กรณีพระนรวิชญ์ และพระนิคม ได้เดินทางไปที่วัดพระศรีวรมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน เพื่อร่วมงานศพของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย ก่อนจะเตรียมสึกในวันที่ (26 ม.ค.65) ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากคนในสังคม ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 26 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังวัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระรามที่ 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร พบว่าสื่อมวลชนหลายสำนักต่างปักหลักรอทำข่าว ตั้งแต่ช่วงเวลา 04.00 น. จนถึงเวลา 10.40 น. แต่ก็ยังไร้วี่แววของ พระนรวิชญ์ และพระนิคม เดินทางออกจากกุฏิ
กระทั่งเวลา 12.30 น. ทีมข่าวรายงานว่ามีนายตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 นาย หอบถุงบรรจุผ้าขาว เครื่องห่มสีขาว เดินทางตรงเข้าไปยังหน้าบริเวณกุฏิของพระนรวิชญ์ และพระนิคม หลังจากนั้นเพียง 10 นาที เวลา 12.40 น. พระนรวิชญ์ และพระนิคม ก็เดินออกจากกุฏิ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางเข้าไปกุฏิก่อนหน้า นำพาพระทั้ง 2 รูป ออกจากกุฏิ ซึ่งในระหว่างทางก่อนจะขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังวัดพระศรีวรมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน เพื่อร่วมงานศพของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย
ทางด้าน พระนรวิชญ์ ระบุว่า วันนี้ยืนยันว่าสึกอย่างแน่นอน หลังจากเดินทางไปไหว้กราบ ลาศพของหมอกระต่าย ที่วัดพระศรีวรมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน และหลังจากสึกจะนุ่งขาวห่มขาว เพื่อถือศีล 8 ซึ่งจะกลับมาสึกที่วัดปริวาสราชสงคราม
เมื่อทีมข่าวสอบถามว่า "หลังจากสึกแล้ว เรื่องคดีจะทำอย่างไรต่อไป" พระนรวิชญ์ กล่าวว่า ตนขอให้เป็นไปตามกฎหมาย และยินดีถูกดำเนินคดีที่จะถูกแจ้งเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหา เป็น 7 ข้อหา และพร้อมจะรับผิดทุกข้อกล่าวหา ส่วนประเด็นที่สังคมออนไลน์แชร์บัตรนัดตรวจตา ที่โรงพยาบาลตำรวจ พระนรวิชญ์ กล่าวยอมรับว่า ตนไปตรวจจริง แต่เป็นการไปตรวจหลังเกิดเหตุ พร้อมกับรถกู้ภัย ซึ่งขณะนี้อาการเจ็บตาเริ่มดีขึ้นแล้ว
บรรยากาศที่วัดพระศรีวรมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน เจ้าหน้าที่กองพิธีนำหีบบรรจุร่างพญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย เคลื่อนออกจากศาลา 3 เวียนรอบเมรุ 3 รอบ โดยน้องสาวของหมอกระต่าย เป็นผู้ถือเครื่องทองน้อย ตามด้วยคุณพ่อคุณแม่ ครอบครัวและญาติ ๆ ตลอดจนเพื่อนสนิทอย่าง "หมอเจี๊ยบ-พญ.ลลนา ก้องธรนินทร์" ที่มาร่วมส่งหมอกระต่ายเป็นครั้งสุดท้าย
โดยก่อนพิธีพระราชทานเพลิงศพ หมอเจี๊ยบ-ลลนา เป็นตัวแทนกล่าวประวัติของเพื่อนรัก ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้ที่มาร่วมงาน จากนั้นพิธีกรได้อ่านบทกลอนไว้อาลัยของคุณพ่อถึงหมอกระต่าย ขณะเดียวกันในวันนี้พบว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ก็ได้เดินทางมาร่วมเเสดงความไว้อาลัยด้วย
