

ที่เกิดเหตุบริเวณภายในห้องพักชั้น 5 พบเพียงคราบเลือด ส่วนคนเจ็บทราบชื่อ น.ส.มาลีนี โคตุลามา อายุ 33 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ใบหน้าและต้นแขนขวาได้รับบาดเจ็บ อาสาสมัครมูลนิธิเพชรเกษมนำส่งโรงพยาบาลบางโพ

459134

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีชายชื่อ นายรุ่งอรุณ หรือ ต่อ สังข์วงษ์ เดินมายังอาคาร 1 ของแฟลตดังกล่าว แล้วกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้น 5 เดินตรงไปยังห้องเกิดเหตุ แล้วถามหา น.ส.มาลินี ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายในห้องน้ำ ผู้ก่อเหตุจึงได้เคาะประตูห้องเรียกให้ออกมา เมื่อออกเจอหน้า นายรุ่งอรุณได้ใช้อาวุธปืนขนาด .380 มม. ยิงใส่ผู้บาดเจ็บจำนวน 3 นัด กระสุนถากที่ใบหน้า 1 นัด และใต้ต้นแขนขวา 1 นัด ก่อนที่นายต่อจะเดินไปกดลิฟต์เพื่อลงจากชั้น 5 และได้หลบหนีไป

345923

โดยก่อนเกิดเหตุผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ก่อเหตุ เป็นเพื่อนร่วมงานกันที่บริษัท และมีความสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง โดย น.ส.มาลินีทำงานในตำแหน่งธุรการ ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นพนักงานเดินเอกสาร ต่อมา น.ส.มาลินี ซึ่งมีครอบครัวอยู่แล้ว ได้พยายามตีตัวออกห่าง ทางผู้ก่อเหตุมีความโกรธแค้น จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว

708944

ต่อมาเวลา 17.30 น. ร.ต.อ.พงศธร วชิรโชติกุล รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุยิงตัวเองบาดเจ็บสาหัส ซอยงามวงศ์วาน 47 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ รุดไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุภายในห้องพัก พบร่างนายรุ่งอรุณ สังข์วงษ์ หายใจรวยริน มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .380 มม. เข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด ข้างตัวพบอาวุธปืนออโต้เมติก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่ง รพ.มงกุฎวัฒนะ ผ่าตัดช่วยชีวิต อาการยังสาหัส

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้บาดเจ็บกลับมาจากข้างนอก พูดจาลักษณะสั่งเสียกับหลานชาย ก่อนเข้าไปในห้องพักที่เกิดเหตุและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

888500

ล่าสุด วันที่ 24 ม.ค. 65 เมื่อเวลา 12.00 น. พี่สาวคนโตของนายรุ่งอรุณ คือนางน้ำค้าง ได้เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เพื่อนำศพของนายรุ่งอรุณไปบำเพ็ญกุศลที่วัดแหลมหว้า ตำบลเสือโฮก อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท บรรยากาศในการรับศพเป็นไปด้วยความเงียบเหงา โดยทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเป็นคนยกศพของนายรุ่งอรุณขึ้นรถของมูลนิธิกู้ภัยร่วมร่วมกตัญญู

907887

นางน้ำค้าง บอกเพียงว่า ไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ขอตอบ เนื่องจากเรื่องนี้จบลงแล้ว ส่วนตัวไม่เคยรู้จักกับ น.ส.มาลินี เพราะทางครอบครัวต่างคนต่างอยู่ วันนี้จะนำศพน้องชายไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดที่จังหวัดชัยนาท

