จากกรณี นายขวัญ เผือกขวัญยืน คนพิการทึ่เคยเป็นข่าว นั่งขอรับเงินบริจาคบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอ่อนนุช และมีผู้ใช้โซเชียลมีเดียนำเรื่องราวมาเผยแพร่ กระทั่งมีคนเห็นใจ และให้ความช่วยเหลือ บริจาคเงินทุนเพื่อให้ไปตั้งตัว กระทั่งมียอดเงินบริจาคสูงถึง 110,000 บาท อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเจ้าตัวตรวจสอบเงินในบัญชี พบว่ามีเงินหายไปเหลือเพียง 69 บาท ทั้งยังพบว่าเงินถูกทยอยโอนไปตั้งแต่เดือน พ.ย. 61 (อ่าน :
ชายพิการพาลูกขอทาน สุดซวย เพื่อนซี้ฉกเงินบริจาคนับแสนจากบัญชี คาดดักฟังรหัสในส้วม)
วันที่ 3 ม.ค. 61
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ขณะนี้มีหลักฐานหลายอย่างที่เขื่อมโยงไปถึงผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอยีดได้ เนื่องจากกลัวผู้ต้องสงสัยจะรู้ตัวและหลบหนี คาดว่าอีกไม่นานจะขอออกหมายจับและดำเนินคดี
ขณะที่
นายขวัญ เผือกขวัญยืน ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากข่าวนำเสนอไป ผู้ต้องสงสัยซึ่งตนคาดว่าอาจเป็นคนกดเงินก็ยังทำตัวปกติ เช้าวันนี้ยังเดินทางมาหาตนอยู่เพื่อเข้ามาสอบถามตนเรื่องจักรยานที่สั่งซื้อเอาไว้อยู่เลย แต่ทั้งนี้ ตนก็ไม่ได้สอบถามผู้ต้องสงสัยว่านำเงินบริจาคไปจริงหรือไม่ เพราะกลัวอีกฝ่ายจะไหวตัวและหลบหนีไป อีกทั้งตนก็รู้จักกับผู้ต้องสงสัยมากว่า 3 ปีแล้ว และไม่เคยมีปัญหากัน อีกฝ่ายไม่มีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย แต่ที่ตนให้น้ำหนักไปที่บุคคลนี้ เนื่องจากเป็นคนใกล้ตัวมากที่สุด และอยู่กับตนบ่อย บางครั้งนอนอยู่ที่ห้องจนกระทั่งเช้า
ส่วนตัวตนไม่เคยกดเงินออกจากบัญชีแม้แต่บาทเดียว ตอนนี้ตนแจ้งความที่ สน.บางนาแล้ว อยู่ระหว่างรอภาพวงจรปิดที่หน้าธนาคาร และรอหมายจับ อย่างไรก็ตาม ตนอยากบอกคนที่นำเงินไปว่าไม่โกรธ ไม่ว่า แต่หากต้องการเงินของตนก็ให้ขอดี ๆ จะได้ไม่เสียความรู้สึกต่อกัน เชื่อว่าคนก่อเหตุต้องเป็นคนใน และคนใกล้ชิด