กลายเป็นดราม่าในโซเชียลมีเดีย เพราะมีชาวเน็ตใบ้ย่อใครกันเป็นแก๊ง "ดาราหอยทาก" พาขณะลูกทัวร์ไปไหว้ถ้ำนาคา แต่กลับทำตัว VIP แหกทุกกฎที่มี โดยชาวเน็ตพุ่งเป้าไปที่ "กาละแมร์ - พัชรศรี เบญจมาศ" เนื่องจากมีรูปที่เจ้าตัว พร้อมมีดอกไม้พานบูชาวางอยู่ด้วยที่หินข้าง ๆ
กระทั่งวันที่ 24 ม.ค.65 สาวกาละแมร์ ก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านไอจีว่า "เรียนชี้แจงทุกท่านค่ะ จากข่าวคราวดาราขึ้นถ้ำนาคาและมีเหตุการณ์ต่าง ๆ แมร์ขอชี้แจ้งว่า ไม่ใช่แมร์นะคะ เพราะทุกครั้งที่เดินขึ้นถ้ำนาคา เดินขึ้นไปด้วยความเคารพทั้งสถานที่ ไปหาพ่อปู่แม่ย่าด้วยศรัทธา ไปแบบมือเปล่า ไม่เคยจัดโต๊ะบวงสรวง ไม่มีเปิดเพลง แมร์ บินถึงสกลนครตอนสาย ๆ นั่งรถเริ่มขึ้นถ้ำประมาณบ่ายโมง ไกด์แนะนำให้ทำอะไรรอจุดไหน เราทำตามขั้นตอน เพราะเรามีความรักเคารพศรัทธาถ้ำนาคามาก ผู้คนมากมายก็มาด้วยศรัทธาเช่นกัน ทุกคนก็ปฏิบัติตามกฎ ตอนไปถึงจุดสักการะบนเขา กำลังเรียกคิวที่ 20 เราได้บัตรคิวที่ 64 ก็รอประมาณชั้วโมงครึ่ง จนถึงคิวของเรา จึงเดินเข้าและออกตามเวลาที่เจ้าหน้าที่จัดให้"
"ทุกจุดสักการะ จะมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมดูแล และคอยเร่งเรา เพราะเกรงว่าตอนลงจะมืด มีคิวก่อนหน้าเราเยอะมาก แต่แมร์ก็รอตามปรกติ เมื่อเราไปกันหลายคนก็พยายาม ไหว้รวมกลุ่มกัน เพื่อทำเวลาน้อยที่สุดในการสักการะ เพื่อให้คนต่อ ๆ มาได้สักการะต่อรวดเร็วที่สุด พี่ไกด์อาสาบอกว่า แมร์เดินขึ้นลงและไหว้ทุกจุดเร็วมาก จนไกด์บอกว่าช้าลงและพักบ้างก็ได้ ส่วนหมากพลู มีคนบนนั้นเขาใส่เป้ไป แบ่งมาให้ถือ เพื่อจบที่ศีรษะตอนไหว้ ไหว้เสร็จเขาก็เก็บกระทงหมากพลูไปไหว้กันต่อ นำกลับไปบูชาที่บ้าน มีไกด์ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะทุกคนต้องเก็บขวดน้ำ ข้าวของ โดยไกด์และลูกหาบประจำคณะจะดูแลทุกจุดอย่างใกล้ชิด"
"ถ้ำนาคาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ควรปฏิบัติด้วยความเคารพ ไม่อยากให้มีการสร้างความเข้าใจผิดหรือให้ข้อมูลอันไม่เป็นจริงค่ะ พี่ไกด์อาสาทุกคนที่ถ้ำนาคาเป็นลูกหลานพ่อปู่ ชาวบ้านแถวนั้นทำด้วยใจ เราเป็นคนเมืองไปบ้านเขาก็ควรอุดหนุนสินค้า ที่ชาวบ้านขาย เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านแถวนั้น เป็นการตอบแทนความเสียสละของทุกคนที่อนุญาตให้เราไปเยี่ยมบ้านของเขาค่ะ การไปทำบุญของแมร์ทุกครั้ง แมร์ถือว่าเราทำงานมา ต้องเสียสละ ละความตระหนี่เพื่อช่วยเหลือคน อย่างที่แมร์ตั้งใจทำในรายการแมร์มาเหมา ไปถ้ำนาคาครั้งที่ 2 นี้ แม่ค้าหน้าถ้ำก็บอกขายดิบขายดีขึ้น แมร์ดีใจที่รายการเล็ก ๆ ได้มีส่วนช่วยผู้คนที่เขาสู้ชีวิตได้ไปต่อ"