100277

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุอีกแห่ง ที่นายรุ่งอรุณยิงตัวเองตาย บ้านพักของพี่เขย ในซอยงามวงศ์วาน 47 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ นายจิตร อายุ 55 ปี พี่เขยของนายรุ่งอรุณ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ตอนเกิดเหตุช่วงประมาณ 17.00 น. นายรุ่งอรุณขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้านพักตามปกติ โดยไม่ได้มีพิรุธหรือมีท่าทางที่บงบอกว่าไปก่อเหตุยิงใครมา แล้วก็ไม่ได้ได้มีท่าทางหรือบอกอะไรว่าจะกลับมายิงตัวเองตาย ซึ่งก่อนที่นายรุ่งอรุณจะออกไปก่อเหตุ ก็ไม่ได้บอกกับใครในบ้าน เพราะที่ผ่านมา นายรุ่งอรุณ ไม่เคยบอกกับครอบครัวว่ามีปัญหาอะไรกับ น.ส.มาลินี มาก่อน

551609

โดยทางครอบครัวรู้เพียงว่าเขาคบหากัน เนื่องจากนายรุ่งอรุณ เคยพา น.ส.มาลินี มาที่บ้านพัก แต่ไม่เคยรู้ปมเหตุที่นายรุ่งอรุณไปก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งระหว่างเขาคบหากันก็ไม่เคยทะเลาะหรือมีปัญหาอะไรให้ทางครอบครัวเห็น ส่วนนายรุ่งอรุณไม่ได้เป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่คิดว่าจะไปก่อเหตุแบบนี้

338672

ภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นภาพขณะที่นายรุ่งอรุณกำลังขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามเส้นทาง ออกมาจากที่เกิดเหตุในจุดที่เข้าไปบุกยิง น.ส.มาลินี จากซอย องครักษ์ 12 ถึงปากซอยสามเสน 28 ซึ่งในภาพจะเห็นว่านายรุ่งอรุณไม่ได้สวมมวกกันน็อกดและขี่รถไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนภาพวงจรปิดอีกมุมเห็นภาพสุดท้ายของนายรุ่งอรุณขี่รถผ่านหน้ากล้องเข้าไปยิงตัวตายที่บ้านพักของพี่เขย ในท้องที่ทุ่งสองห้อง

924336

นายยุทธภูมิ ผดุงโภชน์ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม จุดสามเสนที่เข้าไปช่วยชีวิต น.ส.มาลินี เล่าว่า ได้รับแจ้งตอน 16.30 น. ว่ามีเหตุยิงกันจึงเดินทางเข้าไปในที่เกิดเหตุ พอไปถึงก็พบ น.ส.มาลินี ผู้บาดเจ็บ นอนรอการช่วยเหลืออยู่ที่บันได ใกล้กับห้องพัก บริเวณชั้น 5 ในสภาพมีเลือดไหลที่ใบหน้าและแขนข้างขวา จึงทำการช่วยเหลือ เบื้องต้นในการห้ามเลือด ขณะนั้น น.ส.มาลินี มีสติพูดจารู้เรื่อง และถามว่าตัวเองจะตายหรือไม่ เนื่องจาก น.ส.มาลินี มีอาการแน่นหน้าอก

จากการตรวจสอบบาดแผล เป็นบาดแผลที่ถูกยิงถากที่ใบหน้าและแขนเท่านั้น และในที่เกิดเหตุยังพบลูกชายของ น.ส.มาลินี ยืนดูอาการแม่อยู่ บอกแค่เพียงว่าหลังแม่ถูกยิง แม่ร้องให้ช่วยเท่านั้น จากการสอบถามผู้อาศัยใกล้กับห้องที่เกิดเหตุ ก็ให้ข้อมูลเพียงว่า ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ แต่ได้ยินเสียงปืนหลายนัด ไม่มีใครกล้าออกไปดู ส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างจะอุกอาจ โชคดี ที่ตอนเกิดเหตุ น.ส.มาลินี ตกบันไดทำให้ผู้ก่อเหตุยิงไม่ถูกจุดสำคัญ ตอนนี้อาการของ น.ส.มาลินี ปลอดภัยแล้ว และทางครอบครัวยังไม่ขอให้ข้อมูล นื่องจากยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส