ทีมสายไหมต้องรอด รุดลงพื้นที่ จ.สระแก้ว กลางดึก ช่วยเยาวชนไทยพ้นเงื้อมมือแก๊งค้ามนุษย์ในกัมพูชา ถูกทรมานบังคับให้ทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทย
กลางดึกคืนที่ผ่านมา (24 ม.ค.65) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงานได้เดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ที่อำเถอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อช่วยเหลือเด็กชายอายุ 18 ปี ลูกบ้านซอยพหลโยธิน 52 เขตสายไหม กทม หลังถูกหลอกไปทำงานในบ่อนพนันที่ประเทศกัมพูชา สุดท้ายถูกทรมานบังคับให้ทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทย โดยมีนายหน้าชาวไทยร่วมขบวนการ
นายเอกภพ กล่าวว่า เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ตนได้รับการร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากนางเอ(นามสมมติ) ลูกบ้านซอยพหลโยธิน 52 เขตสายไหม ว่า นายบี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี บุตรชายถูกแก๊งค้ามนุษย์หลอกพาไปทำงานในประเทศกัมพูชา ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือมาว่าตอนนี้ถูกซ้อมทรมานและบังคับให้ทำงานในบริษัทแอปฯ เงินกู้เถื่อนของแก๊งค้ามนุษย์ชาวจีน โดยคนไทยที่ถูกหลอกมาทั้งหมด จะถูกบังคับให้ทำงานหลอกลวงคนไทยด้วยกันเอง หากใครไม่ทำจะถูกซ้อมทรมานจนถึงแก่ความตาย บางรายถูกแก๊งค้ามนุษย์ชาวจีนขายต่อไปเป็นทอดๆเยี่ยงสัตว์ หากเป็นผู้หญิงจะถูกขายต่อไปที่ซ่องนรก ถูกบังคับให้รับแขกทั้งวันทั้งคืน
ภายหลังรับแจ้ง นายเอกภพ ได้ประสานไปยังกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตไทยในกัมพูชา เพื่อขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าช่วยเหลือเหยื่อโดยเร็วที่สุด พร้อมกันนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายบี เหยือแก๊งค้ามนุษย์ จนสามารถติดต่อได้ ทำให้ทราบว่า นายบี ถูกหลอกมาทำงานตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยเดินทางจากประเทศไทยเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ มีนายหน้าชาวไทยเป็นคนติดต่อพามาส่งให้แก๊งค้ามนุษย์มาเฟียชาวจีนที่ประเทศกัมพูชา ขณะนี้ถูกขังอยู่ที่อาคารแห่งหนึ่งในปอยเปต ร่วมกับเหยื่อคนไทยอีกกว่า 100 คน โดยอาคารดังกล่าวจะมีแก๊งมาเฟียค้ามนุษย์ชาวจีนเป็นคนคุม คนไทยทั้งหมดจะถูกบังคับให้ทำงาน ในลักษณะคอลเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่เป็นตัวละคนต่างๆ เช่น ตำรวจ อัยการ ทนายความ จนท.กรมสอบสวนคดีพิเศษ จนท.ปปส. ฯลฯ ทำหน้าที่หลอกลวงชักจูงคนไทยให้หลงเชื้อในกลโกงต่างๆที่แก๊งชาวจีนเป็นคนคิดกลอุบายขึ้นมีคนไทยถูกหลอกจนหมดตัวมาแล้วเป็นจำนวนมาก
นอกจากกลอุบายหลอกเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว ยังมีขบวนการเว็บปล่อยเงินกู้ แอปพลิเคชั่นปล่อยเงินกู้ ที่หลอกคนไทยให้เข้าไปลงทะเบียนเพื่อทำเรื่องกู้ยืมเงิน สุดท้ายจะถูกหลอกให้มีการโอนเงินค้ำประกัน โอนเงินสร้างเครดิต เช่นหากต้การจะกู้เงิน 300,000 บาท เหยือจะถูกหลอกให้โอนเงินค้ำประกันจำนวน 30,000 บาทไปก่อนเพื่อค้ำประกันวงเงิน เมื่อเหยื่อโอนไปแล้ว แก๊งมิจฉาชีพจะออกอุบายว่ากำลังจะโอนเงิน 300,000 มาให้ แต่เครดิตเหยื่อไม่ดี ต้องโอนเงินมาสร้างเครดิตเพิ่มอีก 30,000 บาท ถึงจะได้เงิน 300,000 บาท หากเหยือยอมโนมาให้ แก๊งมิจฉาชีพก็จะอ้างเรื่องอื่นๆเพื่อให้หาเงินโอนมาอีกจนเหยือหมดตัว
โดยเหตุการณ์ที่นายบีสะเทือนใจที่สุดคือ มีชายไทยคนหนึ่ง พักอาศัยอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี ติดต่อเข้ามาเพื่อขอกู้เงินจำนวน 235,000 บาท เพื่อจะนำเงินพาแม่ไปผ่าตัดรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยมีค่าใช้จ่ายในการรักษาประมาณ 300,000 บาท แต่ชายไทยคนดังกล่าวแจ้งว่ามีเงินติดตัวอยู่ 65,000 บาท จึงขอกู้เงินแค่ 235,000 บาท เพื่อจะนำไปรักษาแม่ที่ป่วย แต่กลับถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินไปค้ำประกันจนหมดตัว เมื่อชายไทยคนดังกล่าวรู้ว่าถูกหลอก จึงได้โทรวีดีโอคอลมาหาแก๊งมิจฉาชีพชาวจีน เพื่อขอคืนเงินเนื่องจากเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่จะต้องนำไปรักษาแม่ที่ป่วย แต่ถูกแก๊งมิจฉาชีพปฏิเสธ พร้อมด่าทอว่าโง่ ต่างๆนาๆ สุดท้ายชายไทยคนดังกล่าว ได้หยิบอาวุธปืนขึ้นมาแล้วจอยิงที่ขมับตัวเองขณะที่ยังคุยวีดีโอคอลอยู่ต่อหน้าแก๊งมิจฉาชีพ ซึ่งทุกเหตุการณ์ นายบี ได้อยู่และเห็นเหตุการด้วยทั้งหมด หลังจากเกิดเหตุ นายบี ปฏิเสธการทำงานในลักษณะดังกล่าว จึงถูกแก๊งค้ามนุษย์ชาวจีนเตรียมขายส่งไปยัง เมืองสีหนุวิลล์ ช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ ซึ่งคนไทยที่นั้นรู้ดีว่าใครก็ตามที่ถูกขายไปที่เมืองสีหนุวิลล์ โอกาสที่จะรอดชีวิตกลับมามีน้อยมาก
นายเอกภพ กล่าวต่อว่า จากนั้นนายบี ได้ติดต่อมาที่ตน โดยแจ้งว่าวันนี้มีตำรวจกัมพูชา เดินทางมาอาคารที่ตนถูกขังอยู่ โดยคาดว่าตำรวจน่าจะมาตรวจสอบตามที่ตนแจ้งข้อมูลไว้กับทางกระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูต โดยนายบี แจ้งว่าหลังจากตำรวจกัมพูชา มาสอบถามอยู่ครู่หนึ่งก็ได้เดินทางกลับออกไป จากนั้นคนคุมชาวจีนได้เดินขึ้นมายึดเอกสารต่างๆของนายบี โดยนายบีได้ยินคนจีนคุยกับนายหน้าว่าต้องรีบขายนายบีออกไป นายบีจึงต้องรีบหลบหนีออกมาจากอาคารดังกล่าวโดยเร็วเนื่องจากหากช้ากว่านี้กลัวจะถูกขายไปยังเมืองสีหนุวิลล์ จนกระทั้งปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายบี ได้หลบหนีออกมาจากอาคารดังกล่าวโดยทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าและทรัพย์สินต่างๆ ไว้ที่ห้องทั้งหมดไม่สามารถนำติดตัวออกมาได้โดยก่อนจะหลบหนีนายบี ได้ส่งข้อความมาหาตนว่า "หากหนีออกมาแล้วถูกจับได้ผมคงถูกซ้อมจนตาย ถ้าผมไม่รอดกลับไป ฝากพี่ดูแลครอบครัวผมด้วยนะครับ"
จากนั้น นายบี ได้ติดต่อกับเพื่อนชาวกัมพูชา ให้ช่วยพาข้ามช่องทางธรรมชาติเพื่อหลบหนีกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากช่องทางปกติที่ผ่านด่าน ตม. จะถูกแก๊งค้ามนุษย์ชาวกัมพูชาเฝ้าไว้ทั้งหมด ก่อนหน้านี้เคยมีคนไทยหลบหนีออกมาแต่ถูกตำรวจกัมพูชาจับตัวได้และนำมาส่งให้กับแก๊งค้ามนุษย์ชาวกัมพูชา ทำให้คนไทยคนดังกล่าวถูกทำร้ายอย่างทารุณและถูกขายไปเมืองสีหนุวิลล์ ทำให้นายบี ไม่กล้าข้ามช่องทางปกติดังกล่าว จากนั้นนายบีได้มาหลบอยู่ที่ชายแดนเป็นเวลา 2 คืน
เมื่อได้เวลา นายบี ได้เดินลัดเลาะป่าข้ามช่องทางธรรมชาติ มาตามแนวชายแดนจนมาถึงฝั่งไทยในเวลาประมาณ ตี 2 โดยทีมสายไหมต้องรอด ได้เดินทางไปรับตัวนายบี พร้อมกับนางเอ มารดา ที่ฝั่งไทยในพื้นที่อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ทันทีที่นายบีเดินออกมาจากแนวป่า นางเอ มารดา ได้เดินเข้าไปกอดบุตรชายทั้งน้ำตา จากนั้นทีมสายไหมต้องรอดได้ตรวจ ATK นายบี เบื้องต้นผลเป็นลบ จึงพาตรวจ RT-PCR ที่ รพ.สินแพทย์ ลำลูกกา ผลเป็นออกมาเป็นลบเช่นกัน
โดยในเช้าวันนี้ 25 ม.ค.65 เวลา 10.00 น.นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน จะพานายบี เดินทางไปยังกระทรวงยุติธรรม เข้าพบ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นเรื่องขอรับการคุ้มครองพยาน เนื่องจากถูกข่มขู่จากแก๊งค้ามนุษย์ชาวจีนว่าถ้าหากเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งค้ามนุษย์จะส่งคนมาตามทำร้าย โดยหลังจากยื่นเรื่องคุ้มครองพยานแล้ว นายบีจะเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เป็นธุระจัดหาเหยือไปหลอกค้ามนุษย์ทั้งหมด พร้อมเตรียมเปิดเผยพฤติกรรมการโกงของแก๊งมิจฉาชีพชาวจีนทั้งหมดเพื่อไม่ให้คนไทยต้องตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เตือนผู้ปกครอง! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เริ่มหันหาเหยื่อที่เป็นเด็ก พูดขู่อ้างส่งของผิด กม. ไปต่างประเทศ
- พ้นขุมนรก! ตร.ช่วยคนไทยนับร้อยถูกขังเขมร เหยื่อขยาดงดรับจ็อบคอลเซ็นเตอร์ (คลิป)
- คนไทยนับร้อยพังประตูหนี ถูกแก๊งหลอกทำงานคอลเซ็นเตอร์ สุดโหดอุ้ม - เฆี่ยน - จับขายตัว (คลิป)