"เงินที่แมร์ทิปไกด์ เป็นสินน้ำใจที่เขาดูแลเราอย่างดี บ้างให้น้ำเย็น บ่างให้ขนม บ้างพัดให้ ช่วยเราถ่ายรูป เราก็อยากให้เงินเพื่อให้เขาได้เลี้ยงดูครอบครัว บางคนเป็นนักศึกษา น้องเขาก็จะได้มีค่าขนมของตัวเอง สุดท้ายนี้ทุกคนไปกราบสักการะที่ถ้ำนาคาด้วยต้องการไปทำบุญ และมีเคารพอย่างสูงสุดเสมอ อย่าได้ปล่อยข่าวใดที่ไม่จริงอีกเลยค่ะ ขอให้บารมีถ้ำนาคาคุ้มครองทุกท่านค่ะ #งงในงง #พักได้พัก"
ล่าสุดวันที่ 25 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวตรวจสอบว่าก่อนหน้านี้ มีดาราคนไหนบ้างที่ขึ้นไปกราบไหว้บนถ้ำนาคา จึงพบว่าคนดังอย่าง "เบลล่า ราณี" ก็พาคุณแม่ปราณี และผู้จัดการส่วนตัว เดินทางไปถึงถ้ำนาคาเพื่อพ่อปู่อือลือตามแรงศรัทธา เช่นเดียวกับ "มดดำ คชาภา" ก็ได้เผยภาพตัวเองและผู้ร่วมเดิน ขึ้นเขาอย่างมุ่งมั่น จนเดินไปถึงถ้ำนาคา ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้มีใครถือดอกไม้ไปไหว้ มีเพียงตัวเปล่าและของใช้ติดตัวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ทีมข่าวลงพื้นที่ยังไป กรมอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ บรรยากาศโดยทั่วไปก็มีนักท่องเที่ยวบางตา บางส่วนก็ลงมาจากภูลังกาบ้างแล้ว บางส่วนก็ยังไม่ลงมา จึงไปพบกับ
นายอารมณ์ ผาสีดา หัวหน้ากรมอุทยานภูลังกา เปิดเผยว่า กฎกติกาที่นักท่องเที่ยวต้องปฎิบัติตาม คือ ต้องจองคิวล่วงหน้า 60 วัน ผ่านแอปพิเคชัน QUEQ (QQ) จำกัดนักท่องเที่ยวจำนวน 500 คนต่อวัน ต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม ตามมาตราการของ ศคบ. ปกติแล้วจะไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวนำเครื่องบูชา ดอกไม้ ธูปเทียน โฟม เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ ถุงพาสติก และสิ่งอื่น ๆ ที่เป็นขยะ ยกเว้นน้ำดื่ม สิ่งของจำเป็น เท่านั้น และสิ่งที่นักท่องเที่ยวนำขึ้นไป เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระ เพียงแต่ให้คำแนะนำเท่านั้น
กรณีดาราหรือวีไอพีนั้น หรือหากต้องการถ่ายทำรายการ ก็ต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ดาราที่ขึ้นเขาล่าสุดก็คือ คุณกาละแมร์ และทีมงานประมาณ 29 คน แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดขณะที่ขึ้นไป ในประเด็นดราม่านำพานเครื่องบูชาขึ้นไปบนภูลังกานั้น ตนทราบเบื้องต้นว่าก่อนขึ้นไปคณะดารากลุ่มนี้ไม่ได้แจ้งว่าจะนำขึ้นไป ตนไม่แน่ใจว่าซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าหรือไม่ แต่เห็นว่าถือติดมือและนำลงมาในช่วงขากลับ
