จากเหตุการณ์ วันที่ 2 ม.ค. 62 เวลา 21.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ระหว่างรถเก๋งโตโยต้าวีออสสีดำ กับ รถฮอนด้าซีอาร์วีสีบอร์นเทา ที่มีนายจตุภัทร เข็มนาค หรือ เซนติเมตร อายุ 28 ปี สไตส์ลิสต์ชื่อดัง และพิธีกร พร้อม โจ้ ศุภกิจ อยู่ภายในรถซีอาร์วี ที่ตกลงไปในคลองชลประทาน โดยทั้ง 2 คนเสียชีวิต (อ่าน :
เผยนาที ซีอาร์วีถูกชนตกสะพานดิ่งคลอง “เซนติเมตร” สไตล์ลิสต์-เพื่อนดับ ชาวบ้านพยายามช่วยแต่ไม่รอด)
วันที่ 3 ม.ค. 62 พันตำรวจโทเอนก ไชยวงศ์ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ พร้อมพนักงานสอบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว โดยเบื้องต้นพบว่า ช่องทางขวาสุดที่รถเก๋งวีออสขับมานั้นเป็นช่องทางสำหรับรถเลี้ยวขวา หรือกลับรถเท่านั้น
ขณะที่ช่องเดินรถตรงกลางที่รถ CR-V ขับมานั้นสามารถทั้งตรงไปและเลี้ยวขวา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ พร้อมด้วยพยานหลักฐานเพื่อสรุปสำนวนคดีต่อไป
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่า เหตุเกิดเวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่การจราจรคับคั่งเนื่อง โดยรถ CR-V ของผู้ตายขับมาช่องกลาง ส่วนรถเก๋งวีออสสีดำขับมาทางช่องขวาสุด ซึ่งเป็นช่องทางสำหรับรถเลี้ยว
ขณะที่สัญญาณไฟเขียวรถผู้ตายได้ออกจากแยก แล้วจะเลี้ยวขวาไปทางวัดอุโมงค์ ส่วนรถเก๋งขับพุ่งตรงมาจึงทำให้ชนเข้ากับรถ CR-V ของผู้ตาย ก่อนที่จะเสียหลักไปชนกับราวสะพาน แม้ว่าการเฉี่ยวชนจะไม่รุนแรงมาก แต่กลับพบว่าราวสะพานหัก ทำให้รถตกลงไปสภาพพลิกคว่ำจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต
ด้าน
นางสาววิจิตรา ปุกบุญเรือง อายุ 26 ปี พนักงานบริษัทเอกชน คนขับรถเก๋งโตโยต้า เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยอ้างว่า ในช่วงเกิดเหตุตนกำลังขับรถอยู่บนถนนคันคลองชลประทานเชียงใหม่ จากตลาดต้นพยอม มุ่งหน้าไปทางตำบลแม่เหียะ ระหว่างนั้นจอดติดไฟแดงอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งขณะที่ออกตัว ปรากฏว่ารถของคู่กรณีที่อยู่ทางซ้ายได้พุ่งมาแล้วเบียด กระทั่งรถของคู่กรณีตกลงไปในคลองชลประทาน และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกตกใจและเสียใจอย่างมาก
ด้าน
นายวิฑูรย์ กองเกิด อายุ 36 ปี พนักงานกู้ชีพเทศบาลตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุ ทีมกู้ภัยเทศบาลตำบลสุเทพให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุดังกล่าวด้วย โดยเมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบว่า เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุคนแรกคือ เซนติเมตร ขึ้นมาได้แล้ว ขณะนั้นพบว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ได้สติ จากนั้นจึงนำขึ้นรถส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ส่วนผู้ประสบเหตุอีกคน เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้ภายหลัง โดยทีมกู้ชีพของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
ทั้งนี้ การช่วยเหลือเป็นไปอย่างลำบาก เนื่องจากภายคลองชลประทานน้ำเชี่ยวมาก ต้องใช้ความชำนาญ โดยเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยทุกคนพยายามให้การช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถแล้ว และรู้สึกเสียใจที่ผู้ประสบเหตุเสียชีวิต