เมื่อพระนรวิชญ์ และพระนิคม เดินทางถึงยังวัดพระศรีวรมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน เพื่อร่วมงานพิธีพระราชทานเพลิงศพของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย ภายในงานพบว่า พญ.ลลนา ก้องธรนินทร์ หรือ หมอเจี๊ยบ เพื่อนสนิทของหมอกระต่าย ได้กล่าวคำลาถึงหมอกระต่าย ระบุว่า ทั้งเพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ คนที่สนิท และไม่สนิท เพื่อนบางคนเคยเจอหมอกระต่าย เพียงแค่ครั้งเดียว ก็สามารถสัมผัสได้ถึงเคมีบางอย่างที่ทำให้คนรักหมอกระต่ายจากหัวใจ
โดยในวันนี้เพื่อน ๆ ทุกคน พร้อมใจมาส่งหมอกระต่าย และทุกคนอยากบอกว่า ขอบคุณที่เป็นความสดใส เป็นเสียงหัวเราะ เป็นความทรงจำดี ๆ ของพวกเราทุกคน ขอบคุณสำหรับทุกความทรงจำที่ทั้งร้ายและดี ทุกกิจกรรมที่เคยทำด้วยกันมา ถึงแม้ไม่เห็นด้วยตา ไม่ได้ยินเสียง แต่หมอกระต่ายจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราตลอดไป "We love you my KT" และทุกคนพร้อมใจพูดพร้อมกัน
ต่อมาหลังจากเริ่มพิธีวางดอกไม้จันทน์ โดยมีประธานในพิธีเป็นผู้เริ่มพิธีวางดอกไม้จันทน์ ภายหลังจากประธานในพิธี และคณะแพทย์ ผู้ใหญ่ในวงการแพทย์ ได้ดำเนินการพิธีแล้วเสร็จ ทางด้านพระนรวิชญ์ และพระนิคม ก็เดินขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ในลำดับต่อมา โดยหลังเสร็จสิ้นพิธีแล้ว พระนรวิชญ์ และพระนิคม ได้เดินทางกลับยังวัดปริวาสราชสงครามทันที เพื่อที่จะกลับไปลาสิกขาบท พร้อมเตรียมนุ่งขาวห่มขาว รับศีล 8 ต่อไป
นพ.อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล พ่อของหมอกระต่าย ให้สัมภาษณ์ว่า ในครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ครอบครัวและเพื่อน ๆ จะได้ส่งลูกสาวไปสู่สุคติ หลังจากนี้ก็ไม่แน่ใจว่าครอบครัวจะเป็นอย่างไร คงต้องใช้เวลาและปรับตัวกันไป ส่วนงานของหมอกระต่ายที่ยังคงค้างอยู่ ตนและหมอกวาง น้องสาวของหมอกระต่าย จะเป็นผู้สานต่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเจตนารมณ์ในการรักษาผู้ป่วย หรืองานอาสาสมัครที่หมอกระต่าย มักจะออกตรวจในหน่วยอาสาต่าง ๆ
ส่วนคู่กรณีที่บวชให้กับลูกสาวของตน ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และตนก็ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วย ถึงแม้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นครอบครัวจะยังรู้สึกโกรธ เพราะไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเกิดกับใคร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่อโหสิกรรมให้กันไม่ได้ และตนก็ไม่ได้เคียดแค้นแล้ว สำหรับคดีความตนก็อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา มีความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย อะไรที่พูดออกมาก็ขอให้มีการปฏิบัติจริง ส่วนในอนาคตตนหวังว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน ทั้งพฤติกรรมกการขับรถ และหารือข้อบังคับในระดับสภา
"จะฟ้องทางเเพ่งเรียกค่าเสียหายหรือไม่ ผมยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากยังไม่ได้พูดคุยกับคู่กรณีในเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องรอดูท่าทีของคู่กรณีก่อนว่าจะเจรจาอย่างไร หรือเสนออะไรมาบ้างครับ" พ่อของหมอกระต่าย กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับบรรยากาศภายในงาน ได้มีการนำกลอนไว้อาลัยของคุณพ่อถึงคุณหมอกระต่ายมาติดบริเวณด้านหน้าศาลา เพื่อให้ผู้ที่เข้าร่วมไว้อาลัยได้ระลึกถึงหมอกระต่าย นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังนำข้อความที่มีการไว้อาลัยผ่านโลกออนไลน์มาติดไว้ที่หน้าศาลาเช่นเดียวกัน มีทั้งข้อความจากเพื่อน ๆ และคนไข้ที่หมอกระต่ายเคยรักษา เพื่อให้ครอบครัวได้รับรู้ว่ามีคนจำนวนมากที่รักและอาลัยถึงหมอกระต่าย
เวลาประมาณ 14.40 น. พระนรวิชญ์ และพระนิคม เดินทางกลับมายังวัดปริวาสราชสงคราม โดยทางด้านพระนิคม เปิดเผยว่า หลังจากนี้ไปคดีความก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ส่วนข้อหาทั้งหมดก็พร้อมยอมรับทุกข้อหา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า "ได้คุยกับลูกชายบ้างไหม" พระนิคม กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยกัน ส่วนหลังจากนี้ จะไปไหนต่อยังไม่ทราบ ขณะที่ พระนรวิชญ์ สีหน้าเคร่งเครียดไม่ได้ให้การตอบใด ๆ กับสื่อมวลชน ก่อนจะเดินทางเข้าไปยังกุฏิ
ต่อมาเวลา 14.50 น. พระนรวิชญ์ และพระนิคม ต้องเข้าสู่พิธีลาสิขา เพื่อสึกจากการเป็นพระ โดยมีพระอาจารย์และพระรูปอื่น ๆ ได้ร่วมสวดชัยมงคลคาถา พร้อมพระอาจารย์ทำการดึงสังฆาฏิออก เพื่อแสดงว่าเสร็จสิ้นพิธีสึก
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีสึก สิบตำรวจตรี นรวิชญ์ และร้อยตำรวจเอก นิคม ได้เดินทางลงมาเพื่อถอดผ้าเหลือง ถอดทั้งสังฆาฏิ จีวร และสบงออกจากร่างกาย ทั้งนี้ พระอาจารย์ได้ทำพิธีหลั่งน้ำพระพุทธบาตรให้กับทั้ง 2 คน ถือเป็นการรดน้ำให้ศีลให้พร
โดยร้อยตำรวจเอก นิคม มีอาการตัวสั่นและน้ำตาคลอ ตลอดระยะเวลาการทำพิธี ขณะที่ สิบตำรวจตรี นรวิชญ์ มีสีหน้าเศร้าหมอง และพยายามก้มหน้าก้มตาตลอดเวลา
ต่อมาเวลา 14.55 น. สิบตำรวจตรี นรวิชญ์ และร้อยตำรวจเอก นิคม เดินทางเข้ามายังศาลาอีกครั้ง โดยได้นุ่งขาวห่มขาว เดินทางเข้าเพื่อรับศีล 5 และกราบลาพระอาจารย์ โดยระหว่างรับศีลเสร็จสิ้นนั้น ได้กราบลาพระอาจารย์จึงพูดว่า "ทำแบบนี้ดีแล้ว ขอให้โชคดี"
หลังจากเสร็จสิ้นพิธี ร้อยตำรวจเอก นิคม กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้ไปวางดอกไม้จันทน์ให้หมอกระต่าย ตนก็ให้ขอให้คุณหมออโหสิกรรมให้กับลูกชายของตนด้วย หลังจากสึกแล้วก็จะนุ่งขาวห่มขาว เพื่อถือศีล 5 อยู่ที่วัดก่อน และยังไม่ทราบระยะเวลาว่าจะอยู่นานเท่าไร ตนขอปรึกษาลูกชายและพระอาจารย์ก่อน
เช่นเกียวกับสิบตำรวจตรีนรริชญ์ หลังสึกก็จะนนุ่งขาวห่มขาว ก็ยังมีสีหน้าที่เศร้าหมอง และไม่พูดไม่จา แตกต่างจากก่อนที่จะเดินทางไปร่วมงานพิธิพระราชทานเพลิงศพ ที่ยังให้การสัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ทั้งเรื่องการดำเนินคดีและข้อสงสัยต่าง ๆ และก็ยังไม่รู้ว่าจะรักษาศีลที่วัดเป็นเวลากี่วันเช่นกัน
ทั้งนี้ เนื่องจากนายชวน หลีกชัย ประธานรัฐสภา ได้มีโอกาสไปร่วมงานศพของหมอกระต่าย ทำให้นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการประชุมสภาฯ ว่า หลังเกิดอุบัติเหตุญาติโทรศัพท์เข้ามาในมือถือของหมอกระต่าย หลายครั้ง แต่กลับไม่มีผู้ใดรับสาย ทั้ง ๆ ที่โทรศัพท์มือถืออยู่กับเจ้าหน้าที่ และทำไมถึงปล่อยให้ผู้ต้องหาคดีร้ายแรงได้รับการปล่อยตัวไปบวชได้
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตัวแทนจากสำนักงานเขตราชเทวี และกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบทางม้าลาย บริเวณหน้าสำนักงานเขตราชเทวีถนนพญาไท จุดที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับหมอกระต่าย จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยมีการเดินสำรวจบริเวณทางม้าลายจุดเกิดเหตุและแยกพญาไท เพื่อหาจุดบกพร่องและจุดบอดในการหยุดรถที่จุดดังกล่าว