สำหรับเรื่องการเปิดเพลงก็เป็นลำโพงเครื่องเล็ก เพลงที่เปิดก็เกี่ยวกับบทสวดมนต์ อาจเป็นเพราะอยู่ในถ้ำแล้วเงียบสงัด ทำให้ความก้องของเสียงดังกล่าปกติ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ทราบว่าดารากลุ่มดังกล่าวจะพกลำโพงมาด้วย เพราะไม่ได้มีการตรวจค้นสัมภาระ หากเจ้าหน้าที่เห็นก็จะตักเตือนอยู่แล้ว และให้ฝากของไว้ที่จุดรับฝากด้านล่าง
นายสมชาย อายุ 55 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า เดิมทีตอนที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักถ้ำแห่งนี้ ชาวบ้านละแวกนี้ก็จะนำดอกไม้ไปถวายพระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ข้างบน ในช่วงวันสำคัญทางศาสนาเป็นประจำ ซึ่งดอกไม้ที่นำไปถวายส่วนใหญ่ก็จะเป็นดอกไม้ขาว (ดอกไม้ประจำถิ่น) แต่หลังจากคนเริ่มรู้จักแล้ว ก็มีกฎระเบียบเข้ามาควบคุมไม่ให้นำดอกไม้ ธูปเทียนขึ้นไป เพราะความเชื่อของชาวบ้านคือ ภูลังกาเป็นสถานที่ศักสิทธิ์และที่พักสงฆ์ ส่วนมากก็จะมีแค่สายบุญขึ้นไปเท่านั้น ต่างจากตอนนี้มากที่ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่นักท่องเที่ยว ชาวบ้านเชื่อว่าหากใครทำอะไรไม่ดี ก็จะเกิดอาเพศตามมาได้
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสพูดคุยกับ “ดีเจบุ๊คโกะ ธนัชพันธ์” ให้สัมภาษณ์ว่า การที่ได้เดินทางไปถ้ำนาคา ทำให้จิตใจของตนรู้สึกปีติ และเป็นสิ่งที่ทำแล้วสบายใจ โดยพื้นฐานของตนก็เป็นคนที่ศรัทธาในเรื่องของการทำบุญอยู่แล้ว และตนก็เชื่อว่าการที่เราทำดี ก็มักจะได้ดีตามมา ถ้าเราทำชั่วก็จะได้ชั่ว และเร็ว ๆ นี้ ตนก็จะเดินทางไปที่ถ้ำนาคาอีกครั้ง เนื่องจากตนได้ให้คำสัญญาว่าหลังปีใหม่จะกลับมาหา จึงวางแผนเดินทางไปในวันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ 65
ทั้งนี้ กรมอุทยานฯ มีกฎไม่ให้นำอุปกรณ์เครื่องไหว้ขึ้นไปบนถ้ำนาคาอยู่แล้ว และการที่นำอุปกรณ์เครื่องไหว้ขึ้นไปเยอะ ๆ ก็เป็นเรื่องที่รบกวนลูกหาบด้วย และการขึ้นถ้ำนาคาก็ต้องมีการจองคิวล่วงหน้า อีกทั้งยังต้องแจ้งว่าฉีดวัคซีนมาแล้วกี่เข็ม ข้อปฏิบัติตัวต่าง ๆ ก็จะมีไกด์มาแจ้งว่าทำได้หรือไม่ได้ขณะที่เราอยู่บนถ้ำนาคา
โดยสิ่งสำคัญต้องเชื่อฟังคำสั่งไกด์ตลอดทาง ตรงไหนถ่ายรูปได้ หรือเดินไปตรงไหนไม่ได้ ซึ่งระบบการจัดการของกรมอุทยานฯ ก็มีการจัดการที่เป็นระบบ และตนเชื่อว่าคนที่ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะต้องรู้ว่าควรทำอะไร หรือไม่ควรทำอะไร ส่วนระยะเวลาของการเดินทางขึ้นถ้ำนาคา ตนใช้ระยะเวลาเดินเท้าประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งระยะเวลาของการเดินก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายด้วย