นอกจากนี้พบว่า ชาวบ้าน และพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในบริเวณเกิดเหตุให้การว่า เห็นว่าหลังจากที่รถของผู้เสียชีวิตตกลงไปในคลองชลประทานแล้ว ยังได้ยินเสียงของผู้เสียชีวิตร้องขอความช่วยเหลือ แต่ชาวบ้านในบริเวณนั้นไม่สามารถช่วยได้เนื่องจากกระแสน้ำภายในคลองเชี่ยว ประกอบกับไม่มีความชำนาญ จึงได้รอหน่วยกู้ภัยเดินทางมาถึง
นอกจากนี้ ในช่วงประมาณ 12.00 น. ที่หน่วยรักษาศพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ครอบครัวและญาติของนายจตุรภัทร เข็มนาค หรือเซนติเมตร อายุ 29 ปี และนายศุภกิจ เกิดซ้ำ หรือโจ้ อายุ 30 ปี เข้าติดต่อและขอรับศพทั้งคู่เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า
โดยศพของนายจตุภัทร เข็มนาค หรือเซนติเมตร นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิดจังหวัดนครนายก ซึ่งจะตั้งศพที่วัดรังษีโสภณ ตำบลบ้านใหญ่อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ส่วนนายศุภกิจ หรือโจ้ จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร
ขณะที่
นายวินิจจัย ชลานุเคราะห์ นักสื่อสารมวลชนสายยานยนต์ และกูรูเทคโนโลยียานยนต์ เปิดเผยว่า กรณีที่รถพลิกคว่ำแล้วตกคูน้ำนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่คนในรถจะสลบและหมดสติ เนื่องจากเมื่อรถพลิกคว่ำหัวของผู้ที่อยู่ภายในรถจะไปกระแทกกับหลังคารถ ประกอบกับเหตุเกิดตอนกลางคืน เมื่อรถตกน้ำทำให้คนในรถมองไม่เห็น เพราะทุกอย่างจะตกอยู่ในความมืด
กูรูด้านรถยนต์ ยังบอกอีกว่า ขนาดรถพลิกคว่ำตีลังกาบนถนน คนขับยังมึนงงและหลงทิศทาง ยิ่งเมื่อตกน้ำด้วยแล้ว ผู้ประสบเหตุอาจช่วยเหลือตัวเองยาก โอกาสเสียชีวิตมีสูง ยิ่งรถเกิดอุบัติเหตุก่อนตกน้ำ อาจทำให้เหล็กตรงประตูอาจจะยุบจากแรงเฉี่ยวชน อาจทำให้เปิดประตูรถไม่ได้
แต่ถ้าหาก รถพลิกคว่ำตกน้ำแล้ว ยังไม่หมดสติ ตนแนะนำให้ปลดเบล แล้วใช้ก้านเหล็กตรงหมอนรองหัวงัดที่ร่องกระจกให้แตก แล้วจึงมุดออกมานอกรถ อย่างไรก็ตาม ตนแนะนำว่าควรจะมีค้อนทุบกระจก หรือไขควงขนาดใหญ่ที่แข็งแรง ใส่ไว้ที่หน้าคอนโซนรถ เผื่อกรณีฉุกเฉิน จะได้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ล่าสุด บรรยากาศที่วัดรังษีโสภณ ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก มีประกอบพิธีรดน้ำศพโรงเย็น สำหรับตั้งสวดบำเพ็ญกุศลศพเซนติเมตร และรองรับแขกที่จะเดินทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพ ในเวลา 16.00 น. ส่วนญาติที่เดินทางไปรับศพที่จังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าจะนำร่างของเซนติเมตร มาถึงวัดฯ เวลา 02.00 น. ของวันที่ 4 ม.ค.
นายสง่า ยะลาทรัพย์ หรือ อ๊อด อายุ 60 ปี เจ้าหน้าประจำวัดรังษีโสภณ เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับเซนติเมตรตั้งแต่เด็ก วันนี้ที่วัดได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับตั้งบำเพ็ญกุศลศพ คาดว่าญาติจะรับศพจากเชียงใหม่ เดินทางมาถึงในกลางดึก ซึ่งทางวัดจัดเตรียมเก้าอี้ประมาณ 400 ตัว และจะมีการประดับดอกไม้ในวันพรุ่งนี้
นายสง่า เล่าว่า เซนติเมตรเป็นคนนิสัยดี อัธยาศัยดี เวลาพบเจอกับคนในหมู่บ้านก็จะทักทายพูดคุย ไม่ใช่นิสัยนักเลง มีเพื่อนจำนวนมาก ซึ่งครั้งแรกที่ได้ยินข่าวในโทรทัศน์และในเว็บไซต์ ได้ยินนามสกุลของผู้ตาย ก็ยังไม่คิดว่าจะเป็นเซนติเมตร จนกระทั่งได้สอบถามคนในหมู่บ้านรวมถึงเจ้าอาวาสวัด จนทราบว่าผู้ตายคือเซนติเมตร อีกทั้งครอบครัวของเซนติเมตร เป็นคนที่ชอบทำบุญที่วัดแห่งนี้ บางครั้งมีบุญใหญ่ ทางครอบครัวของเซนติเมตรก็จะมาร่วมทำบุญทุกครั้ง อีกทั้งเมื่อเซนติเมตรกลับจากทำงานต่างจังหวัดกลับมาก็จะแวะมาทำบุญที่วัดเป็นประจำ ตนเองมักเห็นเซนติเมตรที่วัดบ่อยครั